Positive momentum could be carried forward - stocks to focus SET: แม้ล่าสุด SET Index จะชนระดับเป้าหมายดัชนีของเราที่ 1600 จุด ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วย Sentiment เชิงบวกจากปัจจัยแวดล้อม (Thailand Focus + Jackson Hole Meeting) ประกอบกับสัญญาณที่ดี จากนักลงทุนต่างชาติ จึงคาดว่าในระยะสั้นดัชนี SET มีโอกาสที่จะขยับขึ้นต่ออกได้ Strategy: เพื่อความปลอดภัย สําหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่เต็มพอร์ด ณ ขณะนี้ อาจทยอยขายล้อคกําไรออกมาส่วนหนึ่ง ส่วนผู้ที่มีเงินสดอยู่ พอประมาณหนึ่ง อาจเลือกถือหุ้นต่อเพื่อรับ Positive momentum ที่เกิด ขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้ ในภาพรวมคาดว่าหุ้นกลุ่ม Domestic play ที่มีขนาดใหญ่ มีสภาพคล่องสูง มี Valuation ต่ํา และยังปรับตัว Laggard จะเป็นกลุ่มที่มี โอกาสปรับตัว Outperform ตลาดได้ในช่วงถัดไป จึงแนะน่าโฟกัสการถือ ครองไปยังหันกลุ่มเหล่านี้เป็นสําคัญ (รายละเอียดด้านล่าง) Fund low: มีสัญญาณที่ดีขึ้นหลั่งเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ ตราสารหนี้ไทยกว่า 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น 12,500 ล้านบาท และตราสารหนี้ระยะยาว 8,500 ล้านบาท มองปัจจัย ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้ค่าเงินบาทวานนี้ปรับตัวแข็งค่ากว่าประเทศ เอเชียอื่นอย่างเห็นได้ชัด (รูปที่ 1) โดยสถิติที่น่าสนใจก็คือว่า การเข้าซื้อ ตราสารหนี้ระยะสั้นกว่า 12,500 ล้านบาทนั้นถือเป็นยอดสูงสุด นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ปีก่อน (รูปที่ 2) ซึ่งหากจ่ากันได้ ถือเป็น จุดเริ่มต้นของการ Rally ของ SET Index รอบใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยนับจากวันที่ต่างชาติซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะสั้นสูงสุดในครั้งนั้น จะพบว่า 1 เดือนให้หลัง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยรวมกันไป กว่า 5 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว แม้ตัวเลขที่สูงดังกล่าวอาจจะไม่เกิดขึ้น ในครั้งนี้เนื่องจากบริบทของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างน้อยทิศ ทางการซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนกลุ่มนี้น่าจะยังมีให้เห็นอยู่ในระยะสั้น ได้ Recommended criteria: จากคําแนะนําเชิงกลยุทธ์ที่เราแนะนาการถือ ครองไปยังหุ้นกลุ่ม Domestic play ขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง มี Valuation ต่า และยังปรับตัว Laggard เราจึงได้ทําการคัดกรองหุ้น เหล่านี้โดยใช้ Criteria ต่างๆดังต่อไปนี้
1) Domestic: เป็นหุ้นที่ถึงกับอุปสงค์ภายในประเทศเป็นหลัก
2) Size: เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในดัชนี SET100
3) Liquidityะเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยสูงกว่าวันละ 100 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นมา
4) Valuation: Consensus EW/EBITDA ต่ํากว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังสําหรับหุ้นทั่วไป หรือ Consensus PBV ต่ํากว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังสําหรับกลุ่มสถาบันการเงิน
5) Laggard: เป็นหุ้นที่ยังคงปรับด้ว Underperform ดัชนี SET นับตั้งแต่ราคาปิดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ด้ชนี SET ขึ้นไปทําจุดสูงสุด ที่ 1636.56 จุด หรือให้ผลตอบแทนแย่กว่า -2.2% นั้นเองแนวรับ 1,584 แนวต้าน 1,605
Focus list: ซึ่งจากการคัดกรอง พบว่ามีหุ้นที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 26 ตัว แบ่ง ออกเป็นราย Sector ต่างๆ ดังต่อไปนี้ (เรียงตามล่าดับด้วอักษร) 1) กลุ่มพลังงานกลางน้ํา-ปลายนา ได้แก่ ESSO, OR, PTG, SPRC 2) กลุ่มสถาบันการเงิน ได้แก่ BAM, BBL, KBANK (BK:KBANK), KKP, SAWAD, TTB 3) กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CRC, DOHOME, GLOBAL, HMPRO 4) กลุ่มอสังหาฯและรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ AP, CPN, TEC 5) กลุ่มอาหาร ได้แก่ ICHI 6) กลุ่มขนส่งฯ ได้แก่ BTS 7) กลุ่ม ICT ได้แก่ JAS, JMARI, TRUE 8) กลุ่มสือและสิ่งพิมพ์ ได้แก่ MAJOR 9) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ BGRIM, EGCO, RATCH
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities