Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,660 จุด ตลาดหุ้นยังมีโอกาส ผันผวนในกรอบ Sideway หลัง SET ทยอยปรับเพิ่มในเดือน พ.ย. 64 กว่า 1.6% และขึ้นทดสอบ 1,650 จุด ซึ่งเป็นกรอบบนรายสัปดาห์ในเชิงเทคนิคที่เราประเมินไว้ กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนํา หุ้นในพอร์ต Core Investment โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว ที่เราแนะนํา อย่างต่อเนื่อง และ Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และ กลุ่มประกัน จากมุมมองของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ Bottomed out และ Downside ที่จํากัด มากขึ้น ขณะที่สัญญาณเศรษฐกิจของไทยผ่านจุดต่ําสุดไปแล้ว สหรัฐฯ เสนอ พาวเวล ดํารงตําแหน่งประธานเฟด สมัยที่ 2 ตลาดพันธบัตรตอบรับเชิงบวก เรามองเป็นบวก ต่อกลุ่มธนาคารและประกันชีวิต - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศในวันนี้ว่า เขาได้เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดํารงตําแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 โดยกระบวนการต่อไป นายเจอโรม พาวเวล ต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ เราประเมินว่าแม้จะมีสมาชิกวุฒิสภาบางราย มีแนวโน้มที่จะ คัดค้านการเข้ารับตําแหน่งประธานเฟดของนายพาวเวล แต่เรวเชื่อว่ากระบวนการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ
สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 1.632% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 1.973% ตอบรับความเป็นไปได้ที่ นายเจอโรม พาวเวล จะยังคงดําเนินนโยบายการเงิน ที่ตึงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน 2H65 ขณะที่ปัจจัยในประเทศ แม้จะยังคงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายตามมติการประชุม กนง. ล่าสุด รวมทั้งการคงประมาณการ GDP ปี 2564 และเติบโตใน อัตราที่เพิ่มขึ้นในปี 2565 เป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจของไทยผ่านจุดต่ําสุดไปแล้ว เช่นเดียวกับอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ Bottomed out และ Downside ที่จํากัดมากขึ้น เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มประกัน เราเลือก KBANK (BK:KBANK) TTB และ BLA แต่จะเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อ
ราคาน้ํามันดิบฟื้นตัวระยะสั้น แนะเพียงเก็งกําไร โดยเรายังคงมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มราคาน้ํามันดิบ - ราคาน้ํามันดิบยังคงผันผวน แม้ล่าสุดจะกลับมาฟื้นตัว หลังปรับลดลง 8.8% ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา การกลับมาฟื้นตัวของราคาน้ํามันดิบ หลังมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ จะมีการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตน้ํามัน (OPEC+ มีมติเพิ่มกําลังผลิตน้ํามัน 400,000 บาร์เรลต่อวัน สําหรับ เดือน ธ.ค. 64) เพื่อเป็นการตอบโต้ สหรัฐฯ จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ที่อาจจะปล่อยน้ํามันดิบสํารอง (SPR) รวม 100-120 ล้านบาร์เรล ออกสู่ตลาด รวมทั้งตอบรับเชิงบวกต่อการที่ นายโจ ไบเดน เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดํารงตําแหน่งประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มราคาน้ํามันดิบในช่วง ที่เหลือของปี 2564 จากการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ํามันดิบที่จํากัดจากสถานการณ์โควิด-19 ในยุโรป หลังหลายประเทศกลับมาดําเนินมาตรการจํากัดที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 รวมถึงการดําเนินนโยบายล็อกดาวน์ ขณะที่ยังมีความกังวลต่อการปรับเพิ่มของอุปทานน้ํามันดิบ ทั้งการ เพิ่มกําลังผลิตของกลุ่ม non-OPEC ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ํามันดิบที่อ่อนแอ เรามองเป็นโอกาสในการ ลงทุนใน SCC SCGP TASCO EPG CBG0SP JWD SONIC PTG GPSC BGRIM GULF CPALL (BK:CPALL) และ BJC TRUE และ DTAC มีความชัดเจนเพิ่มขึ้น เรายังเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่น - ประเด็น: TRUE และ DTAC ศึกษาความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัท รวมทั้งบริษัทได้มีการกําหนดอัตราจัดสรรหุ้น (Swap Ratio) ใน บริษัทใหม่ที่จะเกิดการควบรวมในอัตราดังนี้ 1 หุ้น TRUE ต่อ 2.40072 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น DTAC ต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่ (ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทใหม่จะออกหุ้นทั้งหมดที่ 138,208,403,204 หุ้น Par 1.0 บาท) นอกจากนี้ยังมี Conditional Voluntary Tender Offer ของ TRUE ที่ราคา 5.09 บาท และ DTAC ที่ราคา 47.76 บาท รวมไปถึงการตั้งบริษัทร่วมทุน Equal Partnership เพื่อสร้างโครสร้างธุรกิจสู่ บริษัทเทคโนโลยี เรามองว่าหากการควบรวมสําเร็จจริงจะเป็นบวกต่อบริษัทและจะทําให้บริษัทใหม่ขึ้นแท่น เป็นผู้นําในธุรกิจ จากทั้งจํานวนผู้ใช้งาน และจํานวนคลื่นความถี่ใกล้เคียงกับทาง ADVANC อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอฟังความเห็นจาก กสทช. ถึงความชัดเจนของประเด็นดังกล่าว รวมทั้งดีลดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอน การศึกษา วานนี้ (22 พ.ย.) ราคาหุ้น TRUE และ DTAC ตอบรับเชิงบวก และราคาหุ้นทั้ง TRUE และ DTAC ใกล้เต็มมูลค่าเหมาะสม (IAA Consensus) ทั้ง TRUE และ DTAC ขณะที่เรายังเลือก ADVANC (ซื้อ; ราคา เป้าหมาย 214 บาท) เป็น Top Picks จากโอกาสในการเติบโตที่เพิ่มขึ้น หลังจํานวนผู้แข่งขันในตลาดลดลง สถานะทางการเงิน และความเป็นผู้นําจะสามารถปรับตัวได้ เพิ่มโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการ และราคาเป้าหมายของ ADVANC รวมไปถึง DIF (IAA Consensus ที่ยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาว และมี Upside ในเชิงของ Valuation) รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสอง ในเดือน ต.ค. ปรับตัวขึ้น 0.8% MoM สู่ระดับ 6.34 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน ดีกว่าที่ Market Consensus คาดหมายไว้ว่าจะลดลงสู่ระดับ 6.20 ล้านยูนิต มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,660 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค: WHAUP COM7 และ ASIAN
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities