🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจคือลมต้านขาขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ ในปี 2022

เผยแพร่ 05/01/2565 13:49
XAU/USD
-
US500
-
GC
-
CL
-
DE10YT=RR
-
US10YT=X
-
US2US10=RR
-

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.5% หลังจากที่ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดก่อนปิดปีใหม่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่ 1.63%

US 10-year Weekly Chart

นักลงทุนเริ่มต้นปี 2022 ด้วยความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐอเมริกาและหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกจะทำลายสถิติยอดผู้ติดเชื้อโควิดตลอดสองปีที่ผ่านมาได้ แต่ตลาดลงทุนเริ่มทำใจยอมรับกับความเสี่ยงดังกล่าว และให้ความสำคัญกับยอดผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราได้เห็นตลาดหุ้นและราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และกดดันราคาทองคำให้ร่วงลง

ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ “CME’s FedWatch” ระบุว่ามีความเป็นไปได้ถึง 54% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดคือเดือนมีนาคมปี 2022 ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ดัชนีดังกล่าวเคยมีค่าตัวเลขอยู่ที่ 26% ก่อนจะขยับขึ้นมาเป็น 50% ในวันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม นั่นจึงทำให้ตลาดลงทุนหวังว่ารายงานการประชุมในช่วงกลางเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะออกมาในสัปดาห์นี้จะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ้าง

ลดเงินเฟ้อ ขึ้นดอกเบี้ย: คือโจทย์ใหม่ที่ตลาดโยนให้เหล่าธนาคารกลางในปีนี้

การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์คือข้อสรุปของตลาดลงทุนที่มีต่อโอมิครอนว่าไม่ร้ายแรงอย่างที่เคยกังวลกัน แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะสูงจนน่ากลัว แต่จนถึงตอนนี้ยอดผู้ป่วยรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตยังมีเพียง 3% เท่านั้นในรอบสองสัปดาห์ล่าสุด

นักลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปก็เริ่มที่จะตั้งตัวได้แล้วเช่นกัน เมื่อตลาดหุ้นยุโรปในวันจันทร์ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล กดดันราคาพันธบัตรรัฐบาลให้ปรับตัวลดลง ข้อมูลเมื่อวันจันทร์ระบุว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นไปยังระดับ - 0.1225% เทียบกับ -0.1800% จากวันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม (เพราะตลาดหุ้นเยอรมันปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม)

German 10-year Weekly Chart

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าปี 2022 นี้มนุษยชาติจะได้กลับไปใช้ชีวิตใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดมากกว่าสองปีที่ผ่านมา พวกเขาให้เหตุผลว่าเป็นเพราะตอนนี้โลกของเรามีทั้งวัคซีน มีทั้งเข็มบูสเตอร์ มีทั้งยาต้านโควิดแบบเม็ดแล้ว และถึงแม้ว่าโควิดจะกลายพันธุ์ต่อไป แต่ความรุนแรงก็จะลดลง ยิ่งถ้าการระบาดของโอมิครอนจบลง ผู้คนก็จะยิ่งตระหนักถึงความจริงนี้ได้มากขึ้น และการระบาดครั้งต่อไปก็จะมีคนสนใจน้อยลง และ ณ จุดนั้นเอง (หากธนาคารกลางคุมเงินเฟ้อเอาไว้ได้) จะเป็นจังหวะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาจากความต้องการที่อัดอั้นไว้ 


หากความกังวลเกี่ยวกับโควิดหมดไป ความสนใจของตลาดลงทุนจะหันมาอยู่ที่ความสามารถในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของรัฐบาลและธนาคารกลาง เมื่อราคาสินค้าและอาหารได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกดราคาที่เคยสูงไปแล้วให้ปรับตัวกลับลดลงมา นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นธีมการลงทุนประจำปีนี้เลย เพราะความยากนั้นอยู่ที่ธนาคารกลางจะวางนโยบายการเงินอย่างไรให้ยังสนับสนุนสภาพคล่องทางเศรษฐกิจต่อไป และในขณะเดียวกันก็ต้องวางให้รัดกุมพอเพื่อกดภาวะเงินเฟ้อลงมา

ที่ผ่านมานั้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลงมาวิ่งอยู่ในระดับต่ำอย่างผิดธรรมชาติ และนักเศรษฐศาสตร์บางคนก็เชื่อว่าสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยจริงติดลบนั้นจะคงอยู่ได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นน้อยคนมากที่เชื่อว่าปัญหานี้จะสามารถคลี่คลายได้ด้วยตัวเองภายในปี 2022 

แลร์รี่ แฮทเทอเวย์ และอเล็กซ์ ฟรีดแมน สองผู้ก่อตั้งงาน “๋Jackson Hole Economics” มองข้ามผลกระทบเงินเฟ้อที่มีต่อตลาดลงทุนไปแล้ว ในบทความที่พวกเขาตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์ระบุว่า เมื่อไหร่ที่โลกทำเหมือนกับโควิดเป็นเรื่องปกติ ตอนนั้นเองจะเป็นจังหวะที่ซัพพลายเชนกลับมาแข็งแกร่ง และถ้าได้ผสมโรงกับช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วมีอัตราการเติบโตขึ้นไปถึงจุดสูงสุด นั่นจะเป็นจังหวะที่เงินเฟ้อกลายเป็นเรื่องของอดีตไปเลย

ในความเห็นของพวกเขาที่มีต่อตลาดพันธบัตร ทั้งสองคนมองว่าจริงอยู่ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อราคาพันธบัตรมากนัก 

“จริงอยู่ว่าในปี 2022 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ ยังจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ แต่ความเร็วในการขึ้นนั้นจะค่อยๆ ลดลงสวนทางกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง การหยุดอัดเงินเข้าระบบของกระทรวงการคลัง และนโยบายการเงินที่ตึงตังมากขึ้นในช่วงสั้นๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวกดเส้นเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนระยะสั้นและยาวให้แบนลง”


ที่ผ่านมาเส้นเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนระยะสั้นและยาวมักถูกใช้เป็นตัวบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ถ้าหากปี 2022 จะได้ชื่อว่าเป็นปีแห่งการฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบจริง ก็ต้องมารอดูกันว่าเส้นเปรียบเทียบฯ ดังกล่าวจะถูกกดให้แบนได้มากน้อยเพียงใด

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย