ปัจจัยแวดล้อมเช้านี้ไม่มีเรื่องใหม่ที่มีน้ำหนัก ภาพการเคลื่อนไหวในตลาด การเงินโลกผันผวนในกรอบที่แคบลง แต่ที่น่าสนใจคืออัตราแลกเปลี่ยนซึ่ง พบว่าค่าเงิน USD ยังแข็งค่าต่อเนื่องในบางช่วงเวลา Dollar Index ปรับขึ้น ไปเหนือ 96 แต่อย่างไรก็ตามไมได้ทำให้เงินบาทในเชิงเปรียบเทียบอ่อนค่าลง ภาวะดังกล่าวทำให้เรายังมองภาพ Fund Flow ต่างชาติว่ายังมีโอกาสไหลเข้า สู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ในประเทศต้องติดตามพัฒนการของสถานการณ์ การเมืองหลังจากที่รัฐสภาโหวตไม่รับร่าง รธน.(ภาคประชาชนเสนอ) ว่าจะ ร้อนแรงขึ้นหรือไม่ ส่วนหุ้นที่ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักเป็นหุ้นที่คาดว่าผล ประกอบการ 4Q64 ต่อเนื่องปี 2565 เติบโต แต่ราคาหุ้นยัง Laggard มาก
คาดว่า SET Index น่าจะผันผวนอยู่ในกรอบ 1635 – 1650 จุด โดยอาจต้อง ใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในนการผ่าน 1650 จุดขึ้นไป พอร์ตจำลองวันนี้ไม่มีการ ปรับเปลี่ยน หุ้น Top Pick เลือก DOHOME, TASCO และ TIDLOR
เปิดประเทศมาแล้วครึ่งเดือน & ลุ้นมาตรการชุดใหม่ หนุนเศรษฐกิจและ SET Index ขึ้นต่อ
ASPS เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทย และ SET Index ในช่วงที่เหลือของปี 2564 -2565 ยังเห็น Momentum เชิงบวกต่อ โดยปัจจัยหนุนสำคัญ 2 ส่วนคือ
-
นับเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลไทยเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 พบว่าทิศทางดีต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ สะสมมีจำนวน 58,870 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อเพียง 74 ราย (อัตราติดเชื้อ 0.13%) และเป็นที่สังเกตว่าผู้เดินทางส่วนใหญ่เดินทางเข้า กทม. และจังหวัด ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต, สมุย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนผู้เดินทางเข้าคิด เป็นสัดส่วน 65.5%, 31.3% และ 2.1% ตามลำดับ จำนวนผู้เดินทางที่เพิ่มขึ้น ข้างต้นช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยว อย่างไรก็ ตาม ASPS ประเมินว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้แรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวอาจยังมีน้ำหนักไม่ เพียงพอต่อการรักษาแรงส่งของเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น
-
ภาครัฐจะมีโอกาสพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะ การบริโภคในประเทศ สอดคล้องกับท่าทีล่าสุดของรัฐที่เปิดเผยว่ากำลัง พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่เช่นกัน โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช. หรือสภาพัฒน์) เผยว่าอยู่ระหว่างพิจารณาโครงการ “ช้อปดีมีคืน” และคาดจะได้ข้อสรุปภายในปี 2564 นี้
ASPS ประเมิน ความหวังของโครงการช้อปดีมีคืนยังคงมีอยู่และถ้าพิจารณาโครงการที่ เคยนำมาใช้ในอดีต พบว่าช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัดเฉลี่ยราว 3.43 หมื่นล้านบาท ขณะที่ รัฐสูญเสียรายได้ภาษีเฉลี่ยเพียง 4,120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% ของวงเงินสะพัด บ่ง บอกว่าโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่า และแม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในช่วงกลางเดือน พ.ย. 2565 แล้ว ส่งผลให้หากรัฐอนุมัติโครงการจริง เชื่อว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ได้ และอาจมีผลไปถึงในเดือน ก.พ. 2565 ซึ่งจะเป็นช่วงการจับจ่ายใช้สอยของ เทศกาลตรุษจีนพอดี ส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกจะมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่องไปจนถึง ต้นปี 2565 เช่น MAKRO, COM7, CPALL (BK:CPALL) , CRC, BJC, HMPRO, DOHOME โดยหุ้น CPALL และ DOHOME เป็นหุ้นในพอร์ตจำลองของ ASPS
การเมืองยังเป็นอีก 1 ปัจจัยที่มีผลต่อ SET Index ต้องตามต่อ ....
การเมืองในประเทศถือว่าเป็นอีก 1 ประเด็นที่ต้องติดตาม คาดมีผลต่อการเคลื่อนไหว กับ SET Index โดยเมื่อวานนี้ที่รัฐสภามีการประชุมร่วม โดยมีมติ 473 ต่อ 206 เสียง ไม่รับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช....ฉบับที่เสนอโดย ภาคประชาชนในวาระแรก ซึ่งมีหลายประเด็นสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงจาก รัฐธรรมนูญปัจจุบัน เช่น 1.) การยกเลิกวุฒิสภา (ส.ว.) 2.) ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร อิสระและศาลรัฐธรรมนูญ 3.) การล้างผลพวง จากรัฐประหาร ฯลฯ
ฝ่ายวิจัย ASPS ยังคงมุมมองเดิมคือ ประเมินในช่วงสั้นๆ จะยังไม่เห็นเหตุที่มีน้ำหนัก มากพอที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ(อย่างเช่นการยุบสภาฯ) แต่ อาจจะเห็นความร้อนแรงทางการเมืองนอกสภาเพิ่มขึ้น ถือเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม อย่างไรก็ตามในด้านผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ดูเหมือนว่า SET index จะไม่ ตอบสนองเชิงลบมากนัก แต่การเมืองก็ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามในฐานะที่อาจเป็น แรงฉุดรั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในอนาคต และนำมาซึ่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น การลงทุนของตลาดหุ้น และ Fund flow สะท้อนจากสถิติในอดีตในปี 2563 ที่มีการ ชุมนุม
บาทยังแข็ง แม้สินสินทรัพย์เสี่ยงต่างประเทศผันผวน แนะสะสมหุ้นกำไรโตเด่น 4Q64 DOHOME, TIDLOR, TASCO
สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก หลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง เริ่มถูกขายทำกำไรลงมาบ้าง ในช่วงเวลาที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ อาทิ Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 6 หมื่นเหรียญ, ราคาน้ำมัน ลดลง 2.7%, รวมถึงตลาดหุ้น Down Jones ลดลง 211 จุด ในวานนี้ การโยกย้ายเม็ด เงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า 1.78% อยู่ที่ 95.8 จุด ส่วนตลาดหุ้นไทย หลังปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 5 วันติดต่อกัน โดยวานนี้ขึ้นไปทดสอบ แนวต้านสำคัญ 1650 จุด แต่ยังไม่ผ่าน ขณะที่ต่างชาติสลับมาขายสุทธิ 1.35 พันล้าน บาท ส่วนภาพรวมตลาดในวันนี้ยังขาดแรงหนุนใหม่ ภายใต้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกผัน ผวน ทำให้อาจเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยเฉพาะจากพอร์ตโบรกเกอร์ที่ซื้อหุ้น ไทยติดต่อกันมากว่า 7 วันทำการ กว่า 4.8 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากตลาดหุ้นย่อตัวลงมาอาจเป็นโอกาสในการเข้าสะสม หากดูค่าเงิน บาทยังอยู่ในโซนแข็งค่าที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน แสดงว่า Fund Flow ยังไม่ได้ไหลออกจากประเทศไปไหน โดยเชื่อว่ามีโอกาสไหลกลับเข้ามาใน ตลาดหุ้นไทยได้อีกในช่วงที่เหลือของปี จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้นหลัง ผ่านวิกฤตโควิด
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities