🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

เปิด 3 หุ้นปันผลดีที่สามารถทำกำไรได้ในยุคเงินเฟ้อ

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 14/07/2564 16:56
MSFT
-
SBUX
-
HD
-

ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อกลายมาเป็นประเด็นให้พูดถึงอีกครั้งหลังจากที่เมื่อวานนี้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เฉพาะในเดือนมิถุนายน CPI ได้ปรับตัวขึ้นมา 0.9% เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 0.6% ในเดือนพฤษภาคมและสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ 0.5% ส่วนตัวเลข CPI แบบรายปีถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดด้วยการกระโดดขึ้นถึง 5.4% เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 12 ปี 

การที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาเช่นนี้ ยิ่งทำให้ตลาดตั้งแง่กับคำว่า “เงินเฟ้อเป็นผลกระทบชั่วคราว” ของธนาคารกลางสหรัฐฯ มากขึ้น และทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่าเฟดอาจจะร่นระยะเวลาขึ้นอัตราดอกเบี้ยเข้ามาเร็วกว่าที่พูดไปในเดือนมิถุนายน หากเป็นเช่นนั้นจริง นักลงทุนจะถอนทุนออกจากหุ้นกลุ่มเติบโตสูงและไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาลแทน 

แต่สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นที่ไม่ต้องการไปถือครองสินทรัพย์อื่น พวกเขายังมีทางเลือกอีกคือการไปถือครองหุ้นที่มีการเพิ่มเงินปันผลขึ้นทุกปีและมีความสามารถในการเพิ่มกำไรส่วนต่างของราคา ในบทความนี้เราได้นำรายชื่อหุ้นสามตัวที่สามารถพิจารณาซื้อได้เลยเพื่อต่อกรกับภาวะเงินเฟ้อ

1. Home Depot

บริษัทธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ‘โฮม ดีโป’ (NYSE:HD) มีชื่อเสียงที่ดีในเรื่องของการเพิ่มเงินปันผล ว่ากันว่าโฮมดีโปนั้นเพิ่มเงินปันผลขึ้นเร็วกว่าการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อเสียอีก ในช่วง 10 ปีล่าสุด โฮมดีโปมีอัตราการเติบโตของเงินปันผลโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 22%Home Depot Weekly Chart.

ข่าวดีก็คือมีความเป็นไปได้ว่าโฮมดีโปจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของเงินปันผลเช่นนี้ไปได้อีกอย่างน้อย 10 ปี เพราะก่อนที่โควิดจะระบาด โฮมดีโปได้ลงทุนไปกับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานใหม่ด้วยวงเงิน $11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การอัปเกรดธุรกิจของบริษัทให้เข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นคือกุญแจสำคัญในการกระจายสินค้าไปขายทั่วทั้งสหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก เปอโต ริโก และเกาะกวม

นอกจากการอัปเกรดระบบโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โฮมดีโปยังได้กำไรจากยอดขายมากขึ้นในช่วงที่มีการระบาด เพราะการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาให้สามารถกู้ไปลงทุนได้ง่ายขึ้น ผู้คนก็ได้เลือกที่จะปรับปรุงบ้านของตัวเองให้เหมาะกับการทำงานจากที่บ้านมากขึ้น ปัจจุบันโฮมดีโปสามารถปันผลรายไตรมาสต่อหุ้นได้ $1.65 มีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 2% ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นโฮมดีโปได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 20% มีราคาซื้อขายล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $317.05

2. Starbucks

แบรนด์กาแฟแฟรนไชส์เจ้าของโลโก้รูปนางเงือกนามสตาร์บัคส์ (NASDAQ:SBUX) คือตัวเลือกอันดับสองที่เราคัดมา เมื่อพูดถึงการอุปโภคบริโภคต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้น้อยคนมากที่จะไม่ดื่มกาแฟ เพียงทุกๆ วันที่ตื่นมาตอนเช้า การมีกาแฟสักแก้วกับแสงแดดยามเช้าอ่อนๆ ก็ช่วยให้เรามีความสุขกับการทำงานไปได้ทั้งวัน ดังนั้นสตาร์บัคส์จึงเป็นแบรนด์กาแฟที่ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพเศรษฐกิจแบบใด ก็จะยังสามารถเพิ่มเงินปันผลได้

ในระยะเวลาห้าปีหลังสุด อัตราการปันผลของหุ้นสตาร์บัคส์ได้เติบโตขึ้นปีละ 20% ด้วยวิธีคิดที่เน้นการคืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเป็นหลัก ณ ปัจจุบัน สตาร์บัคส์มีการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ $0.45 และมีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 1.57%Starbucks Weekly Chart.

อย่างไรก็ตามการระบาดของโควิด-19 ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับยอดขายและกำไรของสตาร์บัคส์ที่มาจากการนั่งร้านเป็นหลักอยู่พอสมควร แต่ถึงกระนั้นบริษัทก็มีความสามารถพอที่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายแบบปีบัญชีจะเติบโตขึ้น และมีมูลค่าอยู่ระหว่าง $28,500 - $29,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่ากำไรในปีงบประมาณปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ $26,500 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกันนี้นักวิเคราะห์ยังสรุปด้วยว่าหากอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกยังดีขึ้นต่อเนื่อง ตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ 

ที่น่าสนใจก็คือในช่วงที่มีการแพร่ระบาด สตาร์บัคส์กลับยังปรับเพิ่มเงินปันผลได้ทั้งๆ ที่กำไรหดตัว ด้วยประวัติศาสตร์ที่สตาร์บัคส์พยายามรักษาเอาไว้นี้จึงทำให้สตาร์บัคส์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วเหมาะกับการเป็นหลุมหลบภัยในการรักษาอัตราเงินปันผลให้คงอยู่ต่อเนื่อง ผลงานที่น่าชื่นชมเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด หุ้นสตาร์บัคส์จะสามารถปรับตัวขึ้นได้ 60% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $119.55

3. Microsoft 

บริษัทสุดท้ายที่เราจะแนะนำในบทความนี้คือหุ้นที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นเทรนด์หลักในการแข่งขันของโลก ณ ตอนนี้ บริษัทนี้อยู่คู่กับมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน มีระบบปฏิบัติการชื่อดังอย่าง ‘วินโดว์’ และโปรแกรมทำงานในตำนานที่เป็นรากฐานของโปรแกรมทำงานในยุคใหม่ๆ อย่าง ‘ออฟฟิศ’ ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงบริษัทไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) บริษัทที่พึ่งมีมูลค่าตลาดเกิน $2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไปเมื่อไม่นานมานี้

หุ้นของไมโครซอฟต์คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างหุ้นปลอดภัยและหุ้นที่มีอัตราการเติบโตในแง่ของผลกำไร ในแต่ละไตรมาสไมโครซอฟต์มีการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ $0.56 แม้จะมีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีต่ำกว่า 1% แต่ในรอบห้าปีล่าสุด ไมโครซอฟต์ได้ปรับอัตราเพิ่มเงินปันผลขึ้น 10% ทุกปี ซึ่งมากพอที่จะต่อกรกับเงินเฟ้อMicrosoft Weekly Chart.

ที่เราแนะนำหุ้นตัวนี้ไม่ใช่เฉพาะเหตุผลด้านการเติบโตของเงินปันผลเท่านั้น แต่ไมโครซอฟต์กำลังอยู่ในช่วงขยายอาณาจักร ซึ่งหมายความว่าพวกเขายังมีโอกาสที่จะทำกำไรเพิ่มได้อีกในอนาคต ในไตรมาสที่ 1 ยอดขายของไมโครซอฟต์พึ่งทำสถิติมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในปี 2021 

รายได้ในไตรมาสที่ 3 ที่นับแบบปีบัญชีเพิ่มขึ้น $41,700 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และถือเป็นไตรมาสที่เติบโตมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 กำไรที่ไมโครซอฟต์ได้เมื่อคิดเป็นตัวเลขแล้วพบว่าเพิ่มขึ้น 44% คิดเป็นเงิน $15,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีลูกค้าเปิดบัญชีเพื่อเข้าใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟต์ไม่ว่าจะเป็น ออฟฟิศ คลาวด์ หรือ อาชัวร์ (Azure) 

ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นไมโครซอฟต์ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 25% ในปี 2020 เคยปรับตัวขึ้นมาทั้งสิ้น 40% มีราคาซื้อขายล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $280.98 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 1% ภายในวันเดียว

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย