ในขณะที่ทองคำยังมีขึ้นลงอยู่ระหว่าง $1,750 ถึง $1,800 แต่รู้หรือไม่ว่าโลหะเงิน ซึ่งถือได้ว่าเป็นพี่เป็นน้องกับทองคำกลับวิ่งอยู่ในตลาดขาลงมาเป็นเวลาสี่เดือนติดต่อกันแล้ว ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ ราคาโลหะเงินฟิวเจอร์สมีราคาซื้อขายอยู่บนตลาด COMEX ที่ $23 ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลงมา 20% จากจุดสูงสุดที่ $28 ในเดือนพฤษภาคม
เมื่อเทียบกับทองคำฟิวเจอร์สบนตลาด COMEX แล้วพบว่าปรับตัวลดลงมา 7% คิดเป็นมูลค่าที่หายไป $130 จากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นในระยะหลังของทองคำมีความน่าสนใจอยู่มาก ทั้งๆ ที่ความต้องการในวงการอุตสาหกรรมลดลง และยังถูกมองข้ามจากนักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ที่หันไปสนใจทองคำแทน
ที่มา:SK Charting
ความสำคัญของโลหะเงินในอุตสาหกรรมต่างๆ
ความต้องการและวัตถุประสงค์ในการใช้ทองคำและโลหะเงินมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ส่วนมากทองคำนั้นถูกใช้เป็นในวงการเครื่องประดับและสินทรัพย์สำหรับการลงทุน แต่ความต้องการมากกว่า 50% ของโลหะเงินถูกใช้ในวงการอุตสาหกรรม แม้ว่าโลหะเงินจะสามารถใช้เป็นเครื่องประดับได้ แต่วงการอุตสาหกรรมนิยมนำโลหะเงินไปใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า และใช้เพื่อเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์เล็กทรอนิกส์
นักวิเคราะห์คาดว่าเทรนด์การเปลี่ยนยุคเข้าสู่พลังงานสะอาดจะทำให้ความต้องการแร่โลหะเงินเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างน้อยที่สุด วงการหนึ่งที่ได้ใช้โลหะเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแน่นอนคือยานยนต์ เพราะทุกวันนี้รถยนต์กำลังจะกลายเป็นคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ซึ่งหมายความว่าต้องมาการใช้พลังงานไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์มากขึ้น การมาของเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการใช้งานอินเตอร์เน็ตก็มีส่วนทำให้ความต้องการโลหะเงินเพิ่มขึ้น ถึงอย่างไรก็ตาม นั่นคือสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ยังไม่ใช่ตอนนี้
สำหรับตอนนี้ความต้องการโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับภาคการผลิต ถ้ากิจกรรมในภาคการผลิตมีมาก ราคาแร่โลหะเงินก็จะปรับตัวขึ้นตาม นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไมในช่วงที่มีการระบาดของโควิดที่เข้าไปก่อกวนสายการผลิตในรูปแบบต่างๆ จึงมีส่วนทำให้ราคาแร่โลหะเงินลดลง ถ้าหากนักลงทุนต้องการดูความเป็นไปได้ของความต้องการแร่โลหะเงิน พวกเขาสามารถตรวจสอบได้จากการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตทั่วโลก
ข้อมูลค่าเฉลี่ยของดัชนี PMI ทั่วโลกที่ธนาคารเจพี มอร์แกนและ มาร์กิต ไอเอชเอส (Markit IHS) ได้รวบรวมมาพบว่าในเดือนสิงหาคมปี 2021 ตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 55.4 จุดเป็น 54.1 จุด ถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบหกเดือน และเป็นสาเหตุที่กดดันราคาแร่โลหะเงิน
การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ที่มีต่อโลหะเงิน
อย่างที่ทราบกันว่าวันนี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองข้ามเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว เพราะเชื่อว่าไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างน้อยจนกว่าจะถึงปีหน้า แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายจับตาดูการประชุมนี้ในช่วงเวลาตี 1:00 น. ตามเวลาประเทศไทยคืนนี้คือเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แล้วหรือไม่
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ราคาแร่โลหะเงินปรับขึ้นจาก $23.84 ขึ้นไปถึง $24.80 ในวันที่ 6 กันยายน สิบวันถัดมา ราคาก็ได้ปรับตัวกลับลงมายัง $23.80 ก่อนหน้านี้ราคาโลหะเงินเคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในรอบแปดปีเอาไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โลหะเงินสามารถขึ้นยืนเหนือ $30 ต่อออนซ์ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013 พอล โรบินสัน นักวิเคราะห์ในตลาดแร่โลหะมีค่าให้ความเห็นต่อพฤติกรรมของโลหะเงินว่า
“ขาขึ้นที่เกิดกับโลหะเงินตอนนี้ ผมมองว่าเป็นเพียงการฟื้นตัวเท่านั้น ถ้ามองในมุมมองของฝั่งขาลง นี่คือการพักฐานสำหรับการปรับตัวลงต่อ ถ้าจะให้แร่โลหะเงินปรับตัวขึ้นในตอนนี้ ต้องหวังพึ่งปาฏิหารย์ให้มีแรงซื้อจากที่อื่นเข้ามาพาราคาทะยานขึ้นไป แต่ถ้าไม่แล้ว กราฟก็ยังจะวิ่งตามแนวโน้มเดิม ซึ่งเป็นขาลงอยู่ดี”
การวิเคราะห์ทิศทางของราคาแร่โลหะเงินในอนาคตอันใกล้
นักวิเคราะห์จากเจฟเฟอรี่ประเมินสถานการณ์ของตลาดโลหะเงินเอาไว้สามอย่าง อ้างอิงจากสมมุติฐานว่าจาก $20 ต่อออนซ์ ราคาจะกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว มีความเป็นไปได้ที่ขาขึ้นของโลหะเงินจะไปถึง $30 หรือ $35 แต่ถ้าเป็นขาลง ก็อาจจะปรับตัวลดลงไปที่ $15 ต่อออนซ์
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นเราได้รับเกียรติ์จาก Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักวิเคราะห์จาก SK Charting ประเทศอินเดีย เขาวิเคราะห์ราคาโลหะเงินสปอตเอาไว้ว่า
“ภาพรวมระยะกลางยังคงเป็นแนวโน้มขาลง ระดับราคา $24 คือตัวกำหนดว่าราคาจะสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย SMA 100 สัปดาห์ได้หรือไม่ หากว่ากราฟปรับตัวลดลงต่ำกว่า $22.23 มีโอกาสที่เราจะได้เห็นราคาแร่โลหะเงินที่เส้น SMA 200 สัปดาห์หรือ $19.04”
สำหรับกราฟรายวันนั้นมีภาพรวมที่สดใสมากกว่า เส้นค่าเฉลี่ยในอินดิเคเตอร์ Stochastic RSI นั้นตัดขึ้น และมีค่าอยู่ที่ 16/7 ซึ่งอาจจะส่งราคาโลหะเงินให้ขึ้นไปแตะเส้นโบลิงเจอร์ แบนด์ที่ $23.65 และเส้นค่าเฉลี่ย 50 EMA ที่ $24.17 และ Sunil บอกว่าที่กราฟรายวันนี้ ระดับราคา $22.25 ก็ยังถือว่าเป็นระดับแนวรับสำคัญ
“ในระยะยาว (กราฟรายเดือน) กราฟแร่โลหะเงินเรียกได้ว่าอยู่ในโซน oversold มากๆ แล้ว การที่อินดิเตอร์ RSI มีระดับอยู่ที่ 2.6 และ 14.3 หมายความว่ากราฟอาจจะลงไปไม่เกินเส้นค่าเฉลี่ย 50 EMA หรือที่ $20.62 และ $18.28 ส่วนแนวต้านตอนนี้กราฟมีอยู่ที่ $22.90 และ $22.25”
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ยังมีมาตรวัด XAU/XAG เอาไว้เทียบมูลค่าระหว่างทองคำกับแร่โลหะเงิน ถ้าหากกราฟตอนนี้ที่ 78 สามารถขึ้นไปแตะ 82.5 ได้ จะหมายความว่าโลหะเงินมีค่าน่าสนใจน้อยกว่าทองคำ