ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นข่าวความพยายามควบคุมบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน กลายเป็นกฎหมายใหม่มากมายที่ขึ้นมาควบคุมวงการ e-commerce เกมออนไลน์ บริษัทผู้แสวงหาผลกำไรผ่านการศึกษา อสังหาริมทรัพย์ ยาสูบ และล่าสุดคือภาพยนตร์และซีรีย์ที่เกี่ยวข้องกับอุลตร้าแมน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราได้เห็นภาพหุ้นชื่อดังหลายตัวต่างพากันวิ่งอยู่ในแนวโน้มขาลง
- Alibaba (NYSE:BABA) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 36.2%
- Baidu (NASDAQ:BIDU) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 27.9%
- Didi Global (NYSE:DIDI)) ตั้งแต่ IPO ในเดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 41.2%
- NetEase (NASDAQ:NTES) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 15.1%
- New Oriental Education & Technology (NYSE:EDU) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 89.7%
- Nio (NYSE:NIO) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 26.2%
- Pinduoduo (NASDAQ:PDD) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 46.4%
- Tencent (OTC:TCEHY) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 18.1%
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ตลาดลงทุนจีนก็ได้รับแรงกดดันจากประเด็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ “เอเวอร์แกรนด์” (OTC:EGRNY) มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้จนทำให้หนี้มูลค่า $300,000 ล้านเหรียญสหรัฐต้องกลายเป็นศูนย์ แม้จะถูกรุมเร้าไปด้วยข่าวร้าย แต่ดัชนีหลักของประเทศจีนอย่างเซินเจิ้นคอมโพสิตและเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันต่างก็สามารถปรับตัวขึ้นได้ 3.2% ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าขาลงของตลาดหุ้นจีนตอนนี้ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วหรือไม่
และเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบโดยรวม ไม่ว่าสิ่งที่รัฐบาลจีนทำจะดูโหดร้ายเพียงใด แต่พวกเขาก็ยังเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับสอง จึงยังมีนักลงทุนบางกลุ่มที่ไม่ต้องการเสี่ยงลงทุนกับหุ้น แต่ต้องการลงทุนในกองทุน ETF แทน ในวันนี้เราจึงได้นำกองทุน ETF ที่ลงทุนเฉพาะบริษัทจีนมานำเสนอ
1. SPDR® S&P® China ETF
- ระดับราคาปัจจุบัน: $110.76
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $107.16 - $156.29
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.17%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.59% ต่อปี
กองทุน SPDR® S&P® China ETF (NYSE:GXC) เป็นกองทุนที่ลงทุนในบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นของจีนแผ่นดินใหญ่ อันประกอบด้วย ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นเซินเจิ้น (A-Shares) นอกจากนี้ GXC ยังลงทุนในบริษัทที่ลงทุนในใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา (ADR)
GXC เริ่มต้นเทรดมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2007 ปัจจุบันถือหุ้นของบริษัทอยู่ทั้งหมด 902 บริษัท อ้างอิงราคาซื้อขายกับดัชนี S&P® China BMI Index หุ้นที่กองทุนนี้ถือครองสามารถแบ่งออกไปเป็นสามกลุ่มหลักๆ กลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดคือสินค้าฟุ่มเฟือย 27.75% ตามมาด้วยกลุ่มผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร 16% และกลุ่มการเงิน 13.48%
หุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทคิดเป็นสามจากสิบส่วนของสินทรัพย์ทั้งหมด $1,730 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังที่ GXC ถือครองได้แก่ Tencent, Alibaba, JD.com (NASDAQ:JD) Meituan (OTC:MPNGF) และ China Construction Bank (OTC:CICHF)
ในช่วง 12 เดือนล่าสุด GXC ปรับตัวลดลงมาประมาณ 4.3% แต่หากดูตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2021 จนถึงปัจจุบันจะพบว่ากองทุนนี้ปรับตัวลดลงมามากกว่า 15.5% มีอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 11.64x และ 1.73x ตามลำดับ หากต้องการจุดเข้าที่ดี ระดับราคาในปัจจุบันที่ว่าเหมาะสมที่จะลงทุน
2. Global X MSCI China Health Care ETF
- ระดับราคาปัจจุบัน: $26.36
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $23.09 - $34.29
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.07%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.65% ต่อปี
อ้างอิงข้อมูลจากคณะกรรมธิการตรวจสอบเศรษฐกิจและมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ - จีน (USCC) ระบุว่า
“การใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลต่อหัวในจีนเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ผู้กำหนดนโยบายของจีนได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผน Healthy China 2030 ที่ประกาศในปี 2016… แม้จะมีการประกันสุขภาพสาธารณะที่เกือบจะเป็นสากล ค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลือในจีนคิดเป็น 28.3% ของค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลทั้งหมดในปี 2019 เทียบกับ 11 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐอเมริกา”
สำนักข่าวเมตริกรายงานว่า
“คาดการณ์กันว่าตลาดเฮลท์แคร์ของจีนจะเติบโตจาก 6 ล้านล้านหยวนในปี 2019 เป็น 16 ล้านล้านหยวนในปี 2030 เนื่องจากมีการเติบโตของความต้องการระบบเฮลท์แคร์จากประชาชนสูงอายุและร่ำรวยอย่างรวดเร็ว”
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกองทุนที่สองของเราจึงเป็นกองทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับเฮลท์แคร์ ซึ่งมีชื่อว่า Global X MSCI China Health Care ETF (NYSE:CHIH) เป็นกองทุนที่ลงทุนกับเฮลท์แคร์ของจีนโดยตรง จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจหุ้นกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก
CHIC เริ่มต้นเทรดมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2018 ปัจจุบันถือหุ้นของบริษัทอยู่ทั้งหมด 91 บริษัท อ้างอิงราคาซื้อขายกับดัชนี MSCI China Index มีสินทรัพย์อยู่ทั้งหมด $17.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
หุ้นที่กองทุนนี้ถือครองสามารถแบ่งออกไปเป็นสี่กลุ่มหลักๆ กลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดคือเทคโนโลยีชีวภาพ 34.38% ตามมาด้วยกลุ่มเภสัชกรรมหลัก 27.57% กลุ่มเภสัชกรรมรอง 9.29% และกลุ่มแพทย์เฉพาะทาง 8.21%
หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ WuXi Biologics (HK:2269) BeiGene (NASDAQ:BGNE) CSPC Pharmaceutical (OTC:CHJTF) Sino Biopharmaceutical (OTC:SBHMY) และ Zai Lab (NASDAQ:ZLAB)
ในปีที่ผ่านมา CHIH ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 14.1% แต่ในปี 2021 ยังเป็นขาลงอยู่ 1.2% หากจะพิจารณาซื้อกองทุนนี้ ขอแนะนำให้รอราคาย่อตัวลงมาก่อน