📊 ดูวิธีการที่นักลงทุนชั้นนำสร้างพอร์ตของพวกเขาค้นหาไอเดียการเทรด

2 กองทุน ETF สำหรับคนที่อยากมี Passive Income

เผยแพร่ 01/06/2564 11:56
อัพเดท 09/07/2566 17:32
US500
-

ท่ามกลางยุคอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ หุ้นที่มีความสามารถในการปันผลอย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่นักลงทุนระยะยาวต้องการมากที่สุด กลยุทธ์อย่างเช่นการซื้อหุ้นที่มีการปันผลดีหรือหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อหุ้นคืนเพื่อปั่นราคาคือคุณสมบัติที่นักลงทุนวัยเกษียณมักเลือกเข้าไปวางไว้ในพอร์ตลงทุน

โดยปกติแล้วหุ้นที่มีคุณสมบัติเหล่านี้มักจะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ นักลงทุนในตลาดเรียกหุ้นกลุ่มนี้ว่าหุ้นสายป้องกัน เพราะแม้จะไม่สามารถทำกำไรได้อย่างฉาบฉวย แต่ในยามที่เศรษฐกิจมีปัญหาหรือตลาดลงทุนเจอวิกฤต หุ้นเหล่านี้แม้จะได้รับผลกระทบแต่ก็จะไม่มากถึงขนาดตัวบริษัทต้องล้มหายตายจาก ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงกองทุน ETF ที่เลือกซื้อหุ้นเฉพาะตัวที่มีเสถียรภาพในการปันผลและสามารถคืนเงินให้กับผู้ถือหุ้นได้แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจก็ตาม

1. iShares Core High Dividend ETF

ระดับราคาปัจจุบัน: $98.10
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $76.23 - $100.48

เปอร์เซ็นต์การปันผล: 3.60%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.08% ต่อปี

กองทุน ETF นาม iShares Core High Dividend (NYSE:HDV) คือกองทุนที่เน้นถือหุ้นของบริษัทสหรัฐฯ ที่มีอัตราการปันผลสูง นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมปี 2020 ราคากองทุนตัวนี้ก็ปรับตัวขึ้นมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการอยู่ที่ $7,050 ล้านเหรียญสหรัฐHDV Weekly

กราฟ HDV นั้นอ้างอิงราคามาจากดัชนี Morningstar Dividend Yield Focus Index ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 75 ตัวซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มพลังงาน 17.98% ตามมาด้วยกลุ่มเฮลท์แคร์ 16.15% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 15.01% ประมาณ 55% ของหุ้นที่กองทุนนี้ถือครองล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นของบริษัทที่มีชื่อเสียง ยกตัวอย่างเช่น Exxon Mobil (NYSE:XOM), JPMorgan Chase (NYSE:JPM), Johnson & Johnson (NYSE:JNJ), Verizon Communications (NYSE:VZ) และ Chevron (NYSE:CVX).

หากนับตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน HDV มีราคาปิดสูงขึ้น 12% พึ่งสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ปัจจุบัน HDV มีอัตราส่วนราคาหารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และราคาหารกับมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/B) อยู่ที่ 23.44 และ 3.28 ตามลำดับ 

สำหรับนักลงทุนที่เล็งหุ้นชื่อดัง ปันผลสม่ำเสมอ เราขอแนะนำกองทุนนี้เอาไว้ในการพิจารณา หากเมื่อไหร่ที่ HDV ปรับตัวลดลงมายัง $95 ให้พิจารณาว่าเป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อได้

2. Invesco S&P 500 High Dividend Low Volatility ETF

ระดับราคาปัจจุบัน: $45.09
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $31.56 - $46.49

เปอร์เซ็นต์การปันผล: 4.19%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.30% ต่อปี

กองทุน ETF Invesco S&P 500 High Dividend Low Volatility (NYSE:SPHD) เป็นกองทุนที่ลงทุนกับธุรกิจความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสูงซึ่งสังกัดอยู่บนดัชนีเอสแอนด์พี 500 คำว่าความเสี่ยงต่ำหมายความว่าโอกาสที่ธุรกิจเหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดหุ้นก็จะมีน้อยลงไปด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า SPHD จะไม่ผันผวนเลย เพราะในช่วงแรกที่โควิดเข้ามายังสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 กราฟของ SPHD ก็ถือได้ว่าขึ้นลงแรงอยู่พอสมควร


SPHD Weekly

กองทุน Invesco S&P 500 High Dividend Low Volatility เป็นกองทุนที่อ้างอิงราคามาจากดัชนี 

S&P 500 Low Volatility High Dividend Index ถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 52 ตัว เริ่มต้นเปิดให้ทำการซื้อขายตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2012 มีสินทรัพย์รวม $3,140 ล้านเหรียญสหรัฐ กลุ่มหุ้นที่ SPHD ถือครองเอาไว้ได้แก่กลุ่มสาธารณูปโภค (17.92%) กลุ่มสินค้าจำเป็น (15.40%) และกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการให้ข้อมูล (12.74%)

หุ้นสิบอันดับชื่อดังที่บริษัทถือคิดเป็น 30% ของกองทุนทั้งหมด มีการปรับสมดุลของพอร์ตทุกๆ ครึ่งปี (เดือนมกราคมและกรกฎาคม) หุ้นชื่อดังที่ SPHD ถือครองได้แก่ Iron Mountain (NYSE:IRM), Lumen Technologies (NYSE:LUMN), Exxon Mobil, Kinder Morgan (NYSE:KMI) และ Altria Group (NYSE:MO) ตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน SPHD สามารถคืนกำไรให้กับผู้ถือครองไปแล้ว 20% สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 

การที่ราคาหุ้นของ SPHD กำลังย่อตัวลงมาในตอนนี้สามารถพิจารณาได้ว่ากราฟพึ่งผ่านช่วงเวลาปิดคำสั่งซื้อขายที่จุดสูงสุดเพื่อทำกำไร นักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อ SPHD สามารถรอให้ราคาวิ่งลงมาถึง $42 หรือต่ำกว่านั้น ส่วนตัวแล้วเราชอบกลยุทธ์การกระจายการลงทุนของกองทุนนี้ รวมถึงหุ้นที่เลือกถือก็ไม่ใช่หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมด ทำให้ง่ายต่อการโยกเงินหลบหนียามเกิดเหตุไม่คาดฝัน



ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย