ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อมาเป็นแรงกดดันให้กับตลาดลงทุน แต่จากพฤติกรรมของดัชนีหลักๆ ในสหรัฐอเมริกายังแสดงให้เห็นว่าตลาดฝั่งขาขึ้นน่าจะยังเป็นฝ่ายที่คุมตลาดไปอีกสักระยะ เอสแอนด์พี 500 ปิดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการวิ่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดตลอดกาล ในขณะที่ดัชนีรัสเซล 2000 ยังคงสามารถรักษาขาขึ้นได้เป็นเดือนที่แปดติดต่อกัน ทำลายสถิติขาขึ้นที่ลากยาวที่สุดของดัชนีในปี 1995
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงยืนยันคำเดิมว่ายินดีที่จะให้อัตราดอกเบี้ยสามารถขึ้นยืนเหนือ 2% ได้บ้างเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคำพูดก่อนที่เฟดจะได้เห็นตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เริ่มแสดงสัญญาณการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเช่นดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล ผู้เชี่ยวชาญบางคนเริ่มเห็นภาพการใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในผู้บริโภคและฝ่ายรัฐบาลเอง
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเชื่อว่าตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทจะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไปเป็นเพราะเมื่อวันศุกร์ (28 พฤษภาคม) ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนองบประมาณประจำปี 2022 มูลค่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรส ซึ่งเป็นงบประมาณแรกอย่างเป็นทางการภายใต้การบริหารของไบเดน นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของธีมการลงทุนในสัปดาห์นี้ และอีกเช่นเคยที่เราจะได้นำเสนอหุ้นสามตัวที่มีความน่าสนใจที่สุดมาฝากคุณผู้อ่านเป็นประจำทุกสัปดาห์
1. Zoom Video
แอปพลิเคชันชื่อดังที่พัฒนามาเพื่อให้สามารถจัดประชุม สัมมนา ได้ทางออนไลน์โดยใข้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ‘ซูม’ (NASDAQ:ZM) จะรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2022 ในวันอังคารที่ 1 มิถุนายนหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าในไตรมาสนี้ซูมจะสามารถทำกำไรได้ $907.61 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.99
ในปีที่แล้วซูมถือเป็นแอปพลิเคชันที่โด่งดังที่สุดตัวหนึ่ง การมาของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตมาพึ่งพาเทคโนโลยีออนไลน์มากขึ้น ด้วยโปรโมชันการอนุญาตให้ใช้งานห้องสัมมนาได้ฟรี 40 นาที และการประชุมออนไลน์ที่ตอบโจทย์องค์กรในแทบจะทุกหน่วยงาน จึงไม่แปลกใจที่ปีที่แล้วเราได้เห็นบริษัทซูมสามารถประกาศตัวเลขกำไรที่เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ทุกไตรมาส
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทซูมได้บอกกับนักลงทุนว่ากำไรที่คำนวณแบบปีงบประมาณของปีนี้อาจเพิ่มขึ้น 43% สะท้อนให้เห็นว่าต่อให้เราจะผ่านยุคโควิดไปแล้ว การเติบโตของยอดผู้ใช้งานแอปพลิเคชันจะยังคงอยู่ต่อไป ปีที่แล้วหุ้นของซูมเติบโตขึ้นมากกว่า 400% แต่สำหรับปีนี้กลับพบว่าหุ้นของซูมไม่ได้หวือหวาเหมือนอย่างเช่นปีที่แล้วอีกต่อไป แถมยังปรับตัวอยู่ต่ำกว่าจุดเปิดราคาของปี 2021 ด้วย ล่าสุดหุ้นของซูมมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $331.53 ปรับตัวลดลงมาตลอดทั้งปี 2%
2. Broadcom
บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์ไอที ‘บอร์ดคอม’ (NASDAQ:AVGO) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณของไตรมาสที่สองปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายนหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าในไตรมาสนี้บอร์ดคอมจะสามารถทำกำไรได้ $6,510 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $6.43
สิ่งที่นักลงทุนต้องการทราบมากที่สุดจากการรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือการลงทุนซื้อกิจการบริษัทซอฟต์แวร์ที่กำลังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิปฯ จะสามารถทำกำไรให่กับบอร์ดคอมได้หรือไม่ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบอร์ดคอมคือหนึ่งในผู้ผลิตชิปฯ รายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง มีไลน์การผลิตมากมายตั้งแต่ชิ้นส่วนของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนไปจนถึงอุปกรณ์ Wi-Fi ที่อยู่ตามบ้านของพวกเรา
ถึงแม้ว่าปัญหาชิปฯ ขาดแคลนกำลังเป็นเรื่องใหญ่ในวงการไอที แต่บอร์ดคอมก็ได้ออกมาเรียกความเชื่อมั่นในเดือนมีนาคมด้วยการประกาศว่ายังมีลูกค้าประมาณ 90% ที่สั่งซื้อชิปจากบริษัท ล่าสุดหุ้นของบอร์ดคอมมีราคาปิดอยู่ที่ $472.33 ตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวขึ้นมา 8% และในระยะเวลา 12 เดือนล่าสุดก็ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 65%
3. DocuSign
ผู้ให้บริการระบบเซ็นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ‘ด็อกคิวไซน์’ (NASDAQ:DOCU) จะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายนหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าในไตรมาสนี้ด็อกคิวไซน์จะสามารถทำกำไรได้ $438 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.28
การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จำเป็นต้องเข้าหาเทคโนโลยีมากขึ้นทำให้แม้แต่การเซ็นเอกสารก็ยังจำเป็นต้องเซ็นกันด้วยลายมือผ่านสื่อออนไลน์ ด้วยเหตุนี้แอปพลิเคชันด็อกคิวไซน์จึงได้รับความนิยมและเติบโตเป็นอย่างมาก ความนิยมนี้ทำให้ด็อกคิวไซน์ติดทำเนียบ 1 ใน 20 บริษัทที่ประสบความสำเร็จในปี 2020 ตามบริษัทซูมหรือโมเดิร์นนา (NASDAQ:MRNA)
แดน สปรินเกอร์ CEO ของด็อกคิวไซน์กล่าวว่าความสำเร็จในตอนนี้เป็นเพียงบันไดก้าวแรกของบริษัทเท่านั้น ล่าสุดหุ้นด็อกคิวไซน์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $201.62 ตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวลดลงมา 9%