Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,660 จุด เราคาดว่า SET จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway down จากปัจจัยเสี่ยงที่เริ่มกลับมามี น้ําหนัก 3 ปัจจัยได้แก่ (1) มุมมองของเฟดที่คาดว่าจะเร่งการทํา QE และการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย หลังได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นในอัตราเร่ง (2) สงครามการค้ารอบใหม่ หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ําบาตร 12 บริษัทจากจีน และ (3) การค้นพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (B.1.1529) ในแอฟริกาใต้ โดยนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ มองเป็น Serious Concern เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ Spike Protein มากถึง 32 ตําแหน่ง อาจทําให้ประสิทธิภาพของ วัคซีนลดลง เรายังคงกลยุทธ์การลงทุนเดิม โดยเรายังให้น้ําหนักหุ้นในพอร์ต 50% แนะนําลงทุน หุ้นในพอร์ต Core Investment โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว รวมทั้งหุ้นในกลุ่ม Re-opening ที่เราแนะนําอย่างต่อเนื่อง และ Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ในลักษณะเก็งกําไร อย่าง BLA PTG SPRC TOP WHA และ AMATA • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทําการเมื่อวาน (25 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทําการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันนี้ (26 พ.ย.) สงครามการค้ารอบใหม่ เรามองเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก - กระทรวงพาณิชย์จีน รายงานจีนไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงที่สหรัฐทําการคว่ําบาตรบริษัทจีน 12 แห่ง และเตรียม หามาตรการตอบโต้ทางการค้า โดยกระทรวงพาณิชย์จีน มองการคว่ําบาตรในครั้งนี้ ไร้กฎเกณฑ์ ขาดพื้นฐานของความจริง และไม่โปร่งใส รวมทั้งยังไม่เป็นไปตามฉันทามติระหว่างผู้นําของทั้งสอง ประเทศ ไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ และจะเป็นปัจจัยกระทบ Supply Chain ทั่วโลก และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก กรรมการเฟดมีความเห็น ควรเร่งการปรับลด QE และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย มองเป็นปัจจัยกดดัน ตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมทั้ง SET - รายงานประชุมส่งสัญญาณชัด เฟดพร้อมเร่งลด QE เพื่อเปิดทาง ขึ้นดอกเบี้ย: ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุด (ประชุม FOMC ล่าสุด วันที่ 2-3 พ.ย.) โดยกรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงินของ เฟด (FOMC) ควรเตรียมความพร้อมในการเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ ผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วขึ้น จากแผนปัจจุบันที่จะมีการปรับลดวงเงิน QE ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ (อาจเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน หรือสูงกว่า) และปรับเพิ่มกรอบ เป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Federal Funds Rate) ให้เร็วขึ้นจากการคาดการณ์ในปัจจุบัน หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของคณะกรรมการ FOMC มองเป็นปัจจัยกดดัน ตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมทั้ง SET อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน โดยเลือก KBANK (BK:KBANK) ITB และ BLA
• บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้
Company Update: BCH (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 29 บาท) คาดผลประกอบการ 4Q64 อ่อนตัว QoQ แต่เติบโต YoY - รายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ลดลง แต่ยังมีต่อเนื่อง การฟื้นตัวของจํานวน ผู้ป่วยทั่วไป และวัคซีนทางเลือกช่วยหนุน ปัจจัยหนุนปี 2565 มาจาก (1) การกลับเข้ามาใช้บริการ ของผู้ป่วยปกติและผู้ป่วยชาวต่างชาติ (2) โควต้าจํานวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น และ (3) Laboratory การนําเข้ายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการจําหน่ายน้ําวิตามิน เราปรับกําไรสุทธิปี 2564 ขึ้น 31% สะท้อนการดําเนินงานที่ดีกว่าคาด เรายังมีมุมมองเป็นบวก แม้กําไรปี 65 จะลดลง YoY แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่สูงกว่าปกติในปี 2564 อย่างไรก็ตาม ประมาณการกําไรสุทธิในปี 2565 ยังคงสูงกว่าในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ยังคงแนะนํา “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมาย 29.00 บาท มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค: TCLSAPPE และ SECURE
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities