Entering profit taking zone ST: SET Index ยังคงแกว่งตัวในลักษณะเดิม กล่าวคือเป็นการกระจุกตัว เล่น โดยถึงแม้เมื่อวานนี้ด้ชนี้จะปรับตัวขึ้นเกือบ 1% แต่จํานวนหุ้นที่ปรับตัว ขึ้นนั้นกลับใกล้เคียงกับจํานวนหุ้นที่ปรับลง และที่สําคัญ การขึ้นของดัชนี SET วานนี้กว่า 13 จุดนั้น เป็นผลมาจากหุ้น DELTA เพียงด้วเดียวถึง 7 จุดด้วยกัน สถานการณ์แบบนี้ยังคงบ่งชี้ถึงสภาวะตลาดที่มี Upside จํากัด มากขึ้น สอดคล้องกับกรอบแนวต้านเชิง Valuation ที่เราให้ไว้ที่ 1650-1660 จุด ซึ่งเมื่อวานูนี้ด้ชนเริ่มปรับขึ้นไปทดสอบเรียบร้อยแล้ว ส่วนในรายของ DELTA นั้น หากราคาหุ้นยังคงปรับด้วร้อนแรงเช่นนี้ ต่อไป เราประเมินมีความเสี่ยงสูงที่ทางตลท.จะประกาศเป็น หลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกํากับการซื้อขายได้ ซึ่งหากเกิดขึ้น จริงอาจน่ามาสู่การปรับลงของราคาหุ้นและดัชนี SET ได้ด้วยเช่นกัน Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ จากการที่ดัชนีปรับขึ้นใกล้เคียงบริเวณกรอบบน ที่เราให้ไว้แล้ว แนะนําเป็นจดทยอยขายทํากําไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่าหรับนักลงทุนที่เข้าสะสมหุ้นมาตั้งแต่ดัชนีต่ํากว่า 1550 จุดตามที่เรา แนะน่าก่อนหน้านี้ ส่าหรับผู้ที่ต้องการเข้าสะสมหุ้นใหม่ มองว่าระดับปัจจุบัน นั้นไม่คุ้มเสียงแล้ว โดยอาจรอให้ด้ชนีย่อตัวลงมาก่อนแถวบริเวณ 1600 จุดตันๆ น่าจะเป็นโซนที่ปลอดภัยและมี Risk/reward ในการลงทุน มากกว่า oil: ส่วนในวันนี้คาดว่าดัชนี SET น่าจะยังถูกประคับประคองต่อไปได้ โดยเฉพาะกลุ่ม Oil & Gas จากราคาน้ํามันดิบที่ยังคงปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังได้อานิสงส์จากรายงาน Stock น้ํามันดิบสัปดาห์นี้ที่ลดลงมากกว่าคาด และการประชุมกลุ่ม OPEC+ ที่ไม่มีประเด็น Surprise ในทางลบ ทั้งนี้ สาหรับการลงทุนในกลุ่มพลังงาน ณ เวลานี้ เรายังชื่นชอบกลุ่ม กลางน่าและปลายน่าเป็นสําคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ โดยตรงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดประเทศ ต่างๆ โดย Top pick ของเราประจําเดือนนี้ยังคงได้แก่ ESSO และ SPRC USD: อีกปัจจัยหนึ่งที่ยังคงช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลก ณ ขณะนี้นั่นก็คือ USD ที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อคืนนี้รายงานตัวเลขขอรับ สวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯจะออกมาในระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เกิด เหตุการณ์ Covid-19 ก็ตาม สะท้อนถึงปรากฏการณ์ Risk on อย่างแท้จริง มองปัจจัยดังกล่าวน่าจะทําให้เงินบาทของเรานั้นทรงตัวแข็งค่าได้ต่อไป ส่งผลเชิงบวกต่อ Fund flow ในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เราจะติดตามดู รายงานตัวเลขฐานะล่วงหน้าสุทธิของธปท.ในวันปีอีกที่หนึ่ง ว่าจะ เริ่มมีสัญญาณการเข้าแทรกแซงไม่ให้บาทแข็งค่าจนเกินไปบ้างหรือ ยัง หลังจากช่วงที่ผ่านมาเงินบาทปรับตัวแข็งค่ามาอย่างต่อเนื่อง หากเริ่มมีสัญญาณดังกล่าว อาจนํามาสู่การขายล็อคก่าไรค่าเงิน ชั่วคราวของนักลงทุนต่างชาติได้
แนวรับ 1,625 แนวต้าน 1,655
• Jobs report: ติดตามตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันนี้ซึ่งล่าสุด ตลาดคาดการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) จะเพิ่มขึ้นราว 725,000 ตาแหน่ง อย่างไรก็ตาม มองปัจจัยดังกล่าวไม่มีอิทธิพลใดๆ มากนักต่อการตัดสินใจลดวงเงิน QE ของ Fed (Tapering) ซึ่งคงจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้อยู่แล้ว ตามการส่ง สัญญาณของนาย Jerome Powell ล่าสุด แต่อาจมีผลอยู่บ้างต่อคาดการณ์ดอกเบี้ย Fed Funds ในอนาคต หากตัวเลขจริงออกมาแตกต่างจากตลาดคาดพอสมควร ซึ่ง ตัวแปร Fed Funds futures (FFF) นี้ถือเป็นตัวแปรที่สาคัญต่อการลงทุน ทั่วโลกในช่วงถัดไปมากกว่าประเด็น QE Tapering แล้ว หากในวันนี้ตัวเลข จริงออกมาดีกว่าคาดอย่างมากจนทําให้ FFF ขยับขึ้น มองเป็นปัจจัยลบต่อการ ลงทุนในสัปดาห์หน้า แต่หากตัวเลขจริงออกมาแย่กว่าคาดอย่างมากจนท่าให้ FFF ขยับลง คาดจะทําให้โมเมนต้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อได้ เนื่องจาก USD และ UST yield น่าจะทรงตัวตําต่อไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities