ลด 50%! ชนะตลาดในปี 2025 ด้วย InvestingProรับส่วนลด

2 กองทุน ETF ให้ผลตอบแทนสูงชดเชยความผันผวนที่มีในตลาด ณ ปัจจุบัน

เผยแพร่ 21/07/2564 17:22
IXIC
-
OPI
-
APTS
-
KBWY
-
PDI
-
PCI
-
PTY
-
BRG
-
GNL
-
YYY
-
USA
-
OXLC
-
RTL
-

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนในตลาดใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับร่วมกันคือการอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปีครึ่ง ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้แม้จะยอมรับว่าเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเร็วกว่าคาด แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเร็ววัน ประกอบกับการกลับมาของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รอบนี้มาใหม่ในชื่อของโควิดสายพันธุ์เดลตาด้วยแล้วยิ่งทำให้เกิดความผันผวนไปทั่วทุกตลาดลงทุน

สิ่งที่ตามมาก็คือนักลงทุนหลายคนกำลังถามหาสินทรัพย์อื่นเพื่อการลงทุน จะเป็นตลาดใดก็ได้ขอให้ได้ผลตอบแทนสูงก็พอ แต่ในโลกของความเป็นจริงนั้นยิ่งอยากได้ผลตอบแทนสูง ก็ต้องรับความเสี่ยงมากขึ้นเป็นธรรมดา เพื่อลดความเสี่ยงนั้น พร้อมกับยังเป็นช่องทางการทำกำไรที่ดีในอนาคต เราจึงมีกองทุน ETF สองตัวที่น่าสนใจมานำเสนอในบทความนี้

1. Invesco KBW Premium Yield Equity REIT ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $23.82
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $16.00 - $24.30
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 7.62%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.35% ต่อปี

กองทุน ETF นามว่า Invesco KBW Premium Yield Equity REIT (NASDAQ:KBWY) เป็นกองทุนที่ลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง กองทุนนี้เริ่มต้นเทรดในเดือนธันวาคมปี 2010KBWY Weekly

ปัจจุบัน KBWY ถือครองหุ้นรวมแล้วทั้งสิ้น 31 ตัว อ้างอิงราคามาจากดัชนี KBW NASDAQ Premium Yield Equity REIT หากพิจารณาเป็นสัดส่วนของกลุ่มหุ้นที่ถือครองแล้ว จะพบว่าแบ่งออกเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สำหรับเฮลท์แคร์ 21.7% ตามมาด้วยกลุ่ม REIT ของสำนักงาน 17.6% กลุ่ม REIT สำหรับกระจายความเสี่ยง 1.464% และ REIT สำหรับกลุ่มอุตสากรรม 13.67% 

หุ้นสิบอันดับแรกที่กองทุนถือครองคิดเป็นสัดส่วน 40% ของสินทรัพย์ทั้งหมดซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ $354.3 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทชื่อดังที่ KBWY ถือครองได้แก่ American Finance Trust (NASDAQ:AFIN), Global Net Lease (NYSE:GNL), Office Properties Income Trust (NASDAQ:OPI), Preferred Apartment Communities (NYSE:APTS) และ Bluerock Residential Growth REIT (NYSE:BRG)

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นของกองทุน KBWY ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 11% แม้ว่าปีที่แล้วกองทุนตัวนี้จะได้รับผลกระทบจากโรคระบาด จนทำให้ไม่มีใครต้องการถือครองสินทรัพย์ที่อยู่อาศัย แต่เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง ก็ดูเหมือนว่าบรรยากาศการลงทุนใน REIT ก็สามารถกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง มอบผลตอบแทนให้กับผู้ที่ยังถือครองได้ 

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น พวกเขาอาจจะเลือกปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรในช่วงฤดูรายงานผลประกอบการ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวนั้น REIT ถือเป็นสินทรัพย์สำคัญเพื่อคานความเสี่ยง จนต้องแบ่งพอร์ตส่วนหนึ่งไว้ให้กับหุ้นกลุ่มนี้ หากคิดจะลงทุนใน KBWY ให้รอราคาวิ่งลงมาที่ $22 หรือต่ำกว่านั้น

2. Amplify High Income ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $17.19
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $14.26 - $17.82
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 9.12%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 2.45% ต่อปี

กองทุน ETF นาม Amplify High Income (NYSE:YYY) เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน (กองทุนปิด) กองทุนนี้เริ่มต้นเทรดในเดือนมิถุนายนปี 2013 มีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดอยู่ที่ $489.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เหตุผลที่อัตราค่ายใช้จ่ายต่อการดำเนินงานของกองทุนนี้แพง เพราะเป็นกองทุนที่ไปลงทุนในกองทุนอีกทีหนึ่ง YYY Weekly

YYY อ้างอิงราคามาจากดัชนี ISE High Income Index ถือครองหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 45 ตัว มีกองทุนที่สามารถทำรายได้แบบตายตัวคิดเป็นสัดส่วน 70% และสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงเหมาะสำหรับการโยกย้าย 30% แต่หากแบ่งออกเป็นสัดส่วนแล้ว จะพบว่า YYY ราคาของกองทุนที่เน้นให้ผลตอบแทนสูงอยู่ 21.6% ตามมาด้วยกองทุนที่เน้นสินเชื่อ 20.39% กองทุนที่เน้น multi-sector bond 8.63% 

หุ้นสิบอันดับแรกที่กองทุนถือครองคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ซึ่งถือเป็นแนวหน้าของวงการ CEF ทั้งนั้นได้แก่ PIMCO Corporate & Income Opportunity (NYSE:PTY), Oxford Lane Capital Corp (NASDAQ:OXLC), Liberty All Star Equity Closed Fund (NYSE:USA), PIMCO Dynamic Income Fund (NYSE:PDI) และ PIMCO Dynamic Credit Income Fund (NYSE:PCI)

ในปีที่แล้วราคา YYY สามารถปรับตัวขึ้นมาประมาณ 16.4% สร้างจุดสูงสุดในรอบหลายปีไปได้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนอีกทีสามารถพิจารณา YYY เป็นทางเลือกได้ อย่างไรก็ตาม ต้องทำใจยอมรับค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงานที่แพงกว่ากองทุนอื่นและการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงย่อมหมายถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย