🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์: AMD, Alphabet, Amazon

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 31/01/2565 17:02
US500
-
GOOGL
-
AMZN
-
AMD
-
IXIC
-
SOX
-
GOOG
-

ตลาดลงทุนเข้าสู่โหมดเป็นกังวลทันทีหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าธนาคารกลางฯ อาจทำอะไรมากกว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งเพื่อดึงสภาพคล่องออก ลดเงินเฟ้อ และนำเสถียรภาพทางเศรษฐกิจกลับมา คำพูดดังกล่าวทำให้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง 8% จากจุดสูงสุดตลอดกาล ในขณะที่แนสแด็กลงมาจากจุดสูงสุด 15% คิดเป็นขาลงตลอดทั้งเดือน 12%

ในสัปดาห์นี้จะเป็นการเริ่มสัปดาห์ที่หนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 อย่างเป็นทางการ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่มักจะออกมาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนใหม่ไม่ว่าจะเป็นดัชนี PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลขการว่างงาน นอกจากนี้รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนชื่อดังต่อจากสัปดาห์ที่แล้วก็ยังไม่จบ ในสัปดาห์นี้จะมีบริษัทยักษ์ใหญ่ใดบ้างที่จะรายงานผลประกอบการ บทความนี้จะพาไปดู

1. Advanced Micro Devices

บริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ชื่อดัง “เอเอ็มดี” (NASDAQ:AMD) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าไตรมาสนี้เอเอ็มดีจะสามารถทำกำไรได้ $4,470 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.75

AMD Weekly TTM

การชะลอตัวของหุ้นเทคฯ ในปีนี้ได้สร้างผลกระทบต่อหุ้นเทคโนโลยีชื่อดังไปทั่วทั้งตลาด และหุ้นของเอเอ็มดีก็ไม่ได้รับการยกเว้น ตั้งแต่ต้นปี 2022 จนถึงปัจจุบัน หุ้นเอ็มดีปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 27% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $105.24 เช่นเดียวกับดัชนีวัดมูลค่าหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์จากฟิลาเดเฟียที่ปรับตัวลดลงประมาณ 16%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในหุ้นของเอเอ็มดี เพราะในเดือนตุลาคมบริษัทเอเอ็มดียังสามารถรายงานผลประกอบการที่เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ได้ พร้อมทั้งยังคาดการณ์ว่าไตรมาสที่สี่นี้ บริษัทน่าจะยังไม่มีปัญหาในแง่ของการสร้างผลกำไร ตราบใดที่ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์ยังไม่มีที่สิ้นสุด

กำไรในไตรมาสที่สี่นั้นนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะมาจากยอดขายการ์ดจอประมวลผล และชิปคิมพิวเตอร์ต่างๆ ทั้งสองส่วนคิดเป็นอัตราการเติบโตของบริษัท 39% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว หากรายงานผลประกอบการครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 39% เป็นไปได้ว่ายอดขายในปีนี้ของเอ็มดีอาจเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%

2. Alphabet 

บริษัทแม่ของเสิร์ชเอ็นจิ้นชื่อดัง ‘กูเกิล’ (NASDAQ:GOOGL) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันเวลาเดียวกันกับเอเอ็มดี นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้กูเกิลจะสามารถทำกำไรได้ $72,230 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $27.80 GOOGL Weekly TTM

ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อกำไรจากการฝากโฆษณาของกูเกิล ทำให้หุ้นบริษัทในไตรมาสที่สามสามารถทำผลงานในช่วงขาลงได้ดีกว่าเพื่อนในกลุ่ม FAANG วงการท่องเที่ยง ค้าปลีก และสื่อต่างๆ ลงทุนให้การฝากโฆษณาบนกูเกิลอย่างหนัก เพราะเชื่อว่ามีโอกาสที่โลกจะกลับไปอยู่ในยุคก่อนโควิดได้ 

ถึงแม้ว่าตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้นกูเกิลจะปรับตัวลดลงมา 8% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $2,667.02 แต่หุ้นกูเกิลก็ยังได้รับการแนะนำให้เป็นตัวเลือกน่าลงทุนภายในกรอบระยะเวลา 12 เดือน ด้วยผลงานขาขึ้นในปีที่ผ่านมา 65%

3. Amazon

บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกนาม 'แอมาซอน' (NASDAQ:AMZN) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาสนี้แอมาซอนจะสามารถทำกำไรได้ $137,730 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $3.72 AMZN Weekly TTM

ปัญหาซัพพลายเชนคอขวด เงินเฟ้อที่ทำให้ค่าแรงสูงขึ้น สร้างผลกระทบให้กับราคาหุ้นของแอมาซอนมาตลอดระยะเวลาหกเดือนล่าสุด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้ แอมาซอนจึงได้ลงทุนอย่างหนักกับการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์กลางรวบรวมข้อมูล ในปีนี้หุ้นแอมาซอนปรับตัวลดลงมาแล้ว 14% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $2,879.56 

ถึงแม้ว่าในปี 2020 จะเป็นปีทองของหุ้นแอมาซอน การที่ผู้คนถูกบังคับให้อยู่แต่บ้าน ทำให้ยอดการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากแอมาซอนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อปัญหาเงินเฟ้อ กับซัพพลายเชนคอขวดเข้ามาในปีนี้ ทำให้บริษัทต้องพบปัญหาการส่งมอบสินค้าให้ทันความต้องการของลูกค้าได้ ในเดือนตุลาคม แอมาซอนได้เตือนนักลงทุนว่ากำไรที่ได้มา $140,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงไตรมาสที่สาม อาจจะไม่สามารถกลายเป็นรายได้ให้กับบริษัทได้เลย

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย