รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เผยเบื้องหลัง Michael Burry เข้ามา Short Sell หุ้น Tesla

เผยแพร่ 27/05/2564 15:18
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เบื้องหลังที่แท้จริง ทำไม Michael Burry ถึงเข้ามา Short Sell หุ้น Tesla Inc (NASDAQ:TSLA)? ทำไมสิ่งที่เขาคิดถึงไม่เหมือนกับสิ่งที่หลายคนอาจเข้าใจ ?!?!

เชื่อว่านักลงทุนทุกท่านคงได้ยินกันมาแล้วว่าในรายงาน 13F Filing ไตรมาส 1 ของ Michael Burry และ Scion Asset Management นั้นพบว่า Burry ได้ Short Sell หุ้น Tesla ไปสูงถึง 40% ของพอร์ต

ทำให้หลายท่านคงคิดว่า Burry นั้นมองว่า

- หุ้น Tesla เป็นฟองสบู่ ?

- หุ้น Tesla เป็นเพียงหุ้นปั่น ?

- บริษัทรถยนต์อะไรจะมี P/E สูงเป็นพันเท่า ?

- ราคาหุ้นจะร่วงลงมา -90% จนเหลือเพียง 100 เหรียญ ?

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่จริงบ้างและ #ไม่จริงบ้าง ปนกันอยู่เต็มไปหมด วันนี้ทางเพจจะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังที่แท้จริง ว่าทำไม Michael Burry ถึงเข้ามา Short หุ้น Tesla กันครับ เพราะความจริงอาจทำให้ทุกท่านประหลาดใจ

------------------------------

หลังจากศึกษาการเทรดทั้งหมดของ Michael Burry และทวีตทั้งหมดที่เขาเขียนออกมา ทางแอด #สรุปมุมมองที่แท้จริง ของ Burry ได้ดังนี้

1️. Burry ไม่ได้มองว่า Tesla บริษัทที่แย่ และไม่เคยบอกว่าการลงทุนระยะยาวใน Tesla เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

ทาง Burry เพียงแต่มองว่าค่าเงินเฟ้อกำลังจะสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มากนัก และเขาจึงพยายามหาหุ้นที่มี P/E สูงที่สุดในตลาดเพื่อ Short Sell เท่านั้น ซึ่งหุ้น Tesla กลายเป็นหุ้นที่เข้าข่ายนี้มากที่สุด

2️. สัญญา Put Options ที่ Burry กำลังเก็งกำไรว่าราคา Tesla จะลงอยู่นั้น มีไปถึงเพียงปี 2023 หรือมีระยะเวลาเหลืออีกเพียง 2 ปี

แปลว่าหลังจาก 2 ปีนี้ไป Burry ไม่ได้มีมุมมองต่อราคาหุ้น Tesla แล้ว "ไม่ได้หมายความว่า Tesla ไม่ควรเป็นบริษัทที่ไม่ควรลงทุนระยะยาว"

นักลงทุนท่านไหนที่มองว่าจะลงทุนบนหุ้น Tesla บนระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ก็คงไม่ควรถูกเรียกว่าเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้ว

3️. ถึงแม้ Burry จะออกมากล่าวว่าเขา Short หุ้น Tesla ไว้และแนะนำให้ Elon Musk รีบขายหุ้นของเขาออกมา แต่ Burry ไม่เคยพูดถึงเรื่องธุรกิจของ Tesla เลยซักคำ

Burry ไม่เคยพูดถึงการขยายโรงงานใน Texas + Berlin, การพัฒนา 4860 แบตเตอรี่, การเตรียมปล่อย Full Self Driving (FSD) beta ตัวใหม่, การส่งมอบ Model S รุ่นใหม่ที่จะเป็นซีดานที่ดีที่สุดในโลก แปลว่าทาง Burry ยังไม่ได้ศึกษาธุรกิจของ Tesla อย่างจริงจัง แต่สิ่งที่ Burry ย้ำอยู่ตลอดคือ Hyperinflation ต่างหาก

4️. Hyperinflation หรือ "#ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง" คือสิ่งที่ Burry มองว่ากำลังจะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐ

ด้วยการที่รัฐบาลยังคงพิมพ์เงินออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งๆที่เศรษฐกิจก็กำลังจะกลับมาเติบโตอย่างร้อนแรง จะทำให้เกิด Hyperinflation หรือ #ภาวะเงินด้อยค่ามากจนไม่มีใครอยากได้ นี่คือสิ่งที่ Burry ย้ำว่ากำลังจะเกิดขึ้นและได้ออกมาเตือนทุกคนตลอดว่า ระวังสหรัฐจะกลายเป็นเหมือนกับเยอรมนีในช่วงปี 1914-192 ที่ค่าเงินมาร์คของพวกเขานั้นอ่อนค่าไปจนไม่เหลือมูลค่าเลย

5️. ถ้าหากเกิดเงินเฟ้อรุนแรงนั้นหมายความว่า #กำไรในอนาคตของบริษัทนั้นจะไม่มีค่าเลย !

ยกตัวอย่างเช่นถ้าบริษัทเทคบริษัทนึงตั้งเป้าหมายว่าจะทำกำไรได้ 1 พันล้านเหรียญในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ Hyperinflation ขึ้นจริงๆ กำไรในอนาคตนั้นจะมีความหมายอะไรในวันนี้ ?

ในเมื่อค่าเงิน 1 พันล้านเหรียญในอนาคตจะถูกลดทอน (Discount) มูลค่าลงมาในปัจจุบันหลายเท่านัก จนมีมูลค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ Valuation Model ในปุจจุบันนี้

6️. นี่คือเหตุผลที่ Burry จึงพยายามมองหาหุ้นที่นักลงทุนมองว่าจะมีกำไรในอนาคตมากที่สุด และแพะตัวนั้นจึงกลายเป็นหุ้น Tesla นั้นเองที่กำลังเทรดอยู่ที่ P/E 1,000 เท่าเมื่อต้นปีนี้

ประกอบกับการที่นักลงทุนรายย่อยกรูเข้าซื้อหุ้นกันอย่างบ้าคลั่ง จนระดับ P/E ของ Tesla พุ่งขึ้นถึงในระดับที่ Burry ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ Tesla ตกเป็นเป้าหมายของบริษัทที่ Burry อยาก Short Sell

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

อีกทั้ง Burry ยังมองด้วยอีกว่าแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยที่อาจจะใช้การ Leverage นั้นอาจจะพังลงมาได้ตลอดเวลา เมื่อโดนเรียกเก็บ Margin Call แบบลูกโซ่คล้ายๆกันเหตุการณ์ของ Archegos capital หรือการเทขายของ Bitcoin ที่เราเห็นในปัจจุบัน เป็นหุ้นที่กำลัง "Dancing on Knife's Edge" คือคำที่ Burry ชอบใช้

7️. อีกหลักฐานที่ชี้ว่าพอร์ตของ Burry นั้นมองว่าจะเกิด Hyperinflation ขึ้นก็เพราะ เขาเข้าไป Short Sell กองทุน ETF พันธบัตรระยะยาวของสหรัฐไว้เยอะมากเช่นกัน

ถ้าเงินเฟ้อรุนแรงจริงๆ จะไม่มีใครอยากถือพันธบัตรรัฐบาลที่ดอกเบี้ยต่ำอยู่ต่อไปอีก เพราะแปลว่ายิ่งวันเงินคุณจะยิ่งด้วยค่าลงเพราะดอกเบี้ยที่ได้มาจะไม่เพียงพอกับค่าเงินที่เฟ้อขึ้น

ทำให้หากเงินเฟ้อรุนแรงจริงๆ ผู้คนจะแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลและนั้นคือสิ่งที่ Burry กำลังเล็งไว้ โดยการเข้าไปซื้อ Put options หรือทำการเก็งกำไร Short Sell ไว้ว่าดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลจะต้องปรับตัวสูงขึ้น

8️. นอกจากนั้น Burry ยังได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทน้ำมันด้วยมุมมองที่ว่าหากเงินเฟ้อสูงราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะดีดตัวสูงขึ้น !

เป็นอีกหลักฐานที่ชัดเจนว่า Burry พยายามเก็งกำไรว่าค่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้น และการลงทุนบนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ก็เป็นกลยุทธในการลงทุนของนักลงทุนที่ต้องการจะกระจายความเสี่ยงของพอร์ตต่อค่าเงินเฟ้ออยู่แล้ว

และนี่ก็คือหลักฐานที่ทางแอดมองว่าทำไมการที่ Burry Short Sell หุ้น Tesla นั้นไม่ได้หมายความว่า Burry มองว่า Tesla เป็นบริษัทที่แย่ แต่แค่เป็นหนึ่งในเทรดที่ Burry มองว่าน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีหากเกิด Hyperinflation ขึ้นจริงๆ

------------------------------

นักลงทุน Tesla ในระยะยาว #ควรจะวางแผนอย่างไรต่อไป ?

1️. แน่นอนว่าการที่ราคา Tesla ยังคงปรับตัวลงไปเรื่อยๆย่อมจะทำให้นักลงทุน Tesla นั้นใจหาย แต่นักลงทุนระยะยาวควรจะตัดสินใจให้ชัดเจนก่อนว่า "กำลังลงทุนระยะยาวกับ Tesla หรือเพียงแค่เก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น"

หากคุณยังเชื่อในการขยายธุรกิจของ Tesla ซึ่งเรายังมีสิ่งให้น่าตื่นเต้นมากมายเหลือเกิน (ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน Texas + Berlin, 4860 แบตเตอรี่, FSD beta ตัวใหม่, การส่งมอบ Model S รุ่นใหม่ที่จะเป็นซีดานที่ดีที่สุดในโลก ธุรกิจพลังงานหรือ AI ที่ทาง Tesla พยายามพัฒนาอยู่) การที่ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวลดลงมาในระยะสั้นควรเป็นสิ่งที่คุณอยากเห็น

2️. ช่วงนี้ สัญญาณทางเทคนิค ของหุ้น Tesla กำลังเป็นขาลงอย่างชัดเจน เราคงไม่สามารถกำหนดราคาหุ้นระยะสั้นได้ #แต่เราสามารถวางแผนรองรับมันได้

หลังจากที่ราคาหุ้น Tesla ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 200 Days Moving Avearge ที่ 600 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคก็ขึ้นมาเป็นสีแดงทันที และราคากำลังเป็นเทรนด์ลง เทรนด์คงยังไม่เปลี่ยนจนกว่าราคาจะสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 600 เหรียญได้

หรือถ้ายังไม่สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 600 เหรียญได้ ระดับ 400-450 เหรียญน่าจะเป็นแนวรับหลักต่อไป

นักลงทุนระยะยาวควรใช้สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นไปประกอบมุมมองระยะยาว อาจใช้แนวรับหลักๆเหล่านี้ในการทำ DCA (Dollar Cost Average) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว

3️. นักลงทุนควรหาทางกระจายความเสี่ยงต่อ ภาวะค่าเงินเฟ้อ

หากคุณเป็นนักลงทุนที่เชื่อใน Tesla จริงๆ การขายหุ้น Tesla ออกไปเพราะกลัวค่าเงินเฟ้อคงจะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำ

แต่เราสามารถกระจายความเสี่ยงค่าเงินเฟ้อได้หลายวิธีคล้ายๆกับที่ Burry ทำไว้ เช่นการหากองทุนที่จะทำให้เราสามารถ Short ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสหรัฐไว้บ้าง หรือเข้าลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในภาวะค่าเงินเฟ้อสูงได้

นักลงทุนควรเข้าใจไว้ว่า ถ้าค่าเงินเฟ้อสูงจริงๆยังไงหุ้น Tesla ก็จะโดนเทขาย เพราะกำไรส่วนใหญ่ของ Tesla ยังเป็นกำไรในอนาคตจริงๆ จะมีนักลงทุนจำนวนมากที่ไม่สามารถรอผลตอบแทนในระยะยาวนี้ได้ และจะทำการเทขายหุ้นออกมา ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าเราจะใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสหรือไม่

4️. แต่คำถามที่สำคัญที่สุด ที่นักลงทุน Tesla ควรถามตัวเองคือ

"ความเสี่ยงในการถือหุ้น Tesla และราคาลงในระยะสั้น" เทียบกับ "ความเสี่ยงในการไม่ถือหุ้น Tesla และพลาดโอกาสในการเติบโตในระยะยาว" อะไรเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่ากัน ?

คำตอบในข้อนี้ไม่มีอะไรถูกหรือผิด และขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละท่านเลย ส่วนตัวแล้วแอดยังเชื่อว่าแรงกดดันระยะสั้นนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวของ Tesla ที่วางแผนในการแบ่งสัดส่วนเงินสดเพื่อรองรับเหตุการณ์นี้ไว้แล้ว

ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP

ความคิดเห็นล่าสุด

แม้จะเป็นหุ้นที่น่าลงทุน แต่ราคาไม่น่าลงทุนคุ้มค่ากับผลตอบแทนจากกิจการ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย