ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเข้าสู่โหมดขาขึ้นตั้งแต่ลงไปทำจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายน ทั้งบิทคอยน์และอีเธอเรียมต่างพากันทำจุดสูงสุดใหม่สูงขึ้นเรื่อยในรอบหกสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงที่บิทคอยน์และอีเธอเรียมลงไปทำจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ตอนนั้นมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาด (market cap) ของสกุลเงินดิจิทัลหดตัวลดลงจาก $2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐลงไปเหลือ $1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมาในช่วงนี้ มีมูลค่าตลาดกลับคืนมาเป็น $2.077 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับจำนวนสกุลเงินดิจิทัลรวมทั้งหมดทั้งสิ้น 11,382 สกุลเงิน
การกลับมาของสกุลเงินดิจิทัลครั้งนี้ นอกจากบิทคอยน์ที่กลับมาเป็นที่สนใจของตลาดอีกครั้งเนื่องจากกองทุน และสถาบันการเงินชื่อดังหลายแห่ง ทยอยเข้าถือบิทคอยน์มากขึ้นเรื่อยๆ ความน่าสนใจยังไปตกอยู่กับสกุลเงินดิจิทัลทางเลือก (Altcoins) อีกตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า “คาร์ดาโน” (ADA) สกุลเงินนี้วนเวียนอยู่ในยี่สิบอันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2017 แต่กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับสามรองจากบิทคอยน์และอีเธอเรียมเท่านั้น
ก่อนหน้านี้คาร์ดาโนเคยสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $2.40 ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะลงไปเหลือ $1.12 ในเดือนกรกฎาคม และเพราะการกลับมาของบิทคอยน์ทำให้ปัจจุบันคาร์ดาโนสามารถสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่เอาไว้ที่ $3.1 ได้เป็นที่เรียบร้อยและยังไม่รู้ว่าขาขึ้นครั้งนี้จะจบลงเมื่อไหร่ คาร์ดาโนเป็นใคร? คาร์ดาโนมีอะไรดี? ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้กัน
สกุลเงินดิจิทัลลำดับที่สาม: คาร์ดาโน (ADA)
คาร์ดาโน เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะในรูปแบบของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซและการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ โดยใช้ข้อตกลงในรูปแบบ proof of stake ทำธุรกรรมผ่านคริปโทเคอร์เรนซีในชื่อ เอดา (ADA)
อันที่จริงคาร์ดาโนนั้นเป็นแพลตฟอร์มลักษณะคล้ายกันกับอีเธอเรียม แต่ความแตกต่างระหว่างคาร์ดาโนและอีเธอเรียมคือเอดาถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการใช้งานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว (Scalability) เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม (Interoperability) และเพิ่มความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งอีเธอเรียมไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
ที่มา: Investing.com
จากรูปจะเห็นได้ว่าในเดือนกันยายนปี 2021 เหรียญเอดามีราคาซื้อขายอยู่ที่ $3.0451 ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ $98,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นสกุลเงินลำดับที่สามรองจากบิทคอยน์และอีเธอเรียม แต่อยู่เหลือสกุลเงินดิจิทัลอับดับสี่อย่าง “ไบแนนซ์คอยน์” (BNB) และ “เตเตอร์” (USDT)
สถานการณ์ปัจจุบันของบิทคอยน์และอีเธอเรียม
ในตอนสิ้นเดือนสิงหาคม ระดับราคาซื้อขายบิทคอยน์ ณ ตอนนั้นมีราคาอยู่ที่ $47,210
ที่มา: CQG
จากรูปจะเห็นว่าราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อเดือนเมษายนจนถึงปัจจุบันประมาณ 27.9%
ที่มา: CQG
จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2021 ตอนนี้ราคาอีเธอเรียมปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดนั้น 22.5% มีราคาซื้อขายในวันที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ที่ $3,415 ในขณะที่บิทคอยน์และอีเธอเรียมกำลังชะลอตัวอยู่นี้เอง สกุลเงินดิจิทัลคาร์ดาโนกลับยังปรับตัวขึ้นอย่างสนุกสนาน และยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลดลงเมื่อไหร่
ADA กับการทะยานสร้าง All-Time High
ในวันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม สกุลเงินดิจิทัลเอดาทำขาขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ $2.9442 และในวันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน (ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่) สกุลเงินดิจิทัลเอดาได้ปรับตัวขึ้นไปถึง $3.0123 สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่เป็นที่เรียบร้อย
กราฟในรูปนี้แสดงให้เห็นขาขึ้นล่าสุดของสกุลเงินดิจิทัลคาร์ดาโน ในเดือนพฤษภาคมสกุลเงินดิจิทัลอีเธอเรียมสามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือ $4,400 ซึ่งในตอนนั้นเอดาได้วิ่งขึ้นไปถึง $2.3091 ในวันที่ 18 สิงหาคมเอดาสามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคานั้นได้ และพึ่งทำจุดสูงสุดใหม่ไปเมื่อวานนี้
สิ่งที่ทำให้เอดาแตกต่างออกไปจากบิทคอยน์คือวิธีการได้มาของเหรียญและจุดประสงค์ของการใช้งาน บิทคอยน์ใช้ “Proof of Work (PoW)” ในการผลิตเหรียญ และสกุลเงินดิจิทัลของบิทคอยน์ถูกใช้เพื่อเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนหรือเก็บสะสมมูลค่า ในขณะที่คาร์ดาใช้ “Proof of Stake (PoS)” และจุดประสงค์ของคาร์ดาโนคือเป็นเหรียญที่ใช้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มคาร์ดาโน
ขาขึ้นของ ADA อาจทำให้ตลาดคริปโตฯ กลับมาเป็นที่สนใจในวงกว้างอีกครั้ง
หากนับเฉพาะมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาดของสกุลเงินสามอันดับแรกอย่างบิทคอยน์ อีเธอเรียม และคาร์ดาโนจะพบว่าทั้งสามสกุลเงินมี market cap รวมกันคิดเป็น $1.381 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นมูลค่า 65.7% ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด สกุลเงินอีเธอเรียมมีมูลค่าตลาดมากกว่าคาร์ดาโนสี่เท่า และบิทคอยน์มีมูลค่าตลาดมากกว่าคาร์ดาโนสิบเท่า
การปรับตัวขึ้นมาของเหรียญคาร์ดาโนในรอบนี้อาจจะเป็นส่งสัญญาณออกไปบอกกับโลกภายนอกว่าในอนาคตจะมีสกุลเงินดิจิทัลเหรียญอื่นๆ ที่ถูกยอมรับได้มากขึ้น สำหรับสาเหตุที่คาร์ดาโนทะยานขึ้นมาอย่างโดดเด่นในช่วงนี้เป็นเพราะตัวกลางการชำระเงินนาม “Coti” (COTI) เปิดรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินเอดา เช่นเดียวกับกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา “คอยน์เบส” (NASDAQ:COIN)
ไม่ใช่กับแพลตฟอร์มจากอเมริกาเท่านั้น แต่คาร์ดาโนยังได้รับการยอมรับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในประเทศญี่ปุ่นด้วย ตลาดญี่ปุ่นเป็นที่ทราบดีว่ามีกฎและข้อบังคับที่เข้มงวดมากมาย ในปัจจุบันมีเพียงสามสกุลเงินหลักๆ เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตในญี่ปุ่นคือบิทคอยน์ อีเธอเรียม ไลท์คอยน์ คาร์ดาโนกำลังจะกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่สี่ที่ได้รับการยอมรับจากชาวญี่ปุ่น
นอกจากการเป็นที่ยอมรับมากขึ้น สาเหตุหลักที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลปรับตัวขึ้นมาเป็นเพราะคาร์ดาโนกำลังจะมีการอัปเกรดครั้งใหญ่ หรือที่ภาษาวงการคริปโตเรียกว่า “Hard Fork” หมายถึงการแยกสายบล็อคเชนออกมาจากเหรียญเดิมและสร้างใหม่ในเวอร์ชันของตัวเอง (เปรียบเทียบกับการแยกนิกายของศาสนา) ซึ่งสายใหม่ที่จะกำเนิดขึ้นมานี้จะมีชื่อว่า “อลอนโซ่” (Alonzo) วันเวลาที่การ hard fork นี้จะเกิดขึ้นคือวันที่ 12 กันยายน 2021
นักวิเคราะห์คริปโตฯ หลายคนมีความเห็นว่าเป็นไปได้ที่ในอนาคต คาร์ดาโนจะเป็นสกุลเงินที่ขึ้นมาแทนที่บิทคอยน์และอีเธอเรียม นั่นจึงทำให้ระดับราคา $3 กลายเป็นสิ่งดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่หวังว่าจะได้เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลที่มีอนาคตไกล
ถึงแม้ว่าคาร์ดาโนจะน่าสนใจเพียงใด แต่ต้องไม่ลืมว่าสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลยังเป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงสูง จงลงทุนเฉพาะเงินที่คุณยินดีจะเสีย เพราะความผันผวนที่มีมากอาจทำให้ราคาแกว่งตัวอย่างรุนแรง แม้ว่าเอดาจะเป็นที่ยอมรับและมีสภาพคล่องสูง แต่ความแปรปรวนของราคาและความไม่คุ้นชินกับสภาพตลาดคริปโตฯ อาจเป็นเหตุให้ขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีพื้นฐานการลงทุนที่ดีพอ การลงทุนก็ไม่ต่างอะไรกับการเล่นพนัน