Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (22 ถึง 26 พ.ย.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,660
จุด SET สัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่ระดับ 1,645.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.68%Wow โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย ต่อวันอยู่ที่ 83,748.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.19%WoW เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้จะยังคงผันผวน โดยในช่วงต้นสัปดาห์ SET มีโอกาสตอบรับเชิงลบต่อสถานการณ์โควิด-19 ในยุโรป เป็นปัจจัยกดดันต่อ ภาพรวมการลงทุน รวมไปถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึง Sentiment เชิงลบต่อสถานการณ์โควิด19 ในประเทศ หลังผ่านเทศกาลลอยกระทง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรามองเป็นโอกาสในการ ลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มอุปโภคบริโภค กลุ่มเกษตร และกลุ่มอาหาร (STGT BDMS CHG และ BCH) รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ํามันดิบปรับลดลง (SCC SCGP TASCO EPG CBG OSP JWD SONIC PTG GPSC BGRIM GULF CPALL (BK:CPALL) และ BJC) รวมไปถึงยังคงแนะนํา Follow buy หุ้นในพอร์ต Core Investment โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว ที่เราแนะนํา อย่างต่อเนื่อง ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. ของไทย และสถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์โควิด-19 ในยุโรป กดดันภาพรวมการลงทุน - สถานการณ์โควิด-19 ในยุโรป กลับมาสร้างแรง กดดันต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ภาพรวมการลงทุน รวมไปถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ หลังนายกรัฐมนตรีของ ออสเตรีย ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 วัน เริ่ม 22 พ.ย. และอาจขยายเพิ่มเป็น 20 วัน หลังจากจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จํานวน 15,809 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เกิดการระบาดในปี 2563 รวมทั้งออกข้อกําหนดสําหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนในสัปดาห์ที่ ผ่านมา ซึ่งรวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ต่อชาวออสเตรียราว 2 ล้านคน ที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยประชาชนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน และผู้ที่ละเมิดมาตรการดังกล่าวจะถูกปรับเป็นเงิน 500 ยูโร (ประมาณ 567 เหรียญ เท่ากับ 20,000 บาท) รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่เพิ่มมากขึ้นในการที่ เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป อาจประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการ แพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ในระยะอันใกล้ หลังรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีออกมา ยอมรับ สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศมีความรุนแรงมากขึ้น เรามองประเด็นดังกล่าวจะทําให้หุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล กลุ่มอุปโภคบริโภค กลุ่มเกษตร และกลุ่มอาหาร กลับมามีความน่าสนใจในการลงทุน ในทางกลับกันจะเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นในกลุ่ม Oil play รวมทั้งหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับ การบิน และธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะ MINT ที่มี operation อยู่ในยุโรปที่กลับมามีจํานวยญ (37%) ส่วนหนึ่งสัญญาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว แนะเพียงเก็งกําไร oil play เราเชื่อว่าระยะสั้นยังมีความเสี่ยง - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 76.10 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 291 เหรียญ (-3.7%) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัย เสียงที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ในยุโรปที่กลับมามีจํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จนทําให้บางประเทศเริ่ม กลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ รวมไปถึงการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกหลายประเทศในระยะใกล้ ปัจจัยดังกล่าวสร้างความกังวลต่อการเติบโตของความต้องการใช้น้ํามันดิบ โดยเฉพาะในช่วง 4Q64 ที่เป็น High Season ขณะที่ก่อนหน้านี้ ราคาน้ํามันดิบจากแรงกดดันด้านอุปทานที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มต่อเนื่อง ในช่วงที่เหลือของปี 2564 ต่อเนื่องถึงปี 2565 ขณะที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนระบายน้ํามันออกจากคลังสํารอง ทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อกดดันราคาน้ํามันในตลาดโลกให้ปรับตัวลง ในระหว่างการประชุมทางไกลระหว่าง 2 ผู้นําสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจากข้อมูลของทาง EIA และ OPEC ระบุว่าสหรัฐฯ มี SPRมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 727 ล้านบาร์เรล ขณะที่จีนมีอยู่ประมาณ 200 ล้านบาร์เรล โดยเราเชื่อว่าตลาดน้ํามันดิบจะยังถูก กดดันจากปัจจัยลบทั้ง 2 ปัจจัย ทําให้รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับลดลง 5.8% ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ํามันดิบที่อ่อนแอ เรามองเป็นโอกาสในการลงทุนใน SCC SCGP TASCO EPG CBG OSP JWD, SONIC PTG GPSC BGRIM GULF CPALL 6a: BJC บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: CBG และ FORTH Company Update: CBG (ชื่อ, ราคาเป้าหมาย 142 บาท) คาดผลประกอบการ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ แต่ ลดลง YoY - แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ ทั้งในและต่างประเทศ แรงหนุนจากการบริโภค และกําลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ยอดขายในเมียนมาร์เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ต้นทุนอลูมิเนียมยังทรงตัว ในระดับสูง เป็นปัจจัยกดดันอัตรากําไร ปรับลดประมาณการกําไรสุทธิปี 2564-2565 สะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 และราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่เราเชื่อว่า 3Q64 เป็นจุดต่ําสุด และจะฟื้นตัวในช่วง 4Q64 ต่อเนื่องถึงปี 2565 แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 142 บาท มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,655 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิคะ SICT MDX และ KISS
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities