Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,640 จุด เราคาดว่า SET จะ ยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway วันนี้ (10 พ.ย.) ติดตามการประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ย และ ประมาณการ GDP ไว้เท่าเดิม โดยภาพรวมเศรษฐกิจที่มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น โดยเฉพาะกําลังซื้อ ในประเทศที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงปลายปี ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 สนับสนุน Theme การลงทุน ที่เราเน้น Domestic play โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการภาครัฐฯ (เปิดประเทศ และ คลายล็อกดาวน์) เราเลือก CBG CPALL (BK:CPALL) BJC AMATA WHA AOT (BK:AOT) BAFS AAV BEM และ ERW รวมทั้ง หุ้น Laggard Play ที่ราคาหุ้นปรับลดลงแรง แต่ยังถูกคาดหมายผลประกอบการในระยะยาวเติบโต อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC GULF และ BPP) ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Oil play เราให้น้ําหนักเพียง เก็งกําไร จากราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่ม เรายังคงให้น้ําหนักหุ้นในพอร์ตเพียง 50% เช่นเดิม ติดตามการประชุม กนง. (10 พ.ย.) คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม - ติดตามการประชุม กนง. วันนี้ (10 พ.ย.) เราคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% จากมุมมองที่เป็นบวกต่อกําลังซื้อ ในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2564 ต่อเนื่องถึงปี 2565 โดยได้รับปัจจัยบวกจาก (1) การเร่งฉีดวัคซีนที่เพิ่มมากขึ้น โดย ศบค. ประเมินว่าประชากรไทยจะได้รับวัคซีนครบโดสมากกว่า 70% ไม่เกินต้นปี 2565 ลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (2) มาตรการของภาครัฐในการเปิด ประเทศ และผ่อนคลายล็อกดาวน์ กระตุ้นการลงทุนและการบริโภคในประเทศ รวมไปถึงการจ้างงานที่ เพิ่มขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่ถูกคาดหมายจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยบวก หนุนการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศยังถือว่ามีความ ไม่แน่นอนสูง ทําให้เราคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% รวมไปถึงคงประมาณการ GDP ในปี 2564 ขยายตัว 0.79% และปี 2565 ขยายตัว 3.9% เงินเฟ้อเริ่มกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง เรามองเป็นเพียงปัจจัยลบระยะสั้น ติดตามรายงาน CPI สหรัฐฯ วันนี้ (10 พ.ย.) - สหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% MoM และ 8.6%YoY เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. ที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% MoM และ 8.6%YoY ตลาดเริ่มกลับมาให้น้ําหนักเรื่องของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจวงเงินกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ อาจะเป็นปัจจัยหนุนภาวะเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้น ซึ่งจะทําให้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่มีกําหนดรายงาน ข้อมูลดังกล่าววันนี้ (10 พ.ย.) โดย Market Consensus คาดเพิ่มขึ้น 5.4%YoY เพิ่มต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. ที่ 53%YoY ราคาน้ํามันดิบปรับเพิ่ม เรายังให้น้ําหนักเพียงเก็งกําไร - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.22 เหรียญ (+2.7%) โดยระยะสั้น ยังมีปัจจัยบวกจากการผ่านร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของสหรัฐฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ํามันในประเทศ รวมไปถึงมุมมองระยะสั้นต่อการที่ ความต้องการใช้น้ํามันดิบจะเพิ่มขึ้นทําจุดสูงสุดที่ 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงปลายปี 2564 อย่างไรก็ตาม เรายังให้น้ําหนักเพียงเก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Oil Play (PTTEP SPRC IRPC TOP และ PTTGC) จากความกังวล ต่อการประกาศระบายน้ํามันจากคลังสํารองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อลดแรงกดดันจากราคาน้ํามันเบนซิน ในประเทศ รวมทั้งติดตามรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมา (สิ้นสุด 5 พ.ย.) จากทาง สํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) โดย Market Consensus คาดว่า EIA จะรายงานปริมาณ สํารองน้ํามันดิบเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: AP TU และ STA/Earnings Results: TOP MGT และ PACO/ Key Takeaways: SABUY Company Update: AP (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 10.6 บาท) แม้คาดกําไร 4Q64 ชะลอตัวลง แต่ทั้งปี 64 ยังเติบโต - คาดผลประกอบการ 4Q64 ชะลอตัวเล็กน้อย หลังมีเพียงการโอนโครงการต่อเนื่อง แต่ภาพรวม ยังเป็นไปตามเป้า ยอด Presales 10M64 อยู่ที่ 31,214 ล้านบาท โต 14%YoY โดยเริ่มเห็นสัญญาณ การฟื้นตัวในช่วง ต.ค 64 ปรับกําไรปี 64 ขึ้น 4% จากอัตรากําไรขั้นต้นที่ทําได้ดีกว่าที่ประเมินก่อนหน้า 1 Earnings Results: PACO (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 3.7 บาท) กําไรสุทธิเติบโตทั้ง YoY และ QoQ - กําไรสุทธิ 3Q64 เพิ่มขึ้น 50%YoY และ 2%QoQ มีรายได้จากการขายสินค้า (ไม่รวมรายได้พิเศษ) อยู่ที่ 178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%YoY แต่ลดลง 5%QoQ แนวโน้มรายได้ 4Q64 เติบโตต่อเนื่องจากการเปิดเมืองในประเทศ
รวมถึงคําสั่งซื้อ (Backlog) จากต่างประเทศยาวถึง ก.พ. 65 แล้ว • มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,640 จุด / หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค: VIH GFPT และ M.
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities