ยังต้องยกการ์ดสูง ถือเงินสด 15%ของพอร์ต 

เผยแพร่ 11/08/2564 10:26
อัพเดท 09/07/2566 17:32
DJI
-
SETI
-

Top Pick เลือก BAM, MCS และTVO

Sentiment บวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคา Commodity ที่ปรับ ขึ้นน่าจะเป็นแรงหนุนตลาดหุ้นไทยเข้านี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างความกังวลเรื่องการลดระดับนโยบาย การเงินผ่อนคลายของ Fed ส่วนปัจจัยในประเทศ ภาพรวมมีน้ำหนักในทาง ลบโดยหลายปัจจัยมีความเสี่ยงที่จะสร้าง Downside ให้กับ GDP ไทยในปี 2564 เริ่มจากสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศที่ยังจำเป็นต้องใช้มาตรการ ควบคุมที่เข้มงวดและอาจกินระยะเวลาครอบคลุมทั้ง 3Q64 ประเด็นถัดมา เป็นเรื่องการเมืองที่การชุมนุมเกิดขึ้นเป็นรายวัน และมีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมแรงหน่วงการฟื้นตัวจาก หนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะ ประเมินว่า SET Index น่าจะผันผวนโดยมี 1550 จุด เป็นแนวต้านหลัก ส่วน 1525 จุดเป็นแนวรับ พอร์ตจำลองไม่มีปรับเปลี่ยน โดยยังถือเงินสดสำรอง 15% Top Pick เลือก BAM, MCS และ TVO

ตลาดหุ้นโลกฟื้นช่วงสั้น จากความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ระวัง QE Tapering ด้วย ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ได้แรงหนุนจากวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างมาตรการกระตุ้นการลงทุน โครงสร้างฟื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของนาย Jeo Biden ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยขั้นตอนต่อไป วุฒิสภาจะส่งเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎร สหรัฐพิจารณาต่อไป

ASPS มองว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้อาจเป็นการฟื้นตัวเพียงช่วงสั้นๆได้ เนื่องจากในวันนี้สหรัฐจะรายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ก.ค. 2564 ซึ่งตลาดคาดว่า จะยังขยายตัวสูงอยู่ หากอัตราเงินเฟ้อสูงจริงตามคาด จะเป็นการตอกย้ำให้การทบทวน วงเงิน QE (QE Tapering) ของธนาคารกลาง (Fed) มีความเป็นไปได้สูงขึ้น โดยให้ น้ำหนักในการประชุม Jackson Hole Symposium ในวันที่ 26-28 ส.ค. 2564

ความเสี่ยงของการ QE Tapering ข้างต้น กดดันให้ตลาดหุ้นโลกและไทยมีความเสี่ยง ขาดแรงหนุนจาก Fund Flow ได้ในระยะต่อไป

COVID-19 ยืดเยื้อ, การเมืองร้อนแรง, หนี้ครัวเรือน-หนี้สาธารณะ อาจทำ Downside เศรษฐกิจไทยกว้างขึ้น

ประมาณการ GDP ไทยปี 2564 Consensus ส่วนใหญ่คาดขยายตัวไม่ถึง 1%yoy (ดัง รูป) ส่วนประมาณการล่าสุดของ ASPS คาดขยายตัว 1.7% แต่คาดจะมีการปรับ ประมาณการลง หลังการรายงาน GDP งวด 2Q64 ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าประมาณการที่ต่ำกว่า 1% เช่น 0.7% ของธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) อาจมี Downside เพิ่มเติมได้ จากความเสี่ยงต่างๆดังนี้

COVID-19 ยืดเยื้อ: แม้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จะมีแนวโน้มลดลงบ้าง โดย ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 21,038 ราย แต่คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยว่า การะบาดน่าจะยังไม่ถึงจุดสูงสุด (Peak) โดยคาดว่าสถานการณ์จะอยู่ ในระดับที่ควบคุมได้ในช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. 2564 ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ ไล่เลี่ยกับการกระจายวัคซีนที่มากพอสมควร โดย ASPS มองการระบาดอาจ ยืดเยื้อ จะส่งผลให้การจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆยืดเยื้อตามออกไป

การเมืองร้อนแรง: สถานการณ์การเมืองของไทยมีแนวโน้มร้อนแรงมากขึ้น หลังเกิดการชุมนุมบ่อยครั้งและมีภาพความรุนแรงปรากฏขึ้นประปรายและ ล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมนัดชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 11 ส.ค. 2564 (วันนี้) เวลา 15.00 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จะบั่นทอนความเชื่อมั่น และ Sentiment ของนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนใน หรือต่างประเทศ, การ ลงทุนทางตรง (สร้างโรงงานใหม่, ติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม) หรือการลงทุน ทางอ้อม (ลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน) ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทยต่อไป

• หนี้ครัวเรือน-หนี้สาธารณะ: ระดับของหนี้ครัวเรือน และหนี้สาธารณะของ ไทยที่ค่อนข้างปรับขึ้นสูงในระยะหลัง จะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในระยะข้างหน้าได้

o หนี้ครัวเรือน: ไทยมีหนี้ครัวเรือนในงวด 1Q64 อยู่ที่ระดับ 90.6% ของ GDP โดยหนี้ครัวเรือนที่สูง จะกดดันการฟื้นตัวของการบริโภค ครัวเรือนในอนาคตได้ เพราะแม้ครัวเรือนจะมีรายได้เพิ่มเติม ก็ยัง ต้องสำรองไว้จ่ายหนี้สิน ส่งผลให้การบริโภคฟื้นตัวได้น้อยลง

o หนี้สาธารณะ: ไทยมีหนี้สาธารณะในเดือน มิ.ย. 2564 อยู่ที่ระดับ 56.09% ของ GDP แม้ยังต่ำกว่ากรอบหนี้สาธารณะที่ 60% แต่ นับว่าค่อนข้างใกล้เคียงมาก หนี้สาธารณะที่จ่อใกล้กับกรอบเพดาน จะส่งผลให้การออกมาตรการเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจชุด ใหม่ๆของรัฐเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 2564 – ก.ย. 2565) หากรัฐไม่พิจารณาปรับเพิ่มกรอบ เพดานหนี้สาธารณะ

โดยสรุป ทั้ง 3 ประเด็นข้างต้น ได้แก่ การรบาด COVID-19 ยืดเยื้อ, การเมืองร้อนแรง, และระดับหนี้ครัวเรือน-หนี้สาธารณะที่สูง มีโอกาสเปิด Downside ของเศรษฐกิจไทย เพิ่มได้อีก และน่าจะส่งผลให้ SET Index ปรับขึ้นได้ลำบาก

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย