รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

บทวิเคราะห์ SCB ราคานี้ ผลตอบแทนอาจไม่คุ้มเสี่ยง

เผยแพร่ 23/04/2564 08:57
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (BK:SCB)กําไรงวด 1964 เติบโต 103% QoQ และดีกว่าคาด เพราะกําไรจากเงิน ลงทุน นําไปสู่การปรับเพิ่มกําไรปี 2564 - 65 ให้ FV ใหม่ที่ 115 บาท แต่ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาใกล้เคียงช่วงก่อนเกิด COVID-19 แล้ว ทําให้ ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงอาจไม่คุ้ม จึงคงแนะนํา SWITCH กําไร 1964 ดีกว่าคาด เพราะกําไรจากเงินลงทุน (FWTPL)

กําไรสุทธิ 1064 เท่ากับ 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 103% QoQ (+9% yoy) จากฐานกําไร ต่ํา ดีกว่าฝ่ายวิจัยและตลาดคาด เพราะกําไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุน (FVTPL) ที่ 3.2 พันล้านบาท (คาด 1.2 พันล้านบาท) เทียบกับ 1.16 ล้านบาทในงวดก่อน หนุนด้วยเงิน ลงทุนของ บ. ย่อย SCB10X (ลงทุนใน Start Up) ทั้งที่เป็น Realized gain และ Unrealized Gain ส่วนรายได้ดอดกเบี้ยรับสุทธิและ NIM ตามคาด ทรงตัวจากสิ้นงวด ก่อนที่ 3.01% ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ชะลอตัว 9% QoQ เพราะ Bancassurance ในงวดก่อนมีการรับรู้ Performance Fee โดย Credit Cost เป็นไปตามคาดที่ 1.8% ลดลงจาก 2.6% ในงวด 4Q63 หลังตั้ง ECL ล่วงหน้าบางส่วนตั้งแต่ 2H63

ปรับปรุงกําไรปี 2564 สะท้อนกําไรจากเงินลงทุนงวด 1Q64

ฝ่ายวิจัยปรับปรุงกําไรสุทธิปี 2564 – 65 ให้สอดคล้องกับงวด 1Q64 ผ่านการปรับปรุง FVTPL ตามส่วนที่เกินคาดข้างต้นราว 2 พันล้านบาท และเพิ่มรายได้ ค่าธรรมเนียมฯ ปี 2564 - 65 เฉลี่ย 2% โดยคงสมมติฐาน Credit Cost ปี 2564 อย่างอนุรักษ์นิยมที่ 2% (เป้าธนาคารฯ คงเดิมไม่เกิน 2%) เพราะคาด Credit Cost ช่วง 2064 มีโอกาสเพิ่มขึ้น จากการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 และประเมินลดลงเหลือ 1.8% ในปี 2565 ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภายหลังปรับปรุงกําไรสุทธิปี 2564 – 65 เพิ่มเฉลี่ย 12% อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท (+29% yoy) และ 3.75 หมื่นล้านบาท (+13% yoy)

Switch ... ราคานี้ Risk to Reward อาจไม่คุ้ม

ภายใต้ประมาณการใหม่ อิง GGM เพิ่ม ROE ระยะยาวจาก 8.5% มาที่ 9.2% ได้ PBV ที่ 0.89 เท่ (เดิม 0.8 เท่า) ให้ FW ใหม่ปี 2564 ที่ 115 บาท (เดิม 102 บาท) ราคาหุ้น นับตั้งแต่ช่วง 3Q63 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงช่วงก่อนเกิด COVID-19 แล้ว รวมถึง Upside จํากัด ช่วงสั้นทําให้ Risk to Reward อาจยังไม่คุ้ม จึงแนะนํา SWITCH ใน ธ.พ. ขนาดใหญ่เลือก BBL หรือ KBANK (BK:KBANK)

คุณภาพสินทรัพย์ยังน่ากังวล

แม้ในงวด 1964 มีการขายหนี้ NPL ราว 2.5 พันล้านบาท (4063 ที่ 4.3 พันล้านบาท) และ write - of ประมาณ 3.2 พันล้านบาท (งวดก่อนที่ 992 ล้านบาท) อย่างไรก็ดีในงวด นี้ NPL Formation ประมาณ 1.46 หมื่นล้านบาท (4063 ที่ 2 หมื่นล้านบาท) โดยเห็นการ เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่างวดก่อนของ NPL Formation ในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยจากสินเชื่อ บ้านและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ และการจัดชั้นเชิงคุณภาพ ทํา ให้สินเชื่อที่ถูกจัดชั้นเป็น NPL (Stage 3) เพิ่ม 3% QoQ มาที่ 1.04 แสนล้านบาท ตรงข้าม กับสินเชื่อที่ถูกจัดชั้นเป็น Stage 2 ลดลง 2% QoQ ส่วนใหญ่คาดเป็นเพราะการไหลตก ชั้นเป็น Stage 3 พิจารณาจากสินเชื่อที่ถูกจัดชั้นเป็น Stage 1 ยังลดลง 0.1% QoQ (แม้ สินเชื่อปล่อยใหม่ขยายตัว 1% QoQ) ทั้งนี้ NPL Ratio (ตาม MD&A) เพิ่มขึ้นเป็น 3.79% จาก 3.68% ณ สิ้นงวดก่อน เทียบกับเป้าหมาย NPL Ratio ทั้งปีของธนาคารฯ ที่กําหนดไว้ ไม่เกิน 4% - 4.5%

ขณะที่การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ธ.พ. มีมุมมองเกี่ยวกับการควบคุมการระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 มีโอกาสใช้เวลาประมาณ 2.5 เดือนในการควบคุมการระบาด ประเมินกระทบ GDP ไทยราว 1.4 – 3.3 แสนล้านบาท (0.9% - 2% ของ GDP ไทย) ทํา ให้ฝ่ายวิจัยมองคุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะลูกหนี้เข้าร่วม มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารฯ ณ สิ้นงวด 1964 อยู่ที่ประมาณ 4.3 แสนล้าน บาท (199% ของพอร์ตสินเชื่อ) เพิ่มเล็กน้อยจาก 4 แสนล้านบาท (18% ของพอร์ตสินเชื่อ) ณ สิ้นงวดก่อน (สิ้นงวด 2063 อยู่ที่ 8.4 แสนล้านบาท) จากสินเชื่อรายย่อย โดยงวด 1964 ลูกหนี้ที่ออกจากมาตรการช่วยเหลือสามารถกลับมาชําระหนี้ตามปกติได้ ประมาณ 90% อย่างไรก็ดีสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในไทย และการเปิด ประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ขึ้นอยู่กับ Herd Immunity เป็นสําคัญ มีความไม่ แน่นอนสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อรายได้ของลูกหนี้ ทั้งรายย่อยและ SME ภาพรวมฝ่ายวิจัยจึง ยังคงสมมติฐาน Credit Cost ปี 2564 ที่ 29% จาก 2.14% ในปี 2563

อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย