Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (4 ถึง 8 ต.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,630 จุด ปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์น้ําท่วม ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและ ต่างประเทศ โดยมีสัญญาณเชิงบวกเล็กน้อย หลังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนายา molnupiravin ของ Merck (บริษัทยาสหรัฐอเมริกา) โดยมีรายงานผลการรักษาเฟส 3 สําหรับผู้ป่วยโควิด 19 ว่าสามารถลดความเสี่ยงที่จะเข้าโรงพยาบาลได้ถึง 50% กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงเน้น Selective หุ้นได้ประโยชน์จากภาพรวมเศรษฐกิจไทย และกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว (KBANK (BK:KBANK) BBL KKP CPF CPALL (BK:CPALL) MAKRO BJC CRC และ HMPRO) และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน (TU HANA KCE PACO MEGA และ SMPC) ขณะที่การรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ที่ผ่านมา บวกกับความต้องการใช้เชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้นของจีน ยังเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Oil play (PTTEP IRPC TOP IVL และ PTTGC) รวมไปถึงแนะนํา เก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Laggard play ที่ราคาหุ้น ปรับลดลงแรง แต่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง (KTC AEONTS MTC และ TIDLOR) โดยสัปดาห์ ที่ผ่านมา (27 ก.ย. ถึง 1 ต.ค.) SET ปรับลดลง 25.98 จุด (-1.59%) โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 1.8% อยู่ที่ 98,837 ล้านบาทต่อวัน ตลาดหุ้นจีนหยุดทําการซื้อขาย เนื่องในวันชาติจีน สัปดาห์นี้ติดตาม การประชุม OPEC+ รวมทั้งการรายงาน PMI ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน - วันนี้ (4 ต.ค.) ติดตามการประชุม OPEC+ (ช่วงค่ําตามเวลาประเทศไทย) เรามองประเด็นดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันราคา น้ํามันดิบจากการ Set on fact โดยที่ผ่านมา เราและ Market Consensus คาดว่า OPEC+ จะยังคงมติเดิม โดยในเดือน พ.ย. จะยังคงปรับเพิ่มกําลังผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ประเด็นที่น่าติดตามในสัปดาห์ นี้ อยู่ที่การรายงานดัชนี PMI เดือน ก.ย. ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน การรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตและ ยอดค้าปลีก เดือน ส.ค. ของยูโรโซน รวมไปถึงการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน ของสหรัฐฯ สหรัฐฯ รายงาน Core PCE สูงกว่าคาด ในเดือน ส.ค. - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงาน ดัชนีราคาการใช้ จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน (ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.36MoM และเพิ่มขึ้น 3.6%YoY เป็นการปรับเพิ่ม YoY มากที่สุดนับตั้งแต่ เดือน พ.ค. 2534 และ สูงกว่าที่ Market Consensus คาดเพิ่มขึ้น 0.2% MoM และเพิ่มขึ้น 3.5%YoY การปรับเพิ่มของดัชนี PCE พื้นฐาน เป็นผลมาจากภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน และความต้องการใช้เชื้อเพลิงในระดับสูงกว่าปกติ ขณะที่ PCE ทั่วไป (รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% MoM และเพิ่มขึ้น 4.3%YoY และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2534 เราให้น้ําหนักการวัดเงินเฟ้อจากการพิจารณา ดัชนี PCE มากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เนื่องจากดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคา สินค้าและบริการในวงกว้าง
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้: Initial Report: FORTH/ Earnings Preview: FSMART Initial Report: FORTH (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 21.6 บาท) เต่าบินหนุนรายได้และกําไรในปี 65-66 ให้เติบโต โดดเด่น - เราเริ่มต้นคําแนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 21.60 บาท โดดเด่นจากการเป็นหุ้น Growth คาดกําไรสุทธิปี 64-65 เติบโต 72%YoY และ 30%YoY ตามลําดับ ปี 64-65 มีงานโครงการ รอประมูลมูลค่า 9,700 ล้านบาท รวมทั้งการขยายตู้เต่าบิน คาดหนุนรายได้ปี 65 กว่า 2,300 ล้านบาท การใช้บริการเติมเงิน e-Wallet และการโอนเงินผ่านตู้บุญเติม จะเป็นปัจจัยหนุน และชดเชยรายได้ที่ลดลง จากบริการเติมเงินมือถือ คาดกําไรสุทธิ 3Q64 ลดลง 19.296QoQ แต่เพิ่มขึ้น 25.3%YoY และการลงทุนใน FORTH ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 64-65 ในอัตรา 21% และ 3.1% Earnings Preview: FSMART (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท) คาดผลประกอบการ 3Q64 ชะลอตัวจาก COVID-19 - คาดกําไรสุทธิ 3Q64 ลดลง 18.3%YoY และลดลง 11.1%QoQ จากรายได้รวมที่ลดลงจาก ผลกระทบของ COMID-19 โดยเฉพาะมูลค่าการเติมเงินผ่านตู้บุญเติม เราคาดว่าจะลดลง 28% YoY และ ลดลง 10%QoQ แผนขยายตู้เต่าบิน ยังเป็นปัจจัยหนุนกําไรเติบโตโดดเด่นในปี 65-66 เรามองบริการใหม่ ทั้งบริการเคาน์เตอร์ เซอร์วิส และบริการถอนเงิน ผ่าน K Plus จะหนุนผลประกอบการของบริษัท ในระยะยาว แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,615 จุด หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค - BJCHI AGE และ VPO ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญ วันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ การประชุม โอเปค (OPEC) และ ยอดคําสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน เดือน ส.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 1.09%MoM)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities