Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,535-1,560 จุด ความเสี่ยงยังคงอยู่ ที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ และสถานการณ์โควิด-19 เราแนะนําทยอยเก็บหุ้นที่มีราคา Laggard เราเลือก ADVANC PLANB SPRC IRPC PTT (BK:PTT) STEC CK CRC หุ้นที่ยังถูกคาดหมายผลประกอบการ 3Q64 เติบโตต่อเนื่อง เราเลือก ASIAN HANA KCE III และ JWD และหุ้น Defensive stock เราเลือก GPSC BCPG BPP BGRIM และ GULF เราประเมินว่า Upside ของตลาดเริ่มจํากัด หลังกลับมาฟื้นตัว 1.5% ในสัปดาห์นี้ ใกล้กรอบแนวต้านสัปดาห์ที่เราประเมินไว้ที่ 1,560 จุด หลังตอบรับเชิงบวกต่อความ คืบหน้าในการจัดหาวัคซีน mRNA เพิ่ม และการคาดหมายที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ตามความเห็นของผู้ว่าการ ธปท. ที่เสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่ม 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้มาตรการการคลังใน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นอินเดียปิดทําการเนื่องในวันอาชูรอว์ รายงานประชุม FOMC คณะกรรมการเฟดส่วนมากเห็นควรปรับลด QE เป็นปัจจัยลบต่อภาพรวมการลงทุน - คณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมประจํา วันที่ 27-28 ก.ค. โดยระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่ เห็นว่าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดี ขึ้นตามที่เฟดคาดหมายไว้ จึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในปี 2564 (ปัจจุบันเฟด ซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านเหรียญต่อเดือน เป็นการซื้อพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐฯ วงเงิน 80,000 ล้านเหรียญต่อเดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน การจํานอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านเหรียญ) โดยปัจจัยเรื่องของเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย และการ ขยายตัวของการจ้างงาน คณะกรรมการเฟดมองว่าใกล้จะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ การส่งสัญญาณปรับลด QE เป็นไปตามที่เราคาด โดยเราเชื่อว่าประธานเฟด จะมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจน เรื่องการปรับลดวงเงิน QE ที่ ชัดเจนมากขึ้น ในการประชุมประจําปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง (26-28 ส.ค.) เรามองเป็นปัจจัยลบต่อภาพรวมการลงทุนระยะสัน เนื่องจากตลาดอยู่ในภาวะที่กังวลต่อประเด็นดังกล่าว ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงตามที่เราคาด เราเชื่อว่าการปรับลด QE จะเกิดขึ้นจริงในช่วง 1Q65 EIA รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่อง แนะลงทุนหุ้น Upstream ที่ราคา Laggard - สํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่ 13 ส.ค.) มากกว่าที่ Market Consensus คาดลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณสํารองน้ํามันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ํามันดิบ ล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 1 ล้านบาร์เรล ปริมาณสํารองน้ํามันเบนซิน เพิ่มขึ้น 700,0Q0 บาร์เรล (คาดลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล) ขณะที่ปริมาณสํารองน้ํามันกลั่น ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล (คาดเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล) เราแนะลงทุนหุ้น Upstream ที่ราคา Laggard เลือก PTTEP และ PTT บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: PTT PTTGC PTG และ SC
Company Update: PTG (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 23.10 บาท) คาด 2H64 ธุรกิจ Non-oil หนุนผล ประกอบการ - คาดผลประกอบการ 3Q64 ลดลง QoQ จากธุรกิจน้ํามันที่ยังได้รับผลกระทบของ COyiD-19 และคาดจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 4Q64 คาดว่าธุรกิจ Non-oil ทั้งธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยและธุรกิจ LPG ซึ่งมีการ เติบโตและกําไรขั้นต้นที่สูงจะหนุนผลประกอบการ 2H64 ค่าการตลาดในช่วง 2H64 คาดว่ายังอยู่ในระดับ 1.8-1.9 บาทต่อลิตร บริษัทปรับลดงบลงทุนและเป้าการขยายสถานีบริการในปี 64 PTG เตรียมนําบริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จํากัด และ บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จํากัด เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ 4Q64 และ 2Q65 แนะนํา “ซื้อ” Company Update: PTT (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 48 บาท) แนวโน้มกําไรอ่อนตัว แต่ราคาหุ้นมี Upside ที่ น่าสนใจ - แนวโน้ม 3Q64 ผลประกอบการอ่อนตัว จาก Low Season ของธุรกิจ และการรับรู้กําไรจาก บริษัทในกลุ่มที่ลดลง โครงการท่อส่งก๊าซ เส้นที่ 5 และท่อส่งก๊าซฯ (ราชบุรี-วังน้อย) เริ่ม 3Q64 วางแผน ลงทุน 8.65 แสนล้านบาท ระหว่างปี 2564-2568 ฐานทางการเงินแข็งแกร่ง เพียงพอรองรับแผนการขยาย การลงทุน ราคาหุ้น Laggard น่าสนใจ Company Update: SC (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 3.62 บาท) คาด 2H64 ยังประคองตัวได้ หนุนจากแนวราบ ระดับบน - คาดผลประกอบการ 2H64 ยังประคองตัว HoH จากแผนการโอนและเปิดตัวโครงการใหม่ คาดยอด Presales ทั้งปี 64 ที่ 22,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายบริษัท หนนจากการเปิด 8 โครงการใน 2H64 กําไร 2Q64 ที่ 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้การโอน มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,535-1,560 หุ้นแนะนําปัจจัยทาง เทคนิค - CK WHA และ PLANB ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญ วันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีภาคการ ผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia Fed Manufacturing Index) เดือน ก.ค. (คาดอยู่ที่ 280 จุด) และตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจําสัปดาห์ (Initial Jobless Claims)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities