ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,650 จุด คาด SET ยังคง ผันผวนต่อเนื่อง แต่ยังมีปัจจัยบวกจากการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ต่ํากว่าคาด ทําให้คาดว่าเฟดจะไม่เร่งรีบ ในการทํา QE Tapering และการคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะ จีนและญี่ปุ่น ที่ยังคงไม่ผ่อนคลายมาตรการเหมือนหลายประเทศในสหรัฐฯ และยุโรป ยังคงทําให้ตลาด หุ้นในภูมิภาคยังน่าสนใจ เราแนะนําลงทุนในลักษณะ,Selective เช่นเค็ม เน้นหุ้นที่มีปัจจัยหนุน เช่น หุ้นในกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังผ่อนคลายมาตรการ รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ราคาหุ้น Laggard เราแนะนําทยอยสะสม กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนัก การลงทุนในหุ้นสัดส่วน 60% ตลาดหุ้นเวียดนามปิดทําการเนื่องในวันชาติ สภาพคล่องตลาดภูมิภาคยังสูง หลัง BOI ระบุไม่ลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOI) ให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังคงมีความจําเป็น แม้ต้นทุนวัตถุดิบจะปรับเพิ่มขึ้น สะท้อน จากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทําให้ Market Consensus ยังคงคาดหมายว่า BOI จะยังไม่ดําเนินการ ปรับเปลี่ยนโยบายการเงินในช่วงวิกฤตการณ์ แม้ธนาคารกลางของหลายประเทศ เริ่มถอนมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจกันแล้วก็ตามสอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะอัดฉีดสภาพคล่อง 4 หมื่นล้าน หยวน (ประมาณ 6,190 ล้านเหรียญ) เพื่อลดความกังวลของตลาดเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องตึงตัว ผ่าน Reverse Repos อายุ 7 วัน (อัตราดอกเบี้ยล่าสุด 2.2%) ทําให้สภาพคล่องในภูมิภาคจากผลของ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศ ยังอยู่ในระดับสูง ราคาน้ํามันผันผวน กระทบกลุ่มพลังงาน แต่เรามองเป็นจังหวะในการลงทุนรอบใหม่
- ราคาน้ํามันดิบยังคง ผันผวน สะท้อนทั้งปัจจัยบวกและลบ สํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงาน ปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ ลดลง 7.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าที่ Market Consensus คาดว่าลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามการประชุมกําหนดนโยบายการผลิตน้ํามันของกลุ่ม OPEC+ วานนี้ (1 ก.ย.) มีมติเพิ่มกําลังผลิตน้ํามัน 400,000 บาร์เรลต่อวัน โดยกลุ่ม OPEC+ เชื่อว่า Demand ยังคง แข็งแกร่ง แม้ปัจจุบันยังมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ราคาน้ํามันดิบที่ผันผวน กดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานระยะสั้น แต่เราเชื่อว่าภาพรวมของ Demand ในช่วงที่เหลือของปี 2564 ยังคง แข็งแกรุ่ง และอยู่ในภาวะ Over Demand โดยรายงาน IEA เดือน ก.ค. ระบุภาพรวมใน 2H64 Demand จะอยู่ที่ 98.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 4.69% HoH และ Supply อยู่ที่ 97.9 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.4% HoH ภายใต้สมติฐานกลุ่ม OPEC จะยังคงเพิ่มกําลังผลิตเฉลี่ยต่อเดือน 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ภาพของ Demand ที่แข็งแกร่งยังสะท้อนจากค่าการกลันตลาดสิงค์โปร์ 3Q64QTD อยู่ที่ 3.1 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 2.05 เหรียญ และ 0.05 เหรียญ ในช่วง 2Q64 และ 3Q63 ตามลําดับ เรามองราคาหุ้นที่ ปรับลงเป็นจังหวะเข้าลงทุน เราเลือก PTTEP PTTGC PTT (BK:PTT) TOP และ SPRC การจ้างงานสหรัฐฯ ปรับเพิ่มต่ํากว่าคาด
- การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 374,000 ตําแหน่ง ต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 613,000 ตําแหน่ง โดยได้รับผลกระทบจากการ แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ขณะที่ยังต้องติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตร ในเดือน ส.ค. โดย Market Consensus คาดเพิ่มขึ้น 750,000 ตําแหน่ง และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2% หากการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตํากว่าคาด และอัตราการว่างงานจะลดลงน้อยกว่าคาด จะส่งผลต่อช่วงเวลาในการทํา QE Tapering ของเฟด
RSI พื้นหลังคลายล็อกดาวน์ หนุน Domestic Play - ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานผลสํารวจดัชนี ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) เดือน ส.ค. 64 ซึ่งจัดทําร่วมกับ สมาคมผู้ค้าปลึกไทย โดยความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกฟื้นตัว ทั้งภาวะปัจจุบัน และแนวโน้มในอีก 3 เดือนข้างหน้า หลังภาครัฐฯ ผ่อนคลายเงื่อนไขของร้านอาหารให้สามารถใช้ครัวในการประกอบอาหารแบบ Delivery ได้ แม้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก จะยังอยู่ในระดับต่ํา และใกล้เคียงเดือน เม.ย. 63 ที่ประกาศ Lockdown ครั้งแรก ผลสํารวจระบุว่า กําลังซื้อของผู้บริโภคยังคงไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ปรับดีขึ้นจาก เดือน ก.ค. ถึง ส.ค. อย่างไรก็ตามความเสียงกดดันการฟื้นตัวของกําลังซื้อและรายได้ภาคครัวเรือน อยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของภาครัฐฯ ประเด็นดังกล่าวเรามอง เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play แนะนําเก็งกําไรระยะสัน เราเลือก PTG SPRC KBANK (BK:KBANK) BAM CPALL (BK:CPALL) HMPRO CRC PLANB TOA bay ORI มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,650 จุด หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค - DOD GBX และ ITEL ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญ วันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 11.0%YoY)/รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดุลการค้า (Trade Balance) เดือน ก.ค. (คาดขาดดุล 7.51 หมื่นล้านปอนด์) และตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการ ว่างงานครั้งแรกประจําสัปดาห์ (Initial Jobless Claims)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities