🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

SET ยังคงผันผวนต่อ มีปัจจัยลบกดดัน

เผยแพร่ 16/08/2564 09:17
SETI
-
CPALL
-

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (16-20 ส.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,560 จุด ประเด็นที่น่าติดตามสัปดาห์นี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศ ติดตามสถานการณ์การเมืองและ สถานการณ์โควิด-19 และการรายงาน ตัวเลข GDP ในช่วง 2Q64 จากสภาพัฒน์ฯ (รายงาน 16 ส.ค. ช่วงเช้า / Consensus คาดลดลง 1.4%QoQ และเพิ่มขึ้น 6.4%YoY) ขณะที่มุมมองเศรษฐกิจไทยของ ผู้ว่า ธปท. คาดว่า GDP ไทยในช่วง 2Q64 ขยายตัว 6.6%YoY จากฐานที่ต่ํา ขณะที่ต่างประเทศ ตึดตามรายงาน GDP ช่วง 2Q64 ของญี่ปุ่น (16 ส.ค.) และยูโรโซน (17 ส.ค.) รวมไปถึงรายงาน การประชุม FOMC (19 ส.ค.) ตลาดหุ้นยังมีโอกาสผันผวน กลยุทธ์การลงทุน เรายังให้น้ําหนักต่อหุ้นใน พอร์ตเพียง 50% แนะนําหุ้น Defensive stock เพื่อลดความผันผวน หรือหุ้นที่ยังถูกคาดหมาย ผลประกอบการ 3Q64 ดีต่อเนื่อง จากกลุ่ม Core Investment ที่เราแนะนํา ได้แก่ TM SMD WINMED BDMS CHG BCH GPSC BCPG TU ASIAN HANA KCE NER III bla: JWD • CPF (ซื้อ: ราคาเป้าหมาย 43 บาท) พบผู้ติดเชื้อที่โรงงานระยอง เราประเมินกระทบไม่มาก - จากกรณีพบการติดเชื้อ COMID-19 ของพนักงานโรงงานอาหารทะเลแช่แข็งใน จ.ระยอง จากการตรวจเชิงรุกด้วยชุด ตรวจ ATK อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเบื้องต้นกับทางบริษัท ทําให้เราประเมินว่าผลกระทบต่อรายได้รวม ค่อนข้างจํากัด ขณะที่ CPF ยังมีโรงงานที่ยังมีกําลังผลิตอีก 2 โรงงานสามารถรองรับการผลิต ชดเชยโรงงาน ระยอง ที่ต้องปิด 7 วัน เพื่อทําความสะอาด ทั้งโรงงานกับการคัดสรรคนงานที่ปลอดโควิด และสมัครใจ เข้าโครงการ Zeal เพื่อให้กลับมาผลิตเหมือนเดิม ในวันที่ 23 ส.ค. อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ระยะสั้นเป็น sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้น ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสในการสะสม • IEA ปรับลด Demand น้ํามัน แต่ไม่มาก ระยะสั้นยังมีปัจจัยกดดัน - สํานักงานพลังงานสากล (IEA) กังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ํามัน โดย IEA รายงานภาวะ ตลาดน้ํามัน ประจําเดือน ส.ค. มีเหตุการณ์สําคัญ 2 ประเด็น ได้แก่ (1) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ ความต้องการใช้น้ํามันทั่วโลกในปี 2564 สู่ระดับ 5.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เดิม 5.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน) อย่างไร ก็ดี IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ํามันในปี 2565 สู่ระดับ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อ วัน (เดิม 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และ (2) มุมมองของ IEA ต่อการที่กลุ่ม OPEC+ ปรับเพิ่มกําลังผลิตอย่างค่อย เป็นค่อยไป จะทําให้ตลาดน้ํามันโลกอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาด ภายใน 1Q65 แนะลงทุนหุ้นในกลุ่มที่ได้ ประโยชน์จากราคาน้ํามันดิบลดลง เราเลือก TASCO EPG GPSC BGRIM GULF 0SP CPALL (BK:CPALL) และ BJC Company Update: NOBLE WHA GPSC BDMS OSP CPALL MGT by PJW / Earnings Results: BGRIM SONIC และ AMATA Company Update: GPSC (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 98 บาท) 5 ปัจจัยบวกหนุนกําไร 2H64 - กําลังผลิตเพิ่ม และมีกําไรพิเศษ หนุนกําไร 2H64 ความเสียงจํากัด Upside อยู่ที่ต้นทุนเชื้อเพลิงปรับเพิ่ม XPCL ยังได้ ประโยชน์จาก La Nina หนุนกําไรแข็งแกร่งต่อเนื่อง กําไรสุทธิ 1H64 คิดเป็น 46% ของกําไรปี 64 ที่เราคาด ว่าจะเติบโต 25%YoY แนวโน้มกําไรระยะยาว ยังได้ประโยชน์จากกําลังผลิตที่เพิ่มขึ้น

Company Update: BDMS (ชื่อ., ราคาเป้าหมาย 27 บาท) คาดผลประกอบการ 3Q64 เติบโต YoY และ QoQ -รายได้เติบโตสะท้อนจากจํานวนการตรวจคัดกรอง COVID-19 อัตราการครองเตียงในเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นจาก 2Q64 ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต YoY จากผู้ป่วยชาวไทยเป็นหลัก คาดรายได้ผู้ป่วย ชาวต่างชาติจะกลับมามีนัยสําคัญในปี 2565 เน้นลงทุนใน Digital Healthcare มากขึ้น กําไรสุทธิ 2Q64 เพิ่มขึ้น 217%YoY และ 8%QoQ Earnings Results: SONIC (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 5,65 บาท) ผลประกอบการ 2Q64 ยังคงทําจุดสูงสุดใหม่ - รายงานกําไรสุทธิ 2Q64 ที่ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 525%YoY และ 3%QoQยังคงทํา All Time High ต่อเนื่อง รายได้ 2Q64 ปรับตัวสูงขึ้น หนุนจากการขนส่งทางเรือ ซึ่งได้อานิสงส์จากภาคการส่งออกและ ค่าระวางที่อยู่ในระดับสูง คาดผลประกอบการ 2H64 ยังมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่อง คงคําแนะนํา “ซื้อ” มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,515-1,540 จุด หุ้นแนะนําปัจจัย ทางเทคนิค - KEX BCP และ BDMS ติดตามรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สําคัญ วันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ ตัวเลข GDP ในช่วง 2Q64 (คาดขยายตัว 0.7%YoY และ 0.2%QoQ) และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน ก.ค. / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน ก.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 7.8% YoY) มูลค่าการลงทุนในสินทรัพย์ คงที่ (Fixed Asset Investment) เดือน ก.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 11.3%YoY) และดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ก.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 11.5%YoY)/รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของไทย ได้แก่ ตัวเลข GDP ในช่วง 2Q64 (คาดลดลง 1.4%QoQ และเพิ่มขึ้น 6.4%YoY)

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย