รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

จับตาแนวโน้มเศรษฐกิจจีน และ ติดตามสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลก

เผยแพร่ 12/07/2564 08:16
อัพเดท 09/07/2566 17:32

จับตาแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
และ ติดตามสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลก

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ยังคงกดดันตลาดการเงินฝั่ง EM และทำให้ธนาคารกลางหลายที่จำเป็นต้องคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย

  • ปัญหาการระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามต่อ นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ GDP Q2/2021 รวมถึง ข้อมูลรายเดือน อาทิ Retail Sales ทั้งนี้ ตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส เพื่อวิเคราะห์มุมมองของเฟดต่อทิศทางนโยบายการเงิน

  • โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนแรงลง หลังผู้เล่นบางส่วนเริ่มมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุด”Peak” ทั้งนี้ เงินดอลลาร์สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ ตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย หากการระบาด COVID-19 ทั่วโลกเลวร้ายมากขึ้น ในฝั่งเงินบาท แนวต้านสำคัญยังอยู่ในโซน 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์ และนอกเหนือจากแรงกดดันจากปัญหาการระบาด ต้องจับตาแรงกดดันจากเงินหยวนจีน (CNY) ที่อาจอ่อนค่า หากข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าคาด

  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    32.40-32.90
    บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯ – เรามองว่า ในการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด (Semi-Annual Testimony) ประธานเฟดจะแสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทว่า ประธานเฟดจะเน้นย้ำว่า นโยบายการเงินจำเป็นต้องผ่อนคลายต่อ เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยเสี่ยง อาทิ ปัญหาการระบาด COVID-19 ทั่วโลก ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ แม้ ตลาดจะประเมินว่า ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมิถุนายน จะหดตัว -0.4% จากเดือนก่อนหน้า แต่ไม่ได้แปลว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจจะมีปัญหา เนื่องจาก ยอดค้าปลีกอาจชะลอลงบ้าง หลังปัจจัยหนุนจาก Stimulus หมดลง แต่โดยรวมเทรนด์ยอดค้าปลีกยังปรับตัวสูงขึ้น หนุนโดยแนวโน้มการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown รวมถึง ตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสจะช่วยหนุนให้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สำรวจโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนกรกฎาคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 86.5 จุด สะท้อนว่า การบริโภคในสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี

  • ฝั่งยุโรป – แม้ว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปยังสดใส จากการเร่งแจกจ่ายวัคซีน รวมถึงการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทว่า ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดในยุโรปที่พุ่งขึ้นรวดเร็ว ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังและควรติดตามแนวโน้มการระบาดของ COVID-19 และ การเร่งแจกจ่ายวัคซีน อย่างใกล้ชิด ว่าจะสามารถควบคุมปัญหาการระบาดได้หรือไม่ เพราะหากการระบาดทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจทำให้รัฐบาลของหลายประเทศต้องใช้นโยบายควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น กดดันให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เรามองว่า ประเทศในโซนยุโรป รวมถึงอังกฤษ จะเผชิญปัญหาการระบาดไม่นาน เพราะประชากรเกิน 50% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส และเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้หากเร่งแจกจ่ายวัคซีนให้เร็วขึ้นและเร่งการตรวจโรค ก็จะสามารถคุมการระบาดได้เร็ว กว่าประเทศในฝั่งเอเชีย หรือ อเมริกาใต้ ที่ยังแจกจ่ายวัคซีนได้ไม่ดีและเน้นแจกจ่ายวัคซีนหลักที่มีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกัน Delta

  • ฝั่งเอเชีย – แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จากปัญหาการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ จะส่งผลให้ บรรดาธนาคารกลางส่วนใหญ่ในเอเชียเลือกที่จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป เพื่อประคับประคองการฟื้นตัวเศรษฐกิจ โดยในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Cash Rate) ไว้ที่ระดับ 0.25% เช่นเดียวกับ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Balance Rate) ที่ -0.10% พร้อมคงเป้าบอนด์ยีลด์ 10 ปี ไว้ที่ 0.0% และเดินหน้าทำคิวอีต่อ หลังเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ไม่ดี เพราะแม้จะมีการจัด Tokyo Olympic แต่ก็ไม่มีผู้ชมสำหรับรายการแข่งใน Tokyo และพื้นที่ข้างเคียง ทำให้เศรษฐกิจแทบไม่ได้รับอานิสงส์จากการจัด Olympic ตามที่เคยประเมินไว้ ส่วนในฝั่งธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ก็จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (7-day Repo Rate) ไว้ที่ระดับ 0.50% หลังเกาหลีใต้ก็เริ่มเจอการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ทั้งนี้ เราประเมินว่า หากการระบาดสงบลงและเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น BOK อาจเป็นธนาคารกลางแรกในเอเชียที่จะขึ้นดอกเบี้ยได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า นอกเหนือจากผลการประชุมของธนาคารกลาง ตลาดจะติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ที่โดยรวมโมเมนตัมการฟื้นตัวเริ่มอ่อนแรงลงมากขึ้น สะท้อนผ่าน ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมิถุนายน ที่จะขยายตัว 10.9%y/y ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) และ ยอดการลงทุนสินทรัพย์คงทน (Fixed Asset Investment) ที่จะโตราว 8.0%y/y และ 12%y/y ตามลำดับ แต่ก็เป็นการชะลอตัวลงจากช่วงต้นปี นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวราว 8.0%y/y ชะลอลงจากไตรมาสแรกที่โตถึง 18.3%y/y ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก เพราะไตรมาสแรกขยายตัวแข็งแกร่งนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากฐานที่ต่ำของปี 2020

Week ahead carlendar

covid cases

covid cases 2

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย