แม้การวิ่งของราคาในตลาดน้ำมันดิบจะยังไม่แตกต่างไปจากช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่ขาขึ้นรอบนี้ก็ดูเหมือนว่าฝั่งขาขึ้นกำลังเตรียมที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ถึงข่าวที่เราได้ยินได้เห็นทุกวันนี้จะเริ่มมีความสดใสจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจ แต่ในรายละเอียดนั้นกลับพบว่าขาขึ้นของตลาดน้ำมันอาจจะยังมีอุปสรรคอยู่ ในบทความนี้เราจะมาดูรายละเอียดกันว่าสถานการณ์ตลาดน้ำมันเป็นอย่างไรกันบ้าง
ซาอุดิฯ เปลี่ยนแผนเมื่ออินเดียมีใจออกห่าง
บริษัทผู้ผลิตน้ำมันประจำชาติซาอุดิอารัมโก (SE:2222) ได้ประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) ให้กับประเทศที่อยู่ทางฝั่งเอเชียหลังจากที่ปรับขึ้นต่อเนื่องมาตลอดหลายเดือน สาเหตุที่นักวิเคราะห์มองไปในทางเดียวกันถึงการปรับลด OSP ครั้งนี้คือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดีย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนกลับมองว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นมาจากซาอุดิอาระเบียและประเทศอื่นๆ ในกลุ่มโอเปกพลัสพึ่งเริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่อินเดียลดปริมาณการซื้อน้ำมันจากซาอุดิฯ ลดลงมาหนึ่งในสามของยอดที่เคยซื้อเดิม
บริษัทผู้ซื้อน้ำมัน (NS:IOC) ภายในรัฐแห่งหนึ่งของอินเดียสั่งซื้อน้ำมันจากซาอุดิอาระเบียในรอบเดือนพฤษภาคม 65% อีกที่เหลือ 35% นั้นแบ่งเป็นโควตาสั่งซื้อกับประเทศต่างๆ อย่างเช่น กัวอานา นอร์เวย์ บราซิล และสหรัฐอเมริกา
เมื่อพูดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับความพยายามลดการพึ่งพาน้ำมันจากซาอุดิอาระเบีย ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทกลั่นน้ำมันในประเทศจะยิ่งลดโควตาการซื้อน้ำมันลงตามความต้องการน้ำมันภายในประเทศที่ลดลง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีรายงานยืนยันแน่ชัดว่าความต้องน้ำมันในอินเดียลดลงจริงหรือมีข่าวว่าบริษัทกลั่นน้ำมันได้มีการปรับลดยอดคำสั่งซื้อน้ำมันลงแล้ว
เมื่อสัปดาห์ก่อนยังมีข่าวว่าโรงกลั่นน้ำมันในอินเดียเตรียมแผนที่จะผลิตน้ำมันต่อไป และยังมีแผนที่จะขายส่วนที่เหลือให้กับตลาดในภูมิภาคอื่นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้
ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ในหน้าร้อนปีนี้อาจจะยังไม่กลับมาเต็มที่
ท่ามกลางกระแสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินจะเพิ่มขึ้น 30% เมื่อนับจากไตรมาสที่หนึ่งถึงช่วงหน้าร้อน อันที่จริงแล้วปริมาณการใช้งานน้ำมันควรที่จะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ด้าน แต่นักวิเคราะห์บางกลุ่มกลับมองว่าอาจจะไม่คึกคักอย่างเช่นที่คิด
โดยปกติแล้วความต้องการท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อนของชาวอเมริกันจะสูงกว่าช่วงไตรมาสที่หนึ่ง เนื่องจากเป็นช่วงหลังเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ แต่ปีนี้ความต้องการน้ำมันเพื่อท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อนจะสูงเป็นพิเศษเพราะชาวอเมริกันอัดอั้นความอยากเที่ยวในหน้าร้อนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่สิ่งที่จะแตกต่างออกไปก็คือวิธีการเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยว
นักวิเคราะห์ประเมินว่าในปีนี้ชาวอเมริกันจะนิยมท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมากกว่าที่จะนั่งเครื่องบิน เนื่องจากการเดินทางโดยอากาศยังมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่างเช่นยังต้องสวมหน้ากากอนามัย พวกเขาไม่ต้องการที่จะมาเป็นกังวลเรื่องไวรัสหรือเอกสารยืนยันต่างๆ อีก เพื่อตัดปัญหาจุกจิกเหล่านี้ออกไป ชาวอเมริกันซึ่งรักสบายอยู่แล้วก็น่าที่จะเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมากกว่า แม้ว่าชาวอเมริกันวัยทำงานส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ถือว่ากลับมาเป็นปกติ 100%