Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610-1,635 จุด เราคาดว่า SET มีโอกาสฟื้นตัวระยะสัน ตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุม FOMC ที่เป็นไปตามคาด (คงดอกเบี้ยนโยบาย เร่งลด QE ปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี 65 เริ่ม มิ.ย. 65) อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ในอังกฤษ หลัง WHO ยังคง ให้น้ำหนักสถานการณ์ที่รุนแรง กลยุทธ์การลงทุนหลัก เราให้น้ำหนักหุ้นในพอร์ตเพียง 50% โดยยังคง เน้นหุ้นในกลุ่ม Domestic play เป็นหลัก ขณะที่เราแนะนําเก็งกําไร Event plays หุ้นในกลุ่ม Oil play หุ้นที่ได้ประโยชน์จากผลการประชุม FOMC และประเด็นต่างประเทศ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชําระหนี้ โดยร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ จะนําเสนอประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ต่อไป เราเลือก PTTEP PTT (BK:PTT) SPRC KBANK (BK:KBANK) TTB และ BLA ผลการประชุม FOMC ตามคาด เชื่อเป็นปัจจัยหนุน SET ช่วงสั้น - 7 ประเด็นสําคัญที่ได้จาการประชุม คณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (1) มติเป็นเอกฉันท์ในการ คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% (2) ปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อน คลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเดือนละ 30,000 ล้านเหรียญ ตั้งแต่ ม.ค. 2565 เพิ่มจากเดิมที่ 15,000 ล้าน เหรียญ ซึ่งจะทําให้เฟดยุติการทํา QE ใน มี.ค. 256543) การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี 2565 และจํานวน 2 ครั้งในปี 2566 และอีก 2 ครั้งในปี 2557 ซึ่งจะทําให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1.25% -1.50% ภายในสิ้นปี 2566 จากระดับ 0.006-0.25% ในปัจจุบัน และจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงระดับ 2.25% ภายในกลางปี 2567 (4) คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบียครั้งแรก ในเดือน มิ.ย. 2565 (5) ปรับลดประมาณการ GDP สหรัฐฯ ปี 60 ขยายตัว 5.5% ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 5.5% แต่ปรับเพิ่ม ประมาณการ GDP ปี 2565 ขยายตัว 4.0% ปรับลดประมาณการ GDP ปี 2566 เหลือขยายตัว 2.2% และ ประมาณการ GDP ปี 2567 ขยายตัว 2.0% ขณะที่ประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP สหรัฐฯ ในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 1.8% (6) ปรับเพิ่มประมาณการอัตราเงินเฟ้อในปี 2564-66 สู่ระดับ 5.39% 2.69% และ 2.3% ตามลําดับ และคงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2567 ที่ระดับ 2.1% ขณะที่ประมาณการอัตราเงินเฟ้อ ในระยะยาว ยังคงไว้เท่าเดิมที่ 2.0% และ (7) ปรับลดประมาณการ อัตราว่างงานในปี 2564-2565 สู่ระดับ 4.3% และ 3.59% ตามลําดับ ขณะที่คงประมาณการ ปี 2560-2567 ที่ระดับ 3.5% ทั้ง 2 ปี และคงตัวเลข ประมาณการอัตราว่างงานในระยะยาวที่ระดับ 4.0% เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร เราเลือก KBANK ITB และ BLA
ราคาน้ำมันดิบตอบรับเชิงบวกช่วงสั้น หลัง EIA รายงานปริมาณสํารองน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดูอย่างมี นัยสําคัญ - สํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณสํารองน้ำมันดิบ สหรัฐฯ ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ้นสุดวันที่ 10 ธ.ค. มากกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล โดย EIA รายงานปริมาณสํารองน้ำมันดิบ ที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา (จุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ้นสุดวันที่ 10 ธ.ค. โดยปริมาณสํารองน้ำมันสําเร็จรูป (1) น้ำมันเบนซินลดลง 700,000 บาร์เรล (คาดเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล) และ (2) น้ำมันกลัน (ฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล) ลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล (คาดูลดลง 400,000 บาร์เรล) อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสํารองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 815,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ้นสุดวันที่ 10 ธ.ค.
แนะเก็งกําไรกลุ่ม Oil Play เราเลือก PTTEP PTT และ SPRC • WHO ยังคงให้น้ำหนักไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรง คาดจะเป็นสายพันธุ์หลักในอังกฤษ ภายใน 48 ชั่วโมง
- องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือน ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมครอน สามารถทําให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ขณะที่ปัจจุบันมีหลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้วัคซีนต้านโควิด-19 มีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันการติดเชื้อและ การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่ WHO คาดว่าจํานวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุก 2 วัน หรืออาจใช้เวลาน้อยกว่า 2 วัน โดยประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จะทําให้สายพันธุ์โอมครอน กลายเป็นสายพันธุ์หลัก ในกรุงลอนดอน ภายในเวลา 48 ชั่วโมง โดยรายงานผู้ติดเชื้อในอังกฤษรายวันล่าสุด เพิ่มขึ้น 78,610 ราย ทําจุดสูงสุดใหม่ของปี 2564 ขณะที่ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดไปแล้วกว่า 77 ประเทศ อย่างไรก็ตามเรามองผลกระทบต่อ SET ไม่มาก โดยก่อนหน้านีบริษัทไฟเซอร์ รายงานผลการวิเคราะห์ ขั้นสุดท้ายยืนยันว่า ยาแพกซ์โลวิดของทางบริษัทสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษา ตัวในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตได้ถึง 89% รวมไปถึงประสิทธิภาพที่สูงของวัคซีนเข็ม 3 (Vaccine Booster Dosage) อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีการรายงานความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น จะกลับมาเป็น Sentiment เชิงลบ มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก THCOM JWD และ AH
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities