บริษัทผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและความบันเทิงยักษ์ใหญ่ AT&T (NYSE:T) เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นหุ้นสำหรับผู้เกษียณอายุที่เชื่อถือได้ เนื่องจากในอดีต AT&T เคยมีการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ในตลาด เมื่อก่อนผู้ถือหุ้น AT&T จะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลเกือบ 8% ซึ่งเป็นหนึ่งในการจ่ายเงินปันผลสูงสุดในบรรดาบริษัทบลูชิพ
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่น่าสนใจอาจปิดบังความจริงที่ว่า AT&T กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้างพื้นฐานบริษัทครั้งใหญ่ เนื่องจากบริษัทตั้งเป้าที่จะแยกการดำเนินการด้านสื่อออก และมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นหลัก แม้ว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะดูน่าดึงดูดใจในระยะยาว แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนยังคงสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะสั้นของบริษัท
ตลอดสองปีที่ผ่านมา หุ้น AT&T ปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าดัชนีหลักอย่างเอสแอนด์พี 500 เสียอีก ตอนนี้มูลค่าหุ้นของบริษัทหายไปหนึ่งในสามของมูลค่าหุ้นที่มี และพึ่งจะร่วงลงอีก 1.60% เมื่อวานนี้ มีราคาปิดอยู่ที่ $23.94 การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของหุ้นตัวนี้ทำให้อัตราการปันผลของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนที่อยู่มานาน สัญญาณนี้ยังไม่เพียงพอที่จะบอกกับพวกเขาว่าหุ้น AT&T มีความน่าสนใจ ต่อให้บริษัทจะผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่สัญญาเอาไว้ว่าจะจบภายในสิ้นปีนี้ก็ตาม
ลางสังหรณ์ของความโชคร้ายนี้ยังไม่จบ เมื่อ AT&T ได้ออกมาประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ว่ามีแผนจะหั่นเงินปันผลลงประมาณครึ่งหนึ่งเนื่องจากการที่ WarnerMedia ต้องแยกไปอยู่ (NASDAQ:DISCA) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ในรายละเอียดของการประกาศนั้น AT&T จะลดอัตราปันผลลง 40% จากกระแสเงินสดที่ทำได้ คิดเป็นเงิน $1.11 ต่อหุ้นหรือ $8,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ก่อนหน้านี้ AT&T เคยมีอัตราการปันผลอยู่ที่ $2.08 ต่อหุ้น หรือคิดเป็น $15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
การส่ง WarnerMedia ไปให้กับ Discovery จะทำให้บริษัทแห่งใหม่นี้จะมีสตูดิโอภาพยนตร์มากมาย พร้อมด้วยแบรนด์และภาพยนตร์ของ HBO รวมถึงการถ่ายทอดสดกีฬาที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน เมื่อทำเช่นนี้ก็จะทำให้คอนเทนต์ของพวกเขามีคุณสมบัติเพียงพอในการต่อกรกับยักษ์ใหญ่ในวงการภาพยนตร์ตอนนี้อย่างเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) และดิสนีย์ (NYSE:DIS) ได้
แต่ก่อนที่จะได้ปลาชิ้นที่ใหญ่ขึ้น การปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทก็จะทำให้หุ้น AT&T มีความน่าสนใจน้อยลง มีความเสี่ยงจากการที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหุ้นที่มีอัตราการปันผลดี และสร้างรายได้สม่ำเสมอให้กับนักลงทุนมากขึ้น จอห์น สแตนคีย์ CEO ของ AT&T ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า
“ที่เราทำทั้งหมดไปเพราะต้องการให้ความสำคัญกับอัตราการเติบโตและเพิ่มเสถียรภาพให้กับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท ผมอยากเพิ่มงบบางส่วนลงในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจนี้เพื่อ [สร้าง] ผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าที่เราจ่ายเป็นเงินปันผลอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงถึงเวลาที่บริษัทแห่งนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว”
ทิศทางใหม่ของ AT&T ทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดแบ่งออกเป็นฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนมองว่านี่คือโอกาสทำกำไรมากขึ้นในระยะยาว ในขณะที่บางคนมองว่าการกระทำนี้คือความเสี่ยง ข้อมูลจาก InvestingPro เผยว่าตอนนี้มูลค่าที่ควรจะเป็นของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ $32.26 ต่อหุ้น ซึ่งถือว่าสูงกว่าระดับราคาปัจจุบัน 51.5%
ที่มา: InvestingPro
สำหรับนักวิเคราะห์ของ Investing.com ตอนนี้ 11 จาก 31 คนยังเชื่อว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นน่าซื้อ ส่วนที่เหลือยังคงมองเอาไว้ที่ระดับกลางๆ
ที่มา: Investing.com
โดยสรุปแล้ว
บริษัท AT&T กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างครั้งใหญ่ เพราะมีความเชื่อว่าวิธีนี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวได้มากกว่า โครงสร้างใหม่นี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการให้ความสำคัญไปที่การเติบโต โดยโฟกัสไปที่การดำเนินงานที่ธุรกิจโทรคมนาคมหลัก และลดภาระหนี้จำนวนมหาศาล แต่เมื่อพูดถึงการปันผล AT&T อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีอย่างเช่นที่เคยเป็นมาก่อนอีกแล้ว