Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด เราคาดว่า SET มีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะ Technical Rebound หลังสะท้อนปัจจัยเสียงระยะสั้นที่เกิดขึ้นจากการ ค้นพบการกลายพันธุ์ของโควิด-19 สายพันธุ์ omicron ทําให้ SET ปรับลดลง 58.77 จุด (-3.6%) ในช่วง 2 วันทําการที่ผ่านมา ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ยังลดทอนน้ําหนักต่อการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การฟื้น ตัวจะเป็นไปอย่างจํากัด จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะรายงานจาก WHO ล่าสุด ที่ระบุกรอบเวลาของการศึกษา ทั้งการกลายพันธุ์ของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron และประสิทธิภาพ ของวัคซีน ไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ ทําให้เราเชื่อว่า SET จะยังผันผวนในช่วงเวลาดังกล่าว กลยุทธ์การ ลงทุน เราให้น้ําหนักหุ้นในพอร์ตเพียง 50% โดยเรายังแนะนํากลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการเปิดเมือง (ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์) ได้แก่ กลุ่มธุรกิจร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มสถานีบริการน้ํามัน กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มขนส่งในเมือง กลุ่มสื่อนอกบ้าน ตาม Core Investment ใน Theme กําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว ขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการเปิด ประเทศ (เปิดรับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ) จะเหมาะสมกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงจากความ ผันผวนในระยะสั้นได้ โดยเราให้น้ําหนักเป็นเพียงการเก็งกําไรเท่านั้น ในหุ้นกลุ่ม Global Play กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว โรงแรมและการบิน) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม • WHO มองโอไมครอนมีความเสี่ยงสูง คาดใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน
- วานนี้ (29 พ.ย.) องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยแพร่เอกสารทางเทคนิคที่เกี่ยวกับโอไมครอน ระบุว่า มีความเสี่ยงสูงทั่วโลก และการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ Omicron ที่พบในแอฟริกาใต้ และอาจแพร่ ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ใน Spike Protein มากถึง 32 ตําแหน่ง จึงทําให้สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งเพิ่มโอกาสในการแพร่เชื้อระลอกใหม่ในอนาคต อย่างไรก็ ตาม WHO ยังต้องทําการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รวมทั้งต้องศึกษาประสิทธิภาพของ วัคซีน ว่าสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการได้หรือไม่ หากเกิดการติดเชื้อที่เป็นสายพันธุ์ Omicron โดย WHO คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ ทั้งการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์โอไมครอน และ ประสิทธิภาพของวัคซีน แต่หลักฐานเบื้องต้นมีน้ําหนักมากพอที่จะสรุปได้ว่า การกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ โอไมครอนมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อซ้ํา ขณะที่ปัจจุบันบริษัทไบออนเทค ประกาศเริ่มพัฒนาวัคซีนสูตร ใหม่เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เป็นการเฉพาะแล้ว เป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาด หุ้นยุโรป และสหรัฐฯ SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง หลังพบการแพร่ระบาดของ Omicron - Market Consensus คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 หลังพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ซึ่งอาจเป็นปัจจัยจํากัดการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจ โดย FedWatch Tool ของ CME Group ที่เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์การซื้อขายสัญญา ล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐฯ พบว่า ตลาดให้ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีก 0.25% (ปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ อยู่ที่ 0% ถึง 0.25%) ในการประชุมนโยบายการเงินเดือน มิ.ย. 2565 เพียง 45.7% (เดิม 82.1%) รวมทั้งลดความเป็นไปได้ที่เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เดือน ก.ค. 2565 เหลือเพียง 42.2% เดือน ก.ย. 2565 เหลือ 34.59% เดือน พ.ย. 2565 เหลือ 24.9% และ เดือน ธ.ค. 2565 เหลือ 14.7%
ราคาน้ำมันดิบผันผวน คาด OPEC+ จะชะลอแผนการเพิ่มกําลังผลิต ลดแรงกดดันด้านอุปทาน - ติดตามการ ประชุมกําหนดนโยบายการผลิตน้ํามันของกลุ่ม OPEC+ วันที่ 2 ธ.ค. โดย Market Consensus เริ่มให้ น้ําหนักความเป็นไปได้ที่กลุ่ม OPEC+ จะมีการระงับการเพิ่มกําลังผลิต ในเดือน ม.ค. 2565 (มติเดิม OPEC+ มีแผนจะเพิ่มกําลังผลิตน้ํามั่น 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในแต่ละเดือน ต่อเนื่องถึง เม.ย. 65) เพื่อรับมือกับอุป สงค์ที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron ที่พบในแอฟริกาใต้ รวมทั้งเป็นการตอบโต้มาตรการของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร ในการระบายน้ํามันดิบจากคลังสํารอง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก โดยกรณีที่การ เจรจาประสบความสําเร็จ จะทําให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ํามันในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณส่งออก เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายใน 6-12 เดือน โดยปัจจุบันอิหร่านมีการผลิตน้ํามันดิบเพียงพอ กับความต้องการใช้ในประเทศที่ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เท่านั้น รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานดัชนีการทําสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 7.56MoM. มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก CRD TPS และ NER
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities