ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถรักษาขาขึ้นเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนในตลาดได้รับผลกระทบเชิงบวกเมื่อได้เห็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ปรับตัวขึ้นได้ไม่สูงเท่าตัวเลขคาดการณ์ สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถือเป็นข่าวร้ายเพราะนี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าการฟื้นตัวในภาคแรงงานมีพัฒนาการที่ช้ากว่าที่ภาครัฐต้องการ แต่สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้น เหตุการณ์นี้ถือเป็นข่าวดีเพราะหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงสภาพคล่องต่อไป ไม่ปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลแม้จะมีกระแสความกังวลภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นก็ตาม
อานิสงส์เชิงบวกนี้สะท้อนออกมาในกลุ่มหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ ยกตัวอย่างเช่นหุ้นในกลุ่มพลังงานสามารถปรับตัวขึ้นมากกว่า 6.7% เพราะราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวขึ้นเกือบ 5% เมื่อสัปดาห์ก่อน หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่างเช่น REIT สามารถปรับตัวขึ้นมา 3.1% ตามมาด้วยกลุ่มการเงิน1.2% ดัชนีหลักอย่างเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้น 0.6% ไปยังระดับราคา 4,229 จุด อยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียง 9 จุดเท่านั้น ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 0.7% และแนสแด็ก +0.5%
นอกจากข่าวดีที่ทำให้ภาพรวมการกลับมาเปิดเมืองของสหรัฐอเมริกานับวันยิ่งดูดีขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีข่าวร้อนแรงที่นักลงทุนหลายฝ่ายกลัวว่าจะเป็นการปั่นราคาหุ้นในตลาด เมื่อหุ้นที่เป็นเหมือนหุ้นปั่น (meme stocks) ของเหล่านักลงทุนรายย่อยกำลังปรับตัวสูงขึ้น ในบทความนี้เราจึงได้นำข้อมูลของหุ้นปั่นเหล่านี้และสถานการณ์ล่าสุดมาให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากัน
1. AMC Entertainment Holdings
หุ้นตัวแรกที่ถือว่าเป็นหุ้นปั่นที่มาแรงที่สุดในตอนนี้คือหุ้นของบริษัท ‘เอเอ็มซี เอ็นเตอร์เทนเมนต์’ (NYSE:NYSE:AMC) บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจจัดแสดงละครธุรกิจหลักคือธุรกิจจัดแสดงละครและเป็นเจ้าของดำเนินกิจการหรือมีผลประโยชน์ในโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้นของเอเอ็มซีสามารถปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 80% ทั้งๆ ที่มีผู้บริหารรายใหญ่สองคนได้ขายหุ้นของตัวเองออก คิดเป็นมูลค่า $8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากผู้บริหารทั้งสองคนนั้น ยังมีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่ามีบอร์ดบริหารอีกสี่คนที่ตัดสินใจขายหุ้นเมื่อราคาทะยานขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ เมื่อมีข่าวออกมาว่าอาจจะมีคนในบริษัทตัดสินใจขายหุ้นเอเอ็มซีเพิ่มขึ้น จึงทำให้ราคาหุ้นของเอเอ็มซีร่วงลงภายในระยะเวลาอันสั้น ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้วมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $47.91 ปรับตัวลดลงมาประมาณ 8%
ขาขึ้นของหุ้นเอเอ็มซีในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ถือหุ้นหลายคนที่จะตัดสินใจขายหุ้นของบริษัทที่กำลังจะยื่นล้มละลายออกไป บริษัทเอเอ็มซีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิดที่ทำให้โรงภาพยนตร์ไม่สามารถเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้อย่างแต่ก่อน นอกจากนี้การเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์สตรีมมิ่งก็มีส่วนช่วยในการทำลายธุรกิจของเอเอ็มซี
2. GameStop
อีกหนึ่งหุ้นปั่นที่เคยได้รับความสนใจอยู่ช่วงหนึ่ง ในตอนนี้กำลังกลับมาถูกจับตามองอีกครั้ง หุ้นตัวนั้นก็คือเกมสต๊อป (NYSE:GME) เกมสต๊อปจะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในวันพุธที่ 9 มิถุนายน หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าในไตรมาสนี้บริษัทเกมสต๊อปจะมีกำไรรวมทั้งสิ้น $1,130 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.67
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หุ้นเกมสต๊อปมีราคาปิดอยู่ที่ $248.36 ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดล่าสุด 3% เราเชื่อว่าหลายคนยังจำวีรกรรมขาขึ้น 1200% ของเกมสต๊อปได้ การกบฎของนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการแสดงพลังต่อนักลงทุนสถาบัน ก่อให้เกิดโมเดลการร่วมพลังเพื่อปั้นหุ้นและตลาดอื่นๆ ตามมาจนถึงปัจจุบัน
ในตอนนี้บริษัทเกมสต๊อปกำลังพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าพวกเขายังมี core value ที่เป็นพื้นฐานของธุรกิจหลักอยู่ เกมสต๊อปพยายามจะแข่งขันในธุรกิจเกมที่พัฒนาจากร้านตัวแทนจำหน่าย กลายเป็นการขายเกมผ่านโลกดิจิทัล ล่าสุดเกมสต๊อปได้เปลี่ยนทีมทำงานใหม่ทั้งหมด และได้จ้างไรอัน โคเฮน มาเป็นผู้คุมบังเหียนการเปลี่ยนแปลงตังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตามยอดขายของเกมสต๊อปในระยะเวลาสิบสองไตรมาสล่าสุดก็ยังอยู่ในขาลง
3. Chewy
บริษัทผู้ค้าปลีกอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในอเมริกา ‘ชิววี่’ (NYSE: NYSE:CHWY) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดในวันอังคารที่ 10 มิถุนายนก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ชิววี่จะสามารถทำกำไรได้ $2,120 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.03 เซนต์
นักวิเคราะห์มองว่าเทรนด์การซื้ออาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงออนไลน์จะยังคงอยู่ต่อไปแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาจะทุเลาลงมากแล้วก็ตาม ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดชิววี่ได้กำไรจากการขายอาหารสัตว์เลี้ยงออนไลน์เป็นจำนวนมาก เมื่อเดือนมีนาคมชิววี่ได้รายงานว่ามียอดสมาชิกเพิ่มขึ้น 43% จากยอดผู้ใช้งานเดิมที่มีอยู่ 19.2 ล้านคน
สำหรับกำไรที่หักค่าใช้จ่ายออกทั้งหมดแล้ว นักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้ชิววี่จะมีกำไรอยู่ระหว่าง $8,950 ล้านเหรียญสหรัฐถึง $8,850 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 25% ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นของชิววี่ได้มีการปรับตัวลดลงมา 16% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $75.21 แต่หากวัดผลงานหุ้นชิววี่ในรอบหนึ่งปี จะพบว่าหุ้นของชิววี่ยังสามารถสร้างขาขึ้นได้มากกว่า 50%