- บริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ในวันพุธที่ 20 เมษายน หลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไร: $17,630 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $2.24
สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อในผลงานของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา (NASDAQ:TSLA) คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงมากนักในช่วงนี้ หลังจากที่เทสลาสามารถเอาชนะปัญหาซัพพลายเชนขาดแคลน ที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ได้ และสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าทั่วโลกได้ทันความต้องการ นั่นจึงทำให้หุ้นของบริษัทเทสลาปรับตัวขึ้น 18.1% ภายในช่วงระยะเวลาหกเดือนล่าสุด แซงหน้าขาขึ้นของดัชนีแนสแด็ก 100 ที่ 7% มีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $1,028.15
นักวิเคราะห์เชื่อว่าในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทยนั้น นักลงทุนในหุ้นเทสลาทั่วโลกจะได้รับข่าวดี พวกเขาคาดว่ายอดขายในไตรมาสที่ 1 ที่นับถึงวันที่ 31 มีนาคมจะเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนกำไรนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากถึง 130% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว การคาดการณ์นี้แสดงให้เห็นว่านักวิเคราะห์มีความมั่นใจว่าเทสลาจะสามารถก้าวผ่านความท้าทายทั้งในแง่ของการผลิต โรคระบาด และสงครามในยูเครนได้อย่างไม่มีปัญหา
ก่อนหน้านี้ เทสลาได้ออกมาประกาศตัวเลขยอดส่งรถในไตรมาสที่ 1 ให้สาธารณะชนได้รับทราบ ทั้งๆ ที่ CEO คนเก่งนายอีลอน มัสก์ เคยออกมากล่าวเองว่า “นี่คือช่วงเวลาที่ท้าทาย” เพราะซัพพลายเชนขาดแคลน และโรคระบาดได้ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ในกรุงเซี่ยงไฮ้ต้องปิดทำการชั่วคราว
ในเดือนมกราคม เทสลาแก้ปัญหาด้วยการตกลงยอมซื้อแร่นิกเกิลจำนวน 75,000 เมตริกตัน นิกเกิลถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าตอนนี้เทสลากำลังเดินหน้าเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแร่นิกเกิล ไม่ว่าจะเป็น BHP Group ในออสเตรเลียเมื่อช่วงต้นปี และล่าสุดคือบริษัท Vale S.A. จากริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล
ปัจจัยเชิงบวกรุมล้อม
จากปัจจัยเชิงบวกที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่เราจะได้เห็นนักวิเคราะห์ต่างออกมาแซ่ซ้องสรรเสริญ เครดิต สวิส ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์เป้าหมายหุ้นขึ้นจาก $1,025 เป็น $1,125 โดยให้เหตุผลว่า
“เราเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นขึ้นเป็นทวีคูณเนื่องจากการเพิ่มความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเทสลาในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลง EV ทั่วโลก เรายังคงให้อันดับคะแนน “โดดเด่น” เอาไว้เพราะเชื่อว่าหุ้นเทสลาจะได้รับประโยชน์จากปัจจัยพื้นฐานที่ดีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าเทสลาจะสามารถเอาชนะตัดเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ได้หลายไตรมาส แต่เราก็ยังต้องขาเตือนนักลงทุนให้จับตาดูสถานการณ์โรคระบาดโควิดในจีนอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือปัจจัยเสี่ยงต่อกำลังการผลิตมากที่สุดของเทสลาในตอนนี้”
อีกความเสี่ยงหนึ่งที่นักลงทุนต้องไม่ลืมคือลักษณะเฉพาะตัวของหุ้นเทสลาที่มีความผันผวนสูง แม้จะมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว แต่ทวิตแต่ละครั้งของอีลอน มัสก์ ก็สามารถพานักลงทุนขึ้นรถไฟเหาะได้ตลอดเวลา
อ้างอิง: InvestingPro
ข้อมูลจาก InvestingPro ระบุว่าหุ้นเทสลามีค่า P/E อยู่ที่ 190 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และไม่เหลือพื้นที่ให้กับความผิดพลาดได้เลย ข้อมูลจากโมเดลคำนวณยังระบุอีกด้วยว่าหุ้นเทสลามีความเสี่ยงสูง เพราะปัจจัยเชิงบวกที่รุมล้อมมาก ทำให้มีคนต้องการมาก ระดับมูลค่าของหุ้นเทสลาที่ควรจะเป็นในเวลานี้คือ $814.08 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับราคาปัจจุบัน 20.8%