Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,640 จุด เราเชื่อว่า SETจะตอบรับเชิงบวกต่อแผน "เปิดรับท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว" ที่นายกฯ มีแถลงการณ์เมื่อช่วงค่ํา ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) โดยส่วนหนึ่งเป็นความคาดหวังต่อ Economics Activities ในประเทศที่จะเกิดขึ้น จํากัด Downside ของอัตราการขยายตัวของ GDP ไทยในช่วงที่เหลือของปี 2564 ถึงปี 2565 กลยุทธ์ การลงทุนยังคงแนะนําหุ้นที่ได้ประโยชน์จากทั้งปัจจัยภายในและต่างประเทศหนุน โดยเราให้น้ําหนักหุ้น ในกลุ่ม Domestic สัดส่วน 70% (เน้นลงทุน) และ Global play สัดส่วน 30% (เน้นเก็งกําไร) โดยเรา ยังให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Oil Play (PTTEP BANPU TOP และ IRPC) ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ํามันดิบ ค่าการกลั่น ราคาก๊าซฯ และราคาถ่านหิน ที่ปรับเพิ่มอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Domestic Play เรายังคงแนะนํา 8 กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก แถลงการณ์นายก "เปิดรับท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว" เลือก AOT (BK:AOT) BAFS AAV ERW SHR BEM และ WHA เป็นหุ้นเด่น หุ้นได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศ ฟื้นตัว เราเลือก KBANK (BK:KBANK) BBL ADVANC CPF CPALL (BK:CPALL) MAKRO BJC CRC และ HMPRO และ Earning Play เราเลือก NER และ SONIC แนะทยอย Take Profit หุ้นในกลุ่ม Laggard Play ที่เราแนะนําก่อน หน้านี้ (KTC AEONTS MTC และ TIDLOR) ปัจจัยเสี่ยงเป็นประเด็น wait and see ได้แก่ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน สถานการณ์น้ําท่วมและการเมืองในประเทศ • นับถอยหลัง 20 วัน เปิดรับนักท่องเที่ยวประเทศความเสี่ยงต่ำ เริ่ม 1 พ.ย. - 3 สิ่งที่ได้จากคําแถลงของนายกฯ เมื่อคืน (11 ต.ค.) (1) เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว กลุ่มประเทศความเสียงต่ํา 10 ประเทศ (เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา) เข้าไทยไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 พ.ย. (2) พิจารณา เพิ่มจํานวน ประเทศรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ภายใน 1 ธ.ค. และ 1 ม.ค. และ (3) เปิดสถาบันเทิง ให้ดื่มแอลกอฮอล์ใน ร้านได้ เริ่ม 1 ธ.ค. นโยบายเปิดประเทศสอดคล้องกับแผนในหลายประเทศที่มีการทยอยประกาศ ตั้งแต่ต้น เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่การดําเนินการฉีดวัคซีนในประเทศยังคงมีอัตราเพิ่มขึ้น และมีกําหนดการส่งมอบ วัคซีนเฉลี่ย 20 ล้านโดสต่อเดือน ไปจนถึงสิ้นปี 2564
• 8 กลุ่มหุ้นได้ประโยชน์จาก แถลงการณ์นายก "เปิดรับท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว" เลือก AOT BAFS AAV ERW SHR BEM และ WHA เป็นหุ้นเด่น - เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ Economics Activities ในประเทศที่จะเกิดขึ้น จํากัด Downside ของอัตราการขยายตัวของ GDP ไทยในช่วงที่เหลือของปี 2564 ถึง ปี 2565 แต่ยังคงประมาณการจํานวนนักท่องเที่ยวในปี 2564-2565 ไว้เท่าเดิม แถลงการณ์ดังกล่าว เพิ่มน้ําหนักต่อการที่เราให้น้ําหนักการลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestic (สัดส่วน 70% เน้นซื้อลงทุน) ตามที่เรา แนะนําใน Daily Strategy เช้านี้ (11 ต.ค.) รวมทั้งเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Re-Opening ได้แก่ (1) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการบิน (AOT BAFS AAV และ BA) (2) หุ้นในกลุ่มโรงแรม (ERW CENTEL MINT SHR และ VRANDA) (3) หุ้นในกลุ่มสถานีบริการน้ํามัน (OR PTG และ SUSCO) (4) หุ้นในกลุ่มบันเทิง (VGI PLANB WORK และ BEC) (5) หุ้นในกลุ่มอาหาร (M MUD AU และ SORKON) (6) หุ้นกลุ่มพาณิชย์ (CPF CPALL BJC CRC CPN MAKRO HMPRO และ BJC) (7) หุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (WHA AMATA ORI และ NOBLE) และ (8) หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ (BTS และ BEM) ฤดูกาลประกาศผลประกอบการเริ่มที่กลุ่มธนาคาร ยังเลือก KBANK เป็นหุ้นเด่น - คาดการณ์วันประกาศผล ประกอบการ 14 ต.ค. TISC0/15 ต.ค. KTC/18 ต.ค. KKP / 20 ต.ค. KTB และ TTB/21 ต.ค. KBANK และ SCB ก่อนหน้านี้ เราออกบทวิเคราะห์ Banking Sector (8 ต.ค.) คาดกําไรสุทธิใน 3Q64 ของ 8 ธนาคารภายใต้ Coverage ของเรา อยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.0%YoY จากฐานที่ต่ํา แต่ลดลง 21.7%QoQ จากการตั้งสํารองที่เพิ่มขึ้น และรายได้ที่ลดลง แม้สินเชื่อในกลุ่มธนาคารยังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่เป็นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อภาครัฐ รวมทั้งการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของ ธนาคาร กระทบภาพรวม NIM ของกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 จะกลับมา ฟื้นตัว จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงของการปรับลด ดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ในช่วงที่เหลือของปี 2564 นักวิเคราะห์เราให้น้ําหนักการลงทุน “Overweight แนะนําหุ้น Top Pick เป็น KBANK (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 177 บาท) มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,640 จุด หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค - RS ILINK และ BSBM ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ ดุลการค้าของจีน (สกุลเงินดอลลาร์) เดือน ก.ย. (คาดเกินดุล 5.1 หมื่นล้านเหรียญ)/ รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐ ได้แก่ ตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS เดือน ส.ค. (คาดอยู่ที่ 10.93 ล้านตําแหน่ง)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities