รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

นักลงทุนควรเดิมพันกับอะไร ระหว่างบิทคอยน์หรือหุ้นเจพีมอร์แกน?

เผยแพร่ 19/10/2564 10:34
อัพเดท 09/07/2566 17:31

เชื่อว่านักลงทุนคริปโตฯ ในวันนี้คงจะมีความคุ้นเคยและชินแล้วกับการขึ้นๆ ลงๆ อย่างรุนแรง แต่พฤติกรรมเช่นนั้นก็ทำให้ตลาดแห่งนี้โดยเฉพาะบิทคอยน์ต่างโดนวิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ ยิ่งบิทคอยน์ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของตลาดสกุลเงินเติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งโดนตั้งคำถามมากขึ้นเท่านั้น ไล่มาตั้งแต่ยุคที่ CME ลิสต์ บิทคอยน์ฟิวเจอร์สขึ้นตลาด มาจนถึงวันที่อีลอน มัสก์ CEO ของเทสลา (NASDAQ:TSLA) ตัดสินใจโอบอุ้มและทิ้งบิทคอยน์ไป 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นคนดังออกมาวิจารณ์บิทคอยน์ ทั้งผู้สนับสนุนอย่างแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ก่อนตั้งสแควร์ (NYSE:SQ) และทวิตเตอร์ (NYSE:TWTR) ที่มองว่าคริปโตฯ จะรวมโลกนี้ให้เป็นหนึ่ง หรือวอร์เรน บัฟเฟต ที่มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นเพียงหนูสกปรก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการวิพากษ์วิจารณ์ของเจมี่ ไดมอน CEO ของธนาคารชื่อดังเจพี มอร์แกน (NYSE:JPM) ที่พูดเลยว่า “บิทคอยน์นั้นไร้ค่า”

เจมี่ ไดมอน กับมุมมองที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัล

ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคมปี 2019 เจมี่ ไดมอน เคยวิจารณ์การมีอยู่ของบิทคอยน์ไปแล้วครั้งหนึ่งว่า 

“ขาขึ้นของสกุลเงินบิทคอยน์นั้นแย่ยิ่งกว่าวิกฤตฟองสบู่ดอกทิวลิปเสียอีก บิทคอยน์เป็นสิ่งหลอกลวง และไม่มีทางที่เรื่องนี้จะจบลงแบบสวยงามได้ จะต้องมีคนตายจากการหมดตัวเพราะคริปโตฯ ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยในโลกใบนี้”

คำวิจารณ์ของเขาเกิดขึ้นในช่วงที่บิทคอยน์กำลังวิ่งอยู่ในกรอบราคาระหว่าง $6,420 - $7,965Bitcoin Futures Monthly

ที่มา: CQG

และวันนี้...วันที่บิทคอยน์สามารถขึ้นแตะ $63,180 ได้อีกครั้ง เจมี่ มอร์แกน ก็ออกมาพูดถึงบิทคอยน์อีกครั้งว่า

“ส่วนตัวผมยังคิดว่าบิทคอยน์นั้นไร้ค่า แต่ผมไม่อยากออกมาพูดถึงมันทุกวันหรอกว่าผมมีความคิดต่อบิทคอยน์เช่นไร ผมไม่สนใจ เพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรสามารถแตกต่างขึ้นได้ มันเหมือนกับผมพยายามเดินไปบอกพวกคุณทุกคนว่าอย่าสูบบุหรี่นะ มันเป็นสิ่งไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อผม นั่นละคือสิ่งที่ตลาดลงทุนเป็น ถึงส่วนตัวผมจะคิดเห็นอย่างไร แต่เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้นกับสิ่งๆ นั้น ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ลูกค้า”

ยิ่งเติบโต ยิ่งถูกสกัดกั้น

ก่อนหน้าที่เจมี่ ไดมอน จะออกมาพูดถึงบิทคอยน์ในปีนี้ เรย์ ดาลิโอ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังเคยออกมาพูดแล้วว่า

“ผมคิดว่าถ้าท้ายที่สุดแล้วสกุลเงินดิจิทัลประสบความสำเร็จในการครองใจผู้ใช้งานขึ้นมาจริงๆ สิ่งรัฐบาลจะทำนั้นก็ง่ายมาก คือทำลายมันซะ รัฐบาลมีวิธีมากมายในการจัดการกับคริปโต ฯ แต่สาเหตุที่ยังปล่อยเอาไว้เพราะมีเหตุผลบางอย่าง”

คณะกรรมการกำลังดูแลตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะนายแกรี่ เจนส์เลอร์ เริ่มมีท่าทีที่น่าสงสัยมากขึ้น แม้ว่าเขาเคยเป็นอดีตประธานผู้ดูแลกำกับตลาดฟิวเจอร์สมาก่อน และเป็นคนอนุญาตให้ตลาด CME และตลาดฟิวเจอร์สอื่นๆ ให้สามารถซื้อขายสกุลเงินบิทคอยน์ฟิวเจอร์สได้ในปี 2017 แต่ในระยะหลังๆ เขาก็เริ่มส่งสัญญาณเตือนมายังนักลงทุนคริปโตฯ เช่น ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น เขาจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อปกป้องประชาชน

อย่างไรก็ดี เขากลับไม่มีปัญหาหากว่า ETF ที่เป็นของสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกจะถือกำเนิดขึ้น กลต. ของสหรัฐอเมริกาจะอนุมัติให้สามารถจัดตั้งกองทุน ETF บิทคอยน์ฟิวเจอร์สได้ โดยกองทุน ETF บิทคอยน์ตัวแรกจะมีชื่อว่า “ProShares Bitcoin Strategy ETF” หรือมีสัญลักษณ์เรียกแทนว่า “BITO”

ประธาน CoinShares สวนเจมี่ ถ้าไม่เคยลงทุนในบิทคอยน์จริงก็อย่าพูดมาก

เดเนี่ยล มาสเตอร์ CEO คนปัจจุบันของ CoinShares แพลตฟอร์มการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ได้ทวีตออกมาปกป้องสกุลเงินดิจิทัลจากเจมี่ ไดมอน ในอดีตสองคนนี้เคยร่วมงานกันในฐานะเจ้านายลูกน้อง เดเนี่ยลเคยเป็นเทรดเดอร์ตลาดน้ำมันให้กับเจพี มอร์แกนและฟิโบร เอ็นเนอร์จี้ ก่อนที่จะมาตกหลุมรักตลาดสกุลเงินดิจิทัล และหันมาอุทิศชีวิตให้กับตลาดแห่งนี้Masters Tweet

ที่มา: LinkedIn

ถึงแม้ว่าเดเนียลจะมีความเคารพเจมี่ ไดมอนอยู่ แต่เมื่อเห็นเจมี่ออกมาพูดถึงบิทคอยน์บ่อยๆ โดยที่เขาไม่เคยลงทุนเลย เดเนียลจึงขอพูดถึงพฤติกรรมนี้ว่าเหมือนคนนอกที่เอาแต่ดู แต่ไม่กล้าลงทุนเอง ถ้าไม่คิดจะลงทุนก็ไม่สมควรที่จะพูดอะไรกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริง

ที่น่าสนใจคือเดเนียลท้าเจมี่ว่ามูลค่าหุ้นของเจพี มอร์แกนไม่มีวันเพิ่มขึ้นได้สูงเท่ากับบิทคอยน์ ในวันที่ 11 ตุลาคม ที่บิทคอยน์มีมูลค่าอยู่ที่ $57,885 ราคาหุ้นของเจพีมอร์แกนยังมีราคาอยู่ที่ $166.64 อยู่เลย เดเนียลกล้าพูดเลยว่าจากวันที่ 11 ตุลาคมปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ความสามารถในการเติบโตของหุ้นเจพีมอร์แกนก็ไม่มีวันเทียบเท่าได้กับบิทคอยน์

ราคาบนกราฟคือความเป็นจริงที่ไม่เคยโกหก

ถึงแม้ว่าจนถึงตอนนี้เจมี่ ไดมอนจะไม่ได้ออกมาตอบโต้แต่อย่างใด แต่เมื่อลองเอากราฟบิทคอยน์และเจพี มอร์แกนมาเทียบดูก็พบว่าสิ่งที่เดเนียลพูดเป็นความจริง ตั้งแต่วันที่ 11-15 ตุลาคม ราคาบิทคอยน์สามารถปรับตัวขึ้นได้ 9.15% ในขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกนกลับปรับตัวลดลง เทรนด์ในตลาดคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นจริงออกมาทุกอย่าง ถึงแม้ว่าบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ จะถูกสบประมาทมากมาย แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในช่วงสิบเอ็ดปีล่าสุด ตลาดแห่งนี้มีแต่โตขึ้นกับโตขึ้นเรื่อยๆBTC/USD Monthly

ที่มา: Barchart

กราฟในรูปนี้คงไม่ต้องอธิบายให้มากความ ต่อให้เอาเด็ก ป.4 มาดูก็ยังรู้เลยว่านี่คือตลาดขาขึ้น ใช่แล้ว!! บิทคอยน์กำลังวิ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญจะเกลียดสกุลเงินดิจิทัลมากแค่ไหน แต่ถ้ามีการใช้งาน ผู้คนยอมรับ ตลาดแห่งนี้ก็สามารถเติบโตขึ้นได้ตามกลไกอุปสงค์อุปทาน

ปกป้องประชาชนหรือปกป้องอำนาจตัวเอง?

สำหรับคนที่มองไม่ออก หรือมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว พวกคุณอาจจะคิดว่าการให้รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมเรื่องการเงินเป็นสิ่งดีอยู่แล้ว มีความน่าเชื่อถือ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในประเทศที่ไม่มีเสถียรภาพทางการเงินนั้น รัฐบาลมีสิทธิ์ยึดเงินจากบัญชีของคุณไปโดยที่คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลย

การถือกำเนิดขึ้นของบิทคอยน์ได้เป็นการเปิดโปงความจริงเรื่องนี้ด้วยว่าภาครัฐควบคุมความเป็นอยู่ของประชาชนผ่านกลไกการเงิน และไม่มีโรงเรียนในประเทศไหนที่เคยคิดจะสอนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าเราจะมีอิสรภาพ แต่ในด้านการเงินนั้นเราถือเป็นทาสของรัฐบาลอย่างชัดเจน และไม่รู้ตัวด้วย 

บิทคอยน์ได้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโลกการเงินแบบใหม่ ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของเงินที่ตัวเองใช้ได้อย่างแท้จริง เวลาเราจะซื้อของชิ้นหนึ่ง เราจะต้องการอะไรไปมากกว่าของของฝั่งตรงข้าม และสกุลเงินที่ช่วยให้เราซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างราบรื่น แน่นอนว่านี่คือความจริงที่รัฐบาลไม่ชอบ และจึงเป็นเหตุผลที่เราได้เห็นภาพประเทศจีนแบนคริปโตฯ อย่างจริงจัง และเห็นคนดังในแวดวงการเงินออกมาเตือนมากมาย

เจเน็ต เยลเลน รมต. คลัง ของสหรัฐอเมริกา คริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป ต่างก็แสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับการใช้คริปโตฯ ในทางที่ผิด แต่พวกเขาเคยพูดถึงไหมว่าวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เป็นฝีมือของใคร และปัญหาภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันนั้นเป็นฝีมือของใคร? ไม่ใช่ธนาคารกลางคือสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือสูงอย่างนั้นหรือ

เมื่อมองในมุมนี้ การที่เจมี่ ไดมอน จะออกมาโจมตีบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะธุรกิจของเขานั้นอยู่ในโลกการเงินยุคเก่า การที่ยักษ์ใหญ่จะเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจไปรองรับธุรกิจยุคใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ใช้ต้นทุนทั้งด้านการเงินและเวลาสูงมาก มันจึงง่ายกว่ากับการเพียงออกมาพูดเพื่อโจมตีสิ่งที่คิดว่ากำลังเป็นภัยกับตน มากกว่าที่จะยอมกลืนน้ำลายตัวเองและยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเจมี่จะไม่ชอบบิทคอยน์มากเพียงใด แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าน้ำเชี่ยวไม่ควรเอาเรือเข้าไปขวาง

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย