1. จากดัชนี 1550 มา 1658 ตลาดไม่ได้ขึ้นด้วยผลประกอบการของ บมจ. ที่ดีขึ้น หรือ การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ หรือ โควิดคลี่คลาย ธีมเปิดเมือง ไม่ใช่ทั้งนั้น ที่กล่าวๆมาคือ หาเหตุมาใส่ผล ลากหุ้นวนเป็นกลุ่ม โดยเอาธีม สตอรี่ต่างๆมาประกอบให้คนสบายใจ
ตลาดหุ้นขึ้นทั่วโลก เพราะ QE ทำให้มีสภาพคล่องล้นระบบ เงินจึงกระจายไปยังสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เพื่อเก็งกำไร เราถึงได้เห็น คริปโต ทองคำขึ้นมามากมาย
2. อะไรจะเกิดขึ้นถ้า FED ส่งสัญญาณลด QE? เมื่อส่งสัญญาณดึงเงินออกจากระบบ ราคาสินทรัพย์เสี่ยง หรือ ดัชนีตลาดหุ้นที่ขึ้นมาร้อนแรงย่อมปรับตัวลงตาม จะสังเกตได้ว่า ทองคำเริ่มปรับตัวลงแล้วหลังทราบผล FOMC 21-22 ก.ย.. 64 ที่ผ่านมา
3. ธีมเปิดเมือง กัญชา หรือ อะไรก็ตามแต่ล้วนเป็นแค่สตอรี่ เมื่อใด ดึงเงิน QE ออกจากระบบ ตลาดจะลงได้อย่างรวดเร็ว
4. เงินบาทอ่อนค่าอย่างรุนแรงในรอบ 3 ปีกว่า คาดการณ์ได้ว่า เงินไหลออกจากประเทศ ไม่ออกทาง ตลาดตราสารหนี้ ก็ออกทาง ตราสารทุน หรือ ออกจากทั้งสองตลาด
5. ประเด็นที่ต้องระวังก็คือในขณะนี้รายย่อยสะสม Long SSF ไว้จำนวนมาก โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะขึ้นต่อเนื่อง บ้างกล่าวถึงเป้าหมายดัชนี 1700-1800 จุด แต่อะไรจะเกิดขึ้นหากคุณไม่ได้ไปต่อเมื่อราคาหุ้นอ้างอิงลดลง ผู้ถือสถานะ Long SSF จะขาดทุนตามขนาดของ leverage เช่นเดียวกับเมื่อตอนได้กำไรส่งผลให้ทางโบรกคู่สัญญาเรียกหลักประกันเพิ่ม เอาให้เข้าใจง่ายคือโบรกเรียกเติมเงิน หากคุณยังไม่ปิดสถานะ และยังผิดทางไปเรื่อยๆ ก็ต้องเติมเงินไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะถึงจุดที่เติมไม่ไหวขั้นต่อไปคือการถูกบังคับปิดสถานะ เมื่อ Long SSF ของนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากถูกบังคับปิดสถานะ ทางโบรกก็จะทำการขายหุ้นอ้างอิงที่ซื้อไว้ Hedging ออกมาพร้อมกัน ทำให้ตลาดปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว
NOTE: จากข้อมูล 27/09/21 คนที่ค้ำจุนตลาดหุ้นไทยไว้มากที่สุดคือกลุ่มนักลงทุนรายย่อยซื้อผ่านตลาดหุ้น 99,399.71 ล้านบาท
ซื้อผ่านตลาดฟิวเจอร์ในรูปแบบ Single Stock Futures 1,289,383 สัญญา