🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

เน้นหุ้น Domestic play โดย SET ยังขาดปัจจัยบวกหนุน

เผยแพร่ 17/11/2564 09:34
SETI
-
AOT
-
CPALL
-

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,655 จุด เราคาดว่า SET จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway แม้จะมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังที่จะเห็นสถานการณ์การค้าโลก ที่คลี่คลายหลัง ผู้นําสหรัฐฯ และจีน ประชุมผ่านระบบ Virtual เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และ การยกเลิกมาตรการทางภาษี อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นความขัดแย้ง โดยเฉพาะประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีไต้หวัน ขณะที่ ศบค. ชุดใหญ่ ประชุมวานนี้ (16 ก.ย.) มีมติเลื่อนเปิดสถานบันเทิงเป็น 16 ม.ค. 65 เรามองกระทูบราคาหุ้นเพียงระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มห้างฯ ค้าปลีก และโรงแรม เรายังคงกล ยุทธ์การลงทุนเดิม ให้น้ําหนักหุ้นในพอร์ตเพียง 50% และให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Domestic play เราเลือก AMATA CPALL (BK:CPALL) CBG BJC AOT (BK:AOT) BDMS BEM และ ERW รวมไปถึงหุ้นในพอร์ต Core Investment อย่าง Re-opening และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว เลื่อนเปิดสถานบันเทิง จาก 1 ธ.ค. 64 เป็น 16 ม.ค. 65 กระทบราคาหุ้นเพียงระยะสั้น - ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ล่าสุด (16 พ.ย.) ยังไม่คลายล็อกดาวน์สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ โดยมีมติให้เลื่อนเปิดจาก กําหนดเดิม 1 ธ.ค. 64 เป็น 16 ม.ค. 2565 เนื่องจากเป็นกิจการเสียง และเคยเกิดการระบาดใหญ่ โดย ระหว่างนี้ (16 พ.ย.64 ถึง 15 ม.ค. 65) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กทม. และกระทรวง สาธารณสุข จะจัดทํามาตรการป้องกันและควบคุมโรค ขณะที่ผู้ประกอบการ ต้องดําเนินการปรับปรุงระบบ ระบายอากาศตามมาตรฐาน และส่งเสริมให้บุคลากรได้รับวัคซีนทุกคนรวมทั้งเตรียมความพร้อมในการเปิด ดําเนินการ ประเด็นดังกล่าวจะเป็น Sentiment เชิงลบระยะเล็กน้อย ได้แก่ หุ้นในกลุ่มห้างฯ (CPN และ CRC) ค้าปลีก (HMPRO และ CPALL) และโรงแรม (MINT CENTEL และ ERW) โดยเฉพาะ CPN และ MINT อย่างไรก็ตามเรามองเป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากมาตรการคลายล็อกดาวน์ และ มาตรการเปิดประเทศ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นในกลุ่ม Re-Opening รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อ

ในประเทศฟื้นตัว • บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: CHG APRUE ORI PSH และ SIRI

Company Update: ORI (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 13 บาท) คาดกําไร 4Q64 ฟื้นตัวเด่นจากการโอนโครงการ ใหม่ - คาดกําไร 4Q64 ฟื้นตัว หนุนจาก Backlog รอโอน โดยเฉพาะ Park Origin พญาไท และคาดดี ต่อเนื่องในปี 65 หนุนจากการโอน 3 โครงการใหญ่ ตระกูล Park Origin ปรับกําไรปี 64 ลง 3% จากการเลื่อนโอนโครงการไปเป็น 1Q65 เรายังเลือก ORI เป็น Top Picks จากความสามารถในการปรับตัว ตามสถานการณ์และการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง คงแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 13.0 บาท อิง PER9.2 เท่า Company Update: CHG (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 4.4 บาท) คาดผลประกอบการ 4Q64 อ่อนตัว QoQ แต่ยัง เติบโต YoY - ภาพรวม 4Q64 อ่อนตัว QoQ หลัง COVID-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ผู้ป่วยที่ไม่ใช่ COVID-19 เริ่ม ฟื้นตัว รวมถึงวัคซีนทางเลือกช่วยหนุน ปรับกําไรสุทธิปี 64 ขึ้น 44% สะท้อนผลการดําเนินงานที่ดีกว่าคาด กําไรสุทธิ 3Q64 เติบโต 455%YoY และ 171%QoQ ดีกว่าคาด แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท

Company Update: APURE (เก็งกําไร., ราคาเป้าหมาย 7.45 บาท) แนวโน้ม 4Q64 ยังมีปัจจัยจํากัดการ ฟื้นตัว - ผลประกอบการ 4Q64 มีแนวโน้มชะลอตัว จากผลกระทบของน้ําท่วม ทําให้ไร่เสียหายกว่า 90% ส่งผลให้ผลผลิตที่มีไม่เพียงพอต่อการผลิต แม้ว่าค่าระวางเรือจะปรับตัวลดลงแต่ปัญหาการขาดแคลน ตู้คอนเทนเนอร์ยังจํากัดการฟื้นตัวของผลประกอบการ 4Q64 คาดกําไรปี 65 กลับมาเติบโตอีกครั้ง จากคําสั่ง ซื้อที่เพิ่มขึ้นราว 20% และค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง รวมถึงการขนส่งที่คลี่คลาย ปรับกําไรสุทธิปี 64-65 ลดลง 26% และ 30% ตามลําดับ และปรับคําแนะนําเป็น “เก็งกําไร” ราคาเป้าหมายใหม่ปี 65 ที่ 7.45 บาท รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.76MoM (คาดเพิ่มขึ้น 1.46MoM) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. ที่เพิ่มขึ้น 0.8%MoM เป็นผลมาจาก ราคาน้ํามันที่เพิ่มขึ้น และยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน (ไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ํามัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร) เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.6% MoM เพิ่มต่อเนื่องจาก เดือน ก.ย. ที่เพิ่มขึ้น 0.56MoM / ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของ สหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.6% หลังปรับลดลง 1.3% ในเดือน ก.ย. /สํานักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5%YoY เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. ขณะที่ยอดค้าปลีก เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 4.9% ดีกว่าที่ Market Consensus มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,655 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค: HMPRO AUCT และ DITTO

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย