Powell ออกมาพูดอะไรบ้าง เรามาสรุปกัน เมื่อวานภาพรวมถือว่าค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีมุมที่ยังรู้สึกกังวลอยู่เหมือนกัน ขอพูดในส่วนที่ดีก่อนล่ะกัน
1. Powell บอกว่าเศรษฐกิจอเมริกาแข็งแกร่งพอที่จะเริ่มใช้นโยบายทางการเงินแบบเข้มงวดขึ้น ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้ง(3-4 ครั้ง) จะไม่ส่งกระทบอะไรต่อเศรษฐกิจ และปลายปีก็มีโอกาสที่จะลด Balance sheet ด้วยเลยเหมือนกัน สรุปคือ Powell บอกว่าเศรษฐกิจเริ่มยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว FED จึงควรเริ่มถอนความช่วยเหลือได้และจะไม่ส่งผลกระทบ
2. ข้อนี้สำคัญ เพราะ Powell มองว่าปัญหาเงินเฟ้อจะเริ่มชะลอตัวลงในครึ่งปีหลัง และกลับเข้าสู่ปกติในปลายปี 2023 และการจ้างงานจะกลับไปปกติในปีหน้า(Full employment) และ FED มองว่าปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโตดีมากๆ ถ้าตาม Road map นี้ FED ถอนความช่วยเหลือออกมา และเริ่มขึ้นดอกเบี้ยให้กลับไปใกล้ในจุดที่เราอยู่ก่อนวิกฤต และตอนจบที่นักลงทุนชอบมาก คือ But it's a long road to normal from where we are คืออีกนานมากๆ กว่าจะถึงจุดนั้น ซึ่งแสดงว่า FED จะเข้มงวดทางการเงินจริง แต่คงจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ซึ่งถือว่าดีมากเพราะ ดูไม่ได้ too aggressive เกินไป
3. แต่ประเด็นคือ ถ้าเงินเฟ้อไม่ได้ลดลงอย่างที่ FED คาดล่ะ powell ถ้าเราจำเป็น เราก็จะขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นอีก และเราจะใช้เครื่องมือของเราในการทำให้ inflation ลดลงให้ได้ ข้อนี้ดูจะเป็นความเสี่ยงเหมือนกัน เพราะเงินเฟ้อที่สมมุติเพิ่มยาวนานกว่าที่คิด เครื่องมือของ FED จะช่วยได้ขนาดไหน เช่น ถ้า FED ขึ้นดอกเบี้ยก็จะกระทบตลาด house and rent และปัญหา supply chain อย่างรถมือสองที่คนหันมาซื้อรถมือสองเพราะขาด chip รวมถึงราคาน้ำมันที่อาจจะยังสูงอยู่จากการที่คนหันไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่ FED ไม่น่าจะแก้ด้วยนโยบายทางการเงินได้เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็แล้วแต่เราติ้งต่างว่า FED Forecast เงินเฟ้อถูกก่อนล่ะกัน แต่ถ้าแนวโน้มเงินเฟ้อยังสูงอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง อันนี้น่าจะไม่ดีแน่ๆ
4. อันนี้ตลาดชอบ หลายครั้งที่ Powell ออกมาพูด มักจะ support ตลาดหุ้นตลอด เราจะเห็นว่า หุ้นลงมาหลายวัน แต่ก่อน Powell พูด ได้มีการขายทำกำไร short จนตลาดจากที่โดนขายราวๆ 2% ดีดขึ้นไปจนไม่ติดลบ และช่วงที่ Powell พูดก็ดีดขึ้นต่อ เพราะนโยบายที่ยืดหยุ่น ถ้าเกิดเศรษฐกิจเริ่มโตช้ากว่าที่คาด การขึ้นดอกเบี้ยก็ขึ้นช้าตามด้วย แสดงว่าการขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งที่คาดในปีนี้ ก็อาจจะไม่ถึงก็ได้ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในอนาคต หรือบอกเป็นนัยว่า ถ้าเริ่มเห็นท่าไม่ดี ก็พร้อมจะกลับไป support ต่อทันที นี่คือสิ่งที่ตลาดอยากได้ยินจาก policy maker
5. จริงๆ Powell ก็ยังบอกว่า Wage ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นสาเหตุให้เงินเฟ้อ จากข้อมูลเขา ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ถูกส่งต่อไปที่ผู้บริโภค ดังนั้นสิ่งที่เราต้อง Focus ในส่วนของเงินเฟ้อหลักๆ น่าจะเป็นเรื่องโควิดซึ่งทำให้เกิดปัญหา supply chain จนทำให้เงินเฟ้อพุ่งไม่หยุด ซึ่งจริงๆถ้าไปฟังกรรมการ FED คนอื่นก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเลยว่า ปัญหานี้จะคลี่คลายในปีนี้ได้ขนาดไหน เพราะจริงๆ ถ้าเกิดปัญหาโควิดที่จีน จนโรงงานต้องหยุด Supply chain จะกระทบมหาศาล และแน่นอนเงินเฟ้อก็จะไม่ลงง่ายๆได้เลย
6. สิ่งที่ยังคาใจอีกนิดคือ Powell บอกว่าเศรษฐกิจหลังโควิดจะเปลี่ยนไปบางอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าอย่างไหน อาจจะตีความได้หรือเปล่าว่า ถึงแม้การระบาดจะลดลง แต่เงินเฟ้อจะไม่ชัดเจนว่ามันจะลดลงได้หรือไม่
สรุป ดังนั้นภาพรวมเมื่อวานออกมา ถือว่าดีเลยนะ แต่มีคำว่า ถ้า** ถ้าเป็นไปตาม Road map ของคณะกรรมการ FED ที่คาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อ แต่ถ้าเงินเฟ้อยังยืดเยื้อ เราคงต้องติดตามใกล้ชิดแล้วล่ะ ว่า FED ที่บอกมีเครื่องมือเยอะแยะในการทำให้เงินเฟ้อลดลง คืออะไร เพราะเงินเฟ้อในตอนนี้ เหมือนจะไม่ได้แก้ง่ายๆ แค่เพราะการขึ้นดอกเบี้ย และยังต้องคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจอีกด้วย เพราะถ้าปล่อยให้เงินเฟ้อยังสูง หรือ Policy mistake ขึ้นเราก็มีโอกาสกลับไป Recession อีกรอบก็ได้ เมื่อวานจะว่าดีก็ดี แต่ก็ยังดูเต็มไปด้วยความเสี่ยงเหมือนกันนะ
โชคดีครับ
ติดตามข่าวสารการลงทุนได้ที่ Bigmove club news