รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

SET สัปดาห์นี้ ยังเป็นลักษณะ Sideway ถึง Sideway up

เผยแพร่ 18/10/2564 09:47

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (18 ถึง 21 ต.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,660 จุด เราประเมินว่าการเคลื่อนไหวของ SET ยังเป็นลักษณะ Sideway ถึง Sideway up จาก (1) การปรับ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ํามันดิบ จากความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งล่าสุดประธาน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มองการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อในยุโรปยังคงเป็นเพียงชั่วคราว และไม่มี สัญญาณว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าจ้างแรงงาน ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Upstream อย่าง PTTEP ที่เรายังเลือกเป็นหุ้นเด่น ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากค่าการ กลั่นปรับเพิ่ม เน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว (2) การประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร (18 ถึง 21 ต.ค.) แม้ผลประกอบการรวม 3Q64 ของกลุ่มธนาคารจะอ่อนแอ แต่ยังมีปัจจัยบวกหนุนจาก ปัจจัยมหภาค ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภค และภาพรวมเศรษฐกิจ ที่กลับมาเป็นบวก ในช่วงที่เหลือของปี 2564 ขณะที่ราคาหุ้นยังคง Laggard เราเลือก KBANK (BK:KBANK) เป็นหุ้นเด่น (คาดกําไรสุทธิ 3Q64 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY) และ (3) หุ้นในกลุ่ม Re-Opening และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว ตามพอร์ต Core Investment ของเรา โดยเราให้น้ําหนัก AAV ERW SHR BEM WHA BBL ADVANC CPALL (BK:CPALL) MAKRO BJC CRC ha: HMPRO ปัจจัยบวกหนุนการลงทุน แต่เรายังเน้นหุ้น Domestics เป็นหลัก ติดตามรายงาน PMI ทั่วโลก และ GDP จีน 3Q64 สัปดาห์นี้ – กลยุทธ์การลงทุน เราคงสัดส่วนการถือหุ้น 50% ของพอร์ต โดยเราให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Domestic สัดส่วน 70% (เน้นลงทุน) ส่วนหนึ่งเรามีมุมมองเป็นบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของ ปี 2564 รวมทั้ง GDP ที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้นในปี 2565 โดยเราคาดว่า GDP ไทยในปี 2564 จะเติบโต 0.7% ถึง 0.9% ขณะที่ปี 2565 เราคาดจะขยายตัว 3.5% ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเรายังเลือก KBANK เป็นหุ้นเด่น รวมไปถึง KKP และ TTB ขณะที่หุ้นใน กลุ่ม Global play เราให้น้ําหนักการลงทุนในสัดส่วน 30% (เน้นเก็งกําไร) ปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้ ที่น่าติดตามอยู่ที่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ / การรายงาน GDP ในช่วง 3Q64 ของจีน / การรายงาน ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. และ ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน ก.ย. ของยูโรโซน และญี่ปุ่น ด้านปัจจัยเสียงในประเทศ ยังต้องติดตาม สถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์น้ําท่วม และปัจจัยทางการเมือง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีน โดยล่าสุด China Evergrand ยังมีปัญหาในการขายสินทรัพย์เพื่อมาชําระหนี้ หลังผิดนัดชําระจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้มา 3 รอบ ขณะที่บริษัทมีหนี้สินกว่า 3 แสนล้านเหรียญ บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน - Earnings Results: KTC Earnings Results: KTC (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 66 บาท) รายงานกําไรสุทธิ 3Q64 ลดลง QoQ แต่เชื่อว่า 3Q64 จะเป็นจุดต่ําสุด - รายงานกําไรสุทธิ 3Q64 อยู่ที่ 1,317 ล้านบาท ลดลง 21.6%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 7.9%YoY รายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง ตามปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ลดลง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การปรับโครงสร้างของ KTBL คาดกําไรสุทธิ 4Q64 ทยอยฟื้นตัว จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หนุนรายได้ค่าธรรมเนียม และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ จากการปรับโครงสร้าง KTBL เหมือน 3Q64 ที่ผ่านมา การตั้งสํารองใน 4Q64 คาดจะทรงตัวในระดับต่ําตามคุณภาพของสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น ปรับคําแนะนําเป็น “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 66 บาท

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,645 จุด หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค - AS ORI และ HTC • รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น

0.7% สวนทางกับที่ Market Consensus คาดว่าจะลดลง 0.2% โดยยอดค้าปลีกยังคงปรับเพิ่มต่อเนื่องจาก เดือน ส.ค. ที่ปรับเพิ่ม 0.9% / กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคานําเข้า ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.49%MoM หลังเดือน ส.ค. ลดลง 0.3%MoM ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ รายงาน GDP ในช่วง 3Q64 (คาดเพิ่มขึ้น 0.5% และเพิ่มขึ้น 5.2%YoY) การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีน (Fixed Asset Investment) เดือน ก.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 7.9% YoY) และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 4.5%YoY) และรายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 0.29% MoM)

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย