รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ข่าวโอไมครอนกดราคาน้ำมันร่วง สมควรเข้าซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันตอนนี้เลยหรือไม่

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 29/11/2564 17:06

นับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้น การถือกำเนิดของตัวกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ถือเป็นตัวแรกที่ทำให้ราคาน้ำมันอ่อนไหวได้มากที่สุด นักลงทุนทิ้งสินทรัพย์ที่มีความต้องการมากที่สุดตัวหนึ่งในตอนนี้ทันทีหลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศชื่อของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ พร้อมทั้งให้รัฐบาลทั่วโลกจับตาการกระจายตัวครั้งนี้อย่างใกล้ชิดVDE Weekly TTM

ผลกระทบจากการประกาศชื่อโอไมครอนทำให้ราคากองทุน ETF พลังงานชื่อดัง Vanguard Energy Index Fund ETF (NYSE:VDE) ที่ถือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันชื่อดังของอเมริกาอย่างเช่น Exxon (NYSE:XOM) Chevron (NYSE:CVX) เมื่อวันศุกร์ปรับตัวลดลงประมาณ 5% นักลงทุนเชื่อว่าโอไมครอนจะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจต้องชะลอตัว และความต้องการพลังงานก็จะลดลง

ก่อนหน้าที่จะมีการพูดถึงโอไมครอนกันอย่างกว้างขวาง ตลาดน้ำมันกำลังอยู่ในช่วงดราม่าว่าจะทำอย่างไรถึงจะกดราคาน้ำมันให้ลดลงมาได้ ตลาดทั้งปี 2021 VDE ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 50% สร้างขาขึ้นมากกว่าดัชนีเอสแอนด์พี 500 สองเท่า ราคาน้ำมันดิบWTI มีราคาซื้อขายในเดือนตุลาคมอยู่ที่ $80 ต่อบาร์เรล ทำสถิติขึ้นถึง $80 ต่อบาร์เรลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 

การที่ WHO ประกาศให้จับตาการระบาดของโอไมครอนสะท้อนให้เห็นถึงความอันตราย และการระบาดที่สามารถทำได้ย่างรวดเร็วกว่าเดิมของโควิดสายพันธุ์นี้ ความเร็วโอไมครอนอาจชะลอการฟื้นตัว และกดดันบริษัทผู้ผลิตน้ำมันให้ต้ิงกลับเข้าสู่โหมดรักษาสภาพคล่องอีกครั้ง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงเกือบ 12% จากความกังวลว่าทั่วโลกอาจต้องระงับเที่ยวบินจริงจัง และกลับเข้าสู่การล็อกดาวน์อีกครั้ง

สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานการตอบโต้ไวรัสโควิดโอไมครอนของแต่ละประเทศว่าตอนนี้อิสราเอลได้ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวจากประเทศที่พบโอไมครอนเข้าประเทศ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เยอรมัน และเบลเยี่ยมมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว และอาจจะมีมาตรการคุมเข้มมากกว่าเดิมถูกประกาศออกมาภายในสัปดาห์นี้

ความเห็นของนักวิเคราะห์จากธนาคารชื่อดัง

กลับเข้ามาสู่คำถามที่ว่า “สมควรเข้าซื้อหุ้นของบริษัทน้ำมันตอนนี้เลยหรือไม่” ตามความเห็นของเรา ขาลงครั้งนี้ (และอาจจะลงต่อในสัปดาห์นี้) คือโอกาสทองสำหรับนักลงทุนในตลาดพลังงาน เพราะต่อให้จะมีไวรัสหรือไม่ ระดับอุปสงค์อุปทานตอนนี้ที่ยังไม่มีเสถียรภาพก็ทำให้บริษัทผู้ผลิตน้ำมันไม่กล้าที่จะลงทุนเกี่ยวกับการหาแหล่งพลังงาน หรือหาอุปกรณ์สำหรับการขุดเจาะเพิ่ม

นอกจากนี้ปัจจัยกดดันที่ไม่สามารคควบคุมความเสี่ยงได้เช่นโลกร้อน โรคระบาดยิ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ถูกกดดันจากผู้ถือหุ้น ให้หยุดใช้เงินแต่หันมาเก็บเงินเพิ่ม เกิดความเป็นไปได้ที่อาจจะนำเงินเหล่านั้นไปลงทุนในเครื่องมือหรือวิธีใหม่ๆ ที่จะช่วยพาราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะยาว

เจฟ คิวรี่ หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของโกลด์แมน แซคส์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า

“การลงทุนระยะยาวในตลาดน้ำมันถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว คำแนะนำของผมในตอนนี้คือคุณควรถือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมัน หรือสินทรัพย์ในก็แล้วแต่ที่มีความเกี่ยวข้องกับน้ำมันเอาไว้จนกว่าตลาดจะหาสมดุลของราคาน้ำมันเจออีกครั้ง แน่นอนว่าสำหรับตอนนี้ไม่ใช่ที่ราคา $60 ต่อบาร์เรลอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้เรายังไม่เห็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใดกล้ากลับมาลงทุนกับสินทรัพย์ระยะยาวที่มักจะนำมาซึ่งรายได้ของกิจการในอนาคต (CAPEX) เลย”

ธนาคารชื่อดังหลายแห่งต่างพากันคาดการณ์ราคาน้ำมันในอนาคตไปต่างๆ นาๆ โกลด์แมน แซคส์เชื่อว่าจะได้เห็นราคาน้ำมันที่ $85 ต่อบาร์เรลภายในปี 2023 มอร์แกน สแตนลีย์มองเอาไว้ที่ $70 ต่อบาร์เรล และบีเอ็นบี ปาริบาส ประเมินเอาไว้ที่ $80 ในปี 2023CVX Weekly TTM

ข้อมูลจากรายงานผลประกอบการของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยิ่งตอกย้ำความเป็นไปได้ของความเห็นเหล่านี้ ในไตรมาสที่ 3 เชฟรอนมีระดับกระแสเงินสดสูงที่สุดในรอบ 142 ปี พวกเขาบอกกับนักลงทุนว่าจะใช้เงินต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด 20% และจะดำเนินการทยอยซื้อหุ้นคืนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เอ็กซอน โมบิล ก็ได้ปรับเพิ่มการปันผลรายไตรมาสขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อรักษาผู้ถือหุ้นอย่างที่เคยทำเอาไว้ในปี 2020

โดยสรุปแล้ว

ด้วยสถานการณ์ที่ระดับอุปสงค์และอุปทานน้ำมันยังไม่มีจุดสมดุล จึงถือเป็นเรื่องที่ควรทำหากจะถือสินทรัพย์ใดก็ตามที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดพลังงานเช่น หุ้นบริษัทน้ำมัน การเก็บกระแสเงินสดเอาไว้ ความพยายามที่จะรักษาผู้ถือหุ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นนี้ พฤติกรรมเช่นนี้หากไม่เรียกว่าโอกาสทองก็ไม่รู้ว่าควรเรียกว่าอะไรแล้ว

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย