หลังจากสร้างขาขึ้นมาได้อย่างงดงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตอนนี้หุ้นของบริษัทผู้ให้บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ชื่อดังเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) เริ่มออกอาการหมดแรง ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน หุ้นเน็ตฟลิกซ์ได้ปรับตัวลดลงมามากกว่า 12% ขาลงครั้งนี้เกือบเป็นสองเท่าของขาลงในหุ้นกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) และเฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) นับตั้งแต่สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $700.99 ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ตอนนี้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ได้ร่วงลงมา 15% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $593.74
ขาลงของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ในช่วงนี้เกิดมาจากความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน ที่ไม่ต้องการถือหุ้นสายเติบโตอีกต่อไป ในวันที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาประกาศชัดแล้วว่าจะเร่งจบการลด QE และหาทางขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ได้สามครั้งภายในปี 2022
ในความเห็นของเรา การย่อตัวลงมาครั้งนี้เปิดโอกาสให้เข้าช้อนหุ้นเน็ตฟลิกซ์ เราเชื่อว่าขาลงครั้งนี้จะลากยาวข้ามปีไปจนถึง 2022 แน่นอนว่าเราไม่ได้ชี้ให้เข้าซื้อหุ้นเน็ตฟลิกซ์เพราะเห็นว่ามีราคาถูกเท่านั้น แต่เรามีเหตุผลอ้างอิงให้เชื่อได้ว่าเน็ตฟลิกซ์ยังคงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางส่งภาพยนตร์ให้ถึงมือผู้บริโภคได้ดีกว่ายักษ์ใหญ่รายอื่นๆ
เมื่อลองเทียบมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดระหว่างบริษัทเน็ตฟลิกซ์และดิสนีย์ (NYSE:DIS) จะพบว่ามีมูลค่าหลักทรัพย์ที่ใกล้เคียงกันแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมิกกี้เมาส์มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ $264,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับเน็ตฟลิกซ์ที่ตัวเลข $263,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งๆ ที่ดิสนีย์มีธุรกิจที่หลากหลายว่าเน็ตฟลิกซ์เยอะมากไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก โรงภาพยนตร์ รีสอร์ท และบริการภาพยนตร์สตรีมมิ่ง “ดิสนีย์พลัส”
สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของเน็ตฟลิกซ์อย่างมากคือกระแสการเติบโตของภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่มีฉายเฉพาะบนเน็ตฟลิกซ์เท่านั้น ปีนี้เน็ตฟลิกซ์ลงทุนไปกับส่วนนี้ประมาณ $17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 40% จากปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เน็ตฟลิกซ์ได้เพิ่มงบประมาณให้กับการสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่มีฉายเฉพาะบนเน็ตฟลิกซ์จาก 7.2% ในปี 2017 เพิ่มขึ้นเป็น 18.3% ในปี 2020 ข้อมูลล่าสุดจากรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 พบว่างบส่วนนี้ถูกเพิ่มขึ้นอีก 23%
การเติบโตของเน็ตฟลิกซ์ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เน็ตฟลิกซ์ท้าทายตัวเองด้วยการกระโดดเข้าสู่น่านน้ำธุรกิจใหม่ที่ตัวเองไม่คุ้นเคย ยกตัวอย่างเช่นวิดีโอเกม แม้ว่าจะยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่ก็ทำให้ผู้ถือหุ้นเน็ตฟลิกซ์รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นเกมแรกจากฝีมือของเน็ตฟลิกซ์ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จาก 44 คนของ Investing.com ยังยกให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์อยู่ในระดับ “โดดเด่น” และยังเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ระดับราคาเป้าหมายขึ้นจากปัจจุบันอีก 14% ด้วย
ที่มา: Investing.com
Doug Anmuth นักวิเคราะห์จากธนาคารเจพี มอร์แกน ได้ให้ราคาเป้าหมายของหุ้นเน็ตฟลิกซ์เอาไว้ที่ $750 เขาให้เหตุผลเอาไว้ว่า
“เน็ตฟลิกซ์ยังคงเป็นผู้ให้บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งเพียงเจ้าเดียวที่ไปถึงทุกพื้นที่บนโลก และมีแนวโน้มจะขยายตัวบนพื้นที่นั้นๆ ต่อไปเรื่อยๆ ปีนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าเน็ตฟลิกซ์มีการเอาใจใส่ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น แต่เดิมพื้นที่นี้มีผู้ให้บริการรายอื่นเป็นเจ้าถิ่นอยู่แล้ว ประกอบกับการระบาดที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้นจนอาจจะนำมาสู่การล็อกดาวน์ ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เน็ตฟลิกซ์กลับมาทำกำไรได้มากขึ้นอีกครั้ง”
มอร์แกน สแตนลีย์ ธนาคารชื่อดังยังคงจัดอันดับหุ้นเน็ตฟลิกซ์ให้อยู่ในระดับโดดเด่นอีกครั้งในเดือนนี้ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า
“การจัดอันดับหุ้นเน็ตฟลิกซ์ให้อยู่ในระดับโดดเด่นของเราอ้างอิงมาจากความสามารถขยายตลาดนอกชายฝั่งอเมริกา การที่เน็ตฟลิกซ์เดินทางไปถึงพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกก่อน ทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าผู้ครองตลาดในพื้นที่นั้นๆ จากการคาดการณ์อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ของเราในปีงบประมาณ 21E ถึง 25E อัตราการปันผลของหุ้นเน็ตฟลิกซ์มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก 30%”
ในไตรมาสที่ 3 เน็ตฟลิกซ์ได้กำไรเพิ่มจากสมาชิก $4.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และในไตรมาสนี้พวกเขาคาดการณ์เอาไว้ว่าจะได้กำไรเพิ่ม $8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้เน็ตฟลิกซ์มียอดผู้ชำระค่าบริการทั้งโลกรวมแล้ว 214 ล้านราย
อีกหนึ่งประเด็นที่นักลงทุนควรเก็บข้อมูลเอาไว้พิจารณาคือการเติบโตของเน็ตฟลิกซ์ตอนนี้ไม่ได้พึ่งพางบประมาณในส่วนของหนี้อย่างเช่นที่เคยทำมาในอดีต บริษัทยังมีแผนที่จะลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่อง และซื้อหุ้นคืนในวงเงิน $5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยสรุปแล้ว
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ได้กลับมาอยู่ในช่วงที่เรียกว่ามีลมหนุนอีกครั้ง การกลับมาระบาดของเชื้อไวรัส การมีสถานภาพทางการเงินที่ดี การมีคอนเทนต์ซีรีส์และภาพยนตร์คุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์ ปัจจัยเหล่านี้คือโครงสร้างที่แข็งแกร่งของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ขาลงครั้งนี้จึงถือว่าเป้นจุดเข้าที่ดี