เย็นๆ วันอาทิตย์แบบนี้ อากาศอาจจะไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่ในใจหลายคนอาจกำลังร้อนรุ่มว่าพรุ่งนี้ตลาดหุ้นจะเปิดมาอย่างไร จะมีเด้งมั้ย หรือจะลงต่อ 1600 จะรับอยู่มั้ย หุ้นที่มีในพอร์ตจะขายดีมั้ย เงินสดที่มีจะซื้อหุ้นที่ลงมาเลยดีมั้ย ภาพเหตุการณ์เดิมๆ ตอน SET ลงหนักๆ กลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
ผมอยากเล่าแนวคิดส่วนตัวของผมให้ฟังกันแบบนี้ครับ
เริ่มต้นที่SET
โดยทั่วไปแล้ว ตลาดมีสิ่งที่กลัวและไม่ชอบคือ
ตลาดกลัวความไม่รู้
ตลาดไม่ชอบความไม่แน่นอน
แปลว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความคลุมเครือแบบตอนนี้ COVID สายพันธุ์ใหม่ล่าสุดอย่าง Omicron ยังไม่ชัดนัก ดูน่ากลัว แพร่กระจายได้ไว กลายพันธุ์หลายตำแหน่ง แต่ก็มีคนมาบอกว่า คนที่ติดอาการดูไม่รุนแรง ส่วนวัคซีนที่มีกำลังทดสอบอยู่ว่าต้านทานได้มั้ย หลายประเทศเริ่มระงับการเดินทางประเทศที่มาจากแอฟริกา เรียกได้ว่ามีทั้งประเด็นบวกและลบ แต่ภาพก็นยังไม่ชัดเท่าไหร่
ตลาดเมื่อวันศุกร์ก็เลยเลือกที่จะลงก่อน เอาไว้พอสถานการณ์ชัดเจนเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ขอให้เห็นภาพเคลียร์ๆ ตลาดก็จะเลือกทางเอง
คิดเป็นSCENARIO
เมื่อเราไม่รู้ว่า สถานการณ์จะเป็นอย่างไร เราก็ต้องติดตามข่าวถึงการระบาด อาการของผู้ติดเชื้อและผลการทดสอบของวัคซีนไปเรื่อยๆ แล้วก็ลองประเมินสถานการณ์เป็น Scenario ต่างๆ ว่า ถ้าออกมาแบบไหน เราจะรับมืออย่าไร
1️. Worst Case ไวรัสแพร่กระจายทั่วโลก วัคซีนปัจจุบันเอาไม่อยู่ ต้องรอพัฒนา
กรณีเลวร้ายสุดๆ ถ้าเกิดแบบนี้ เราอาจต้องกลับไป lock down ปิดประเทศ ปิดเมือง แปลว่า คนที่มีเงินก็คงไม่ต้องรีบ หรือคนที่มีหุ้นอยู่อาจจะเลือกขายหุ้นที่ได้รับผลกระทบ แล้วมาเลือกหุ้นชุดใหม่เข้ามาแทน หุ้นที่ได้ผลบวก ก็คงเป็นหุ้นชุดเดิมที่ได้รับผลบวกจาก COVID ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ถุงมือยาง หุ้น tech consult ซึ่งเป็นตัวที่บวกแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
แต่ว่ารอบนี้อาจจะไม่เหมือนรอบก่อน คือ ถ้ามีวัคซีนเมื่อไหร่ หรือ Omicron ไม่รุนแรง หุ้นกลุ่มนี้ก็มีโอกาสลงกลับไปได้เร็วเช่นกัน
2️. Worse Case ไวรัสแพร่กระจายหลายประเทศ เข้ามาไทยด้วย รอผลวัคซีน
หรือต้องใช้เวลาปรับแต่งซักระยะ
กรณีนี้ อาจจะมีการปิดประเทศ ปิดเมืองบางจุด ทำมาหากินได้ Work from Home สลับกับไปทำงานที่ออฟฟิศ แต่ก็ด้วยความระมัดระวังขั้นสูง เคสนี้ เราก็อาจจะถือเงินสด ทยอยซื้อหุ้นที่ราคาลงแรง และคาดว่าจะกลับมาเมื่อมีข่าววัคซีน หรือการแพร่เชื้อที่ช้าลง หรือถ้าใครถือหุ้นดีอยู่แล้วจะมองว่า ราคาลงมาชั่วคราว ซื้อเพิ่มหรือถือข้ามพอร์ตไปเลยก็อาจทำได้เช่นกัน
3️. Base Case ไวรัสแพร่กระจายบางประเทศ ไม่เข้าไทย ไม่รุนแรง รอผลวัคซีน หรือต้องใช้เวลาปรับแต่งซักระยะ
กรณีนี้ คงจะไม่ปิดประเทศ ไม่ปิดเมือง ทำมาหากินปกติ แต่ระมัดระวังตัวกัน ไม่ค่อยเดินทางกันเยอะ เราก็ควรที่จะวางแผนทยอยซื้อหุ้นที่ผิดราคา ลงมาแรงเกินจริง ไม่ได้กระทบอะไรขนาดนั้น หรือหุ้นที่แนวโน้มการเติบโตดี รวมถึงหุ้นเปิดเมืองที่ราคายังไม่ขึ้นไปไกล
4️. Best Case ไวรัสจำกัดการแพร่กระจาย คุมอยู่ อาการไม่แรง คนติดเชื้อไม่มากแล้วค่อยๆ ลดลง มีวัคซีนป้องกัน
กรณีนี้ ไม่ปิดประเทศ ไม่ปิดเมือง ใส่หน้ากาก ล้างมือ ใช้ชีวิตเหมือนตอนนี้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติ หุ้นมีโอกาสเด้งแรง เราก็ซื้อหุ้นตามแผนเราเลย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นเปิดเมือง หุ้น growth หุ้นที่ราคา laggard แล้วก็ติดตามผลประกอบการไป
โดยสรุป คือ เราไม่ได้คาดเดาตลาดว่าจะขึ้นหรือลง แต่เราวางแผนเป็น scenario ให้รู้ว่า สถานการณ์จะออกมาหน้าไหนได้บ้าง และเราก็จะรู้ว่า เราควรจะรับมืออย่างไร เช่น ถ้าปิดประเทศ ไม่ปิดเมือง หุ้นร้านอาหาร ห้าง ร้านค้า IT ที่ลงมากันเยอะๆ ก็อาจจะไม่กระทบ เราก็พิจารณาได้ หรือถ้าไม่ปิดประเทศ เหตุการณ์ไม่รุนแรง หุ้นนิคม หุ้นอสังหา ก็อาจเป็นโอกาส
- เพื่อนๆ ลองทำการบ้านกันดูครับ วางแผนอย่างมีสติตอนตลาดปิด แล้วเราจะไม่ขาดสติตอนตลาดเปิดถ้าราคาหุ้นขึ้นหรือลงแรง โชคดีครับทุกคน
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น