Not a bad time to lock profit in export-oriented stocks SET: คาด SETIndex ปรับด้วขึ้นได้ต่อในวันนี้ตามหลัง Sentiment เชิงบวกทั่วโลก และการปรับขึ้นของราคาน้ํามันดิบ ซึ่งน่าจะช่วยหนุนหุ้น กลุ่ม Oil & Gas ที่มีน้ําหนักมากในดัชนี SET ได้ ส่วนวานนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้น โดดเด่นจากแรงหนุนของหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินเป็นสําคัญ ตอบรับการ ขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท. ซึ่งจะทําให้แนวโน้ม NPL และการตั้งสํารองของกลุ่มสถาบันการเงินไม่ปรับขึ้นอย่างมีนัยสําคัญอย่าง ที่หลายคนกังวลก่อนหน้านี้ นอกจากนั้น แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันใน ประเทศกว่า 5 พันล้านบาทยังเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้หุ้นขนาดใหญ่ โดยรวมปรับตัวได้อย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับภาพที่เคยเกิดขึ้นในช่วง การจัดงาน Thailand Focus ในอดีต (รายละเอียดในบทวิเคราะห์วานนี้) Strategyะ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนํานักลงทุนถือครองหุ่นเฟ้อ Let profit run ได้ต่อไป มองหุ้นขนาดใหญ่จะยังถูกประคับประคองได้ดี ทั้งจากปัจจัย Sentiment, Valuation และ Liquidity ผิดกับหุ้นขนาดเล็กที่ เริ่มเห็นปัจจัยเสียงทางด้านสภาพคล่องมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมี ส่วนร่วมของนักลงทุนทั่วไปที่น้อยลงอย่างต่อเนื่อง (รูปที่ 1) ประเมินหุ้น ขนาดใหญ่ในกลุ่ม Domestic ที่มีแนวโน้ม Earnings ไตรมาส 4 ฟื้นตัวได้ดีและยังมี Valuation ต่ากว่าค่าเฉลี่ยจะเป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้ Thai export: กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกประจําเดือนก.ค. ขยายตัว 20% ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเป็นผลจากการ ขยายตัวของทั้งสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เราแนะนาให้นักลงทุนใช้จังหวะดังกล่าวในการทยอยขาย Lock ก่าไรหุ้นกลุ่มส่งออก จากสาเหตุต่างๆดังต่อไปนี้
1) กาไรของหุ้นกลุ่มนี้ โดยส่วนใหญ่ที่เตรียมเข้าสู่ Peak Season ในไตรมาส 3 ก่อนจะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาส 4 ตามปัจจัย ฤดูกาล บ่งชี้ถึง Earnings momentum ที่เตรียมอ่อนแรง ซึ่งโดย ปกติแล้ว การปรับตัวของราคาหุ้นมักน่าหน้าผลกําไรอยู่ 1 ไตรมาสโดยเฉลี่ย
2) Comment ของรมว.พาณิชย์เมื่อวานนี้ที่กล่าวว่าการระบาดของ Covid-19 ในประเทศมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของ ไทยเราในเดือนส.ค.และก.ย. โดยมีโรงงานบางแห่งไม่สามารถผลิต ได้อย่างต่อเนื่อง และต้องมีการปิดตัวลงหรือลดระดับกาลังการผลิต ลง นอกจากนั้นการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาการระบาดของเชื้อ ก็เริ่มติดขัดในช่วงข้ามแดนด้วยเช่นกัน
3) Valuation ของหุ้นกลุ่มส่งออกเช่น ETRON และ FOOD ที่ลอยอยู่ในระดับสูงมากจากมาตรวัดด่างเช่น PE, EVIEBITDA บ่งชี้ถึงราคาที่รับข่าวดีมาพอสมควร และอย่างที่เรา กล่าวมาตลอดในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ณ ขณะนี้ดูเหมือน ตลาดจะโฟกัสกับประเด็น Valuation มากเป็นพิเศษ โดยหุ้นที่ Outperform ในช่วงนี้มักเป็นหุ้นที่ซื้อขายด้วย Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
4) ดัชนีภาคการผลิตทั่วโลกที่ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น PMI ของจีนหรือ ISM ของสหรัฐฯ (รูปที่ 4) ซึ่งจาก Empirical study ของเราพบว่า ดัชนีเหล่านี้มักเป็นตัวแปรที่น่าที่ดีต่อ ภาคการส่งออกของไทยในช่วงถัดไป
5) ค่าเงินบาทที่นับวันจะยิ่งมี Room ในการอ่อนค่าที่จํากัดมากขึ้น จากการทยอยเข้าแทรกแซงของธปท.ในช่วงหลัง สะท้อนผ่านเงินส่ารองระหว่างประเทศ และฐานะล่วงหน้าสุทธิที่ปรับลดลงต่อเนื่อง (รูปที่ 5) ที่สําคัญระดับเงินสํารอง ปัจจุบันยังบ่งชีว่าธปท.มีความสามารถที่จะเข้าแทรกแซงเพิ่มเติมได้อีกหาก จําเป็น บ่งชีว่าระดับแนวต้านที่ 33.5 บาท/ดอลลาร์ฯนั้นน่าจะยังเป็นระดับที่ผ่านไป ได้ยาก และนั่นหมายถึง Benefit ทางด้านค่าเงินของหุ้นกลุ่มส่งออกที่เริ่มอยู่ในระดับจํากัด
6) ราคาน้ํามันดิบที่เริ่มอ่อนตัวลงตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีโอกาสทําให้สินค้าที่
เกี่ยวเนื่องเช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ส่งออกได้ในราคาที่น้อยลง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities