รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 กองทุน ETF สำหรับนักลงทุนที่ยังเชื่อว่าหุ้นพลังงานจะขึ้นต่อท่ามกลางความผันผวน

เผยแพร่ 08/04/2565 10:31
อัพเดท 02/09/2563 13:05

หลังจากช่วงขาขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อในช่วงต้นปี เมื่อเร็วๆ นี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลง ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ราคาน้ำมันเบรนท์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 103 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ มีราคาซื้อขายต่ำกว่าระดับต้านจิตวิทยา 100 ดอลลาร์ เพียง 98 ดอลลาร์ มีเพียงราคาก๊าซธรรมชาติที่ยังคงรักษาเส้นทางขาขึ้น และยืนอยู่เหนือ 6.07 ดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนีน้ำมันและก๊าซที่วัดโดยดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 56.6% ภายในช่วงระยะเวลา 12 เดือนและ 36.4% เมื่อเทียบตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน Dow Jones Oil & Gas Weekly Chart

บทความวันนี้แนะนำกองทุน ETF สามกองทุน ที่สามารถดึงดูดผู้อ่านที่ยังคงเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มพลังงาน  แม้ว่าราคาของกองทุนเหล่านี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจจะยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก แต่ก็อาจช่วยให้นักลงทุนได้รับประโยชน์จากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

1. First Trust Natural Gas ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $24.52
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $11.75 - $25.60
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.53%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.60% ต่อปี

กองทุนตัวแรกที่เราอยากจะนำเสนอมีชื่อว่า First Trust Natural Gas ETF (NYSE:FCG) เป็นกองทุนที่ให้นักลงทุนสามารถลงทุนกับหุ้นของบริษัทผู้ผลิตและสำรวจน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติ กองทุนนี้เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2007 FCG Weekly Chart

FCG เป็นกองทุนที่อ้างอิงราคาตามดัชนี ISE-Revere Natural Gas Index ปัจจุบันถือครองหุ้นอยู่ทั้งหมด 45 ตัว หุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนคิดเป็นสามส่วนของสินทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า $668.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Occidental Petroleum (NYSE:OXY), DCP Midstream (NYSE:DCP), ConocoPhillips (NYSE:COP), Western Midstream Partners (NYSE:WES) และ EOG Resources (NYSE:EOG)

FCG พึ่งสร้างจุดสูงสุดในรอบหลายปีไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน ตลอดระยะเวลา 52 สัปดาห์ล่าสุดให้ผลตอบแทนคืนแก่ผู้ถือครอง 91.4% เฉพาะปี 2022 มาจนถึงปัจจุบันได้มอบผลตอบแทนแก่ผู้ถือครองไปแล้วทั้งหมด 42.6%

2. John Hancock Multifactor Energy ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $31.02
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $17.48 - $32.36
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.85%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.40% ต่อปี

กองทุนตัวถัดมามีชื่อว่า John Hancock Multifactor Energy ETF (NYSE:JHME) เป็นกองทุนที่ถือหุ้นของบริษัทพลังงานชื่อดังในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นเปิดให้ลงทุนในเดือนมีนาคมปี 2016

JHME Weekly Chart

ปัจจุบัน JHME ถือครองหุ้นบริษัทอยู่ทั้งหมด 37 แห่ง มูลค่าของหุ้นสิบอันดับแรกคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ทั้งหมด $32.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นของบริษัทพลังงานชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Chevron (NYSE:CVX), Occidental Petroleum, ConocoPhillips, Exxon Mobil (NYSE:XOM) และ Valero Energy (NYSE:VLO)

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุนตัวนี้ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งหมด 40.4% และในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างขาขึ้นได้ 65.2% JHME พึ่งจะสร้างจุดสูงสุดในรอบหลายปีไปเมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม

3. VanEck Vectors Oil Refiners ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $30.05
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $25.70 - $31.65
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 2.14%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.59% ต่อปี

กองทุนตัวสุดท้ายที่เราจะแนะนำในบทความนี้มีชื่อว่า VanEck Oil Refiners ETF (NYSE:CRAK) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนเฉพาะหุ้นของบริษัทผู้กลั่นน้ำมันทั่วโลกเท่านั้น กองทุนนี้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปี 2015 ราคาของกองทุนอ้างอิงมาจากความต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบจริง และราคาจากหน้าโรงกลั่น CRAK Weekly Chart

ปัจจุบัน CRAK ถือหุ้นของโรงกลั่นอยู่ทั้งหมด 25 แห่ง อ้างอิงราคาตามดัชนี MVIS Global Oil Refiners Index หากพิจารณาเป็นสัดส่วน จะพบว่า CRAK ถือของหุ้นของโรงกลั่นที่อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกามากถึงสามส่วนจากหุ้นโรงกลั่นที่มีอยู่ในมือทั้งหมด นอกจากสหรัฐฯ แล้วก็จะมีหุ้นของโรงกลั่นที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น 11.75% อินเดีย 7.52% เกาหลีใต้ 6.39% โปแลนด์ 5.34% โปรตุเกส 4.98% ฟินแลนด์ 4.81% และอื่นๆ

หุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนคิดเป็น 60% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $19.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Marathon Petroleum (NYSE:MPC), Phillips 66 (NYSE:PSX) Reliance Industries (NS:RELI) Valero Energy ENEOS (OTC:JXHLY) และ Neste Oyj (OTC:NTOIY)

CRAK ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์เมื่อเดือนตุลาคมปี 2021 มอบผลตอบแทนแก่ผู้ถือครองภายในระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด 8.9% ตั้งแต่เดือนมกราคมมาจนถึงปัจจุบัน ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งหมด 11.4% 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย