ปลดล็อคข้อมูลพรีเมียม: ส่วนลดสูงสุดถึง 50% InvestingProรับส่วนลด

สรุปธีมและกลยุทธ์เดือนเมษายน: เงินเฟ้อมา อาจพาหุ้นซิ่ง

เผยแพร่ 02/04/2564 08:40
อัพเดท 09/07/2566 17:32
US10YT=X
-
SETI
-
SSEC
-

Economic & Markets Outlook

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตลาดการเงินยังคงเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักก็คือ การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ ผู้เล่นในตลาดต่างเทขาย สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะ หุ้นเติบโต (Growth Stock) และ หุ้นเทคฯ เกิดเป็นภาพ Style & Sector Rotation อย่างเห็นได้ชัด (หุ้น Value ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่า หุ้น Growth & Tech.) ขณะที่ในฝั่งจีน แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่ง แต่ก็กลับเป็นดาบสองคม ที่ทำให้ตลาดหันมากังวลว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจลดการอัดฉีดสภาพคล่องลงหรือขึ้นดอกเบี้ยได้ในปีนี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาด (ซึ่งส่วนมากเป็นรายย่อย) จึงเลือกที่จะขายทำกำไรหุ้นจีนออกมา กดดันให้ ตลาดหุ้นจีน underperform ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นก็ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด เพราะ Style & Sector Rotation ได้หนุนให้ฟันด์โฟลว์กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นที่โครงสร้างมีธุรกิจ Cylical เยอะ (อาทิ กลุ่มการเงิน พลังงาน อุตสาหกรรม) หนุนให้ ตลาดหุ้นไทย ญี่ปุ่น สามารถปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น ส่วน ตลาดหุ้นยุโรป แม้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะดูไม่สดใส จากการระบาดระลอกใหม่ แต่ก็ได้แรงหนุนจากเงินยูโรที่อ่อนค่าหนัก ช่วยดันผลกำไรของบริษัทยุโรปที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อม ส่งผลให้เกิดแรงเทขายตราสารหนี้ ซึ่งเรามองว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวยังคงสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ทำให้ การถือบอนด์ระยะยาวอาจกดดันผลตอบแทนพอร์ต ขณะที่ ตราสารหนี้ภาคเอกชน (Credit) ยังมีความน่าสนใจ เพราะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะช่วยลดความกังวลปัญหาผิดนัดชำระหนี้ ขณะเดียวกัน ยีลด์ตราสารหนี้ ก็ยังพอรับได้อยู่

ทั้งนี้ แม้ว่ายีลด์จะปรับตัวขึ้น แต่ความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ก็ได้หนุนให้ REITs ไทย สามารถปรับตัวขึ้น ไล่ตาม REITs ทั่วโลก ซึ่งหากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น REITs ณ ปัจจุบัน ที่ให้ยีลด์ระดับ 4-5% และราคาก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวแรงเท่ากับหุ้น ก็สามารถเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์และเงินดอลลาร์ ได้กลายเป็นฝันร้ายของราคาทองคำ กดดันให้ ราคาทองคำยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับไป 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเรามองว่า โอกาสที่จะเห็นราคาทองคำกลับไประดับราคาดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ยากมากเช่นกัน ภายใต้สภาวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นและเงินเฟ้อก็อาจจะเร่งตัวขึ้นแค่ระยะสั้น (ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ดี หากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเทรนด์ขาขึ้นที่รุนแรง)

และแม้ว่า เดือนมีนาคมจะเป็นเดือนที่ตลาดการเงินผันผวนหนัก แต่สำหรับ นักลงทุนผู้กล้าเปิดรับความเสี่ยงเต็มที่ ตลาดก็ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น หลังจากที่กระแส DeFi (Decentralized Finance) ได้หนุนให้ Crypto Currency กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกของบรรดานักลงทุนสถาบัน ทำให้ ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นไปกว่า 29%


Figure1: ผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลก ในเดือนที่ผ่านมา

Figure1: ผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลก ในเดือนที่ผ่านมา


Figure2: ผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั่วโลก ในเดือนที่ผ่านมา

Figure2: ผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั่วโลก ในเดือนที่ผ่านมาFigure3: ผลตอบแทนของตราสารทางเลือกและค่าเงินหลัก ในเดือนที่ผ่านมา
Figure3: ผลตอบแทนของตราสารทางเลือกและค่าเงินหลัก ในเดือนที่ผ่านมา

สำหรับในเดือนเมษายน เราเชื่อว่า ปัจจัยเสี่ยงได้ถูกรับรู้ไปมากแล้ว และราคาสินทรัพย์เสี่ยง ณ ปัจจุบัน ก็อยู่ในระดับที่ เราเชื่อว่านักลงทุนสามารถทยอยเข้าซื้อได้ แต่นักลงทุนอาจจะต้องระมัดระวังในการเลือกสินทรัพย์เข้าลงทุน เพราะ Style & Sector Rotation ยังไม่จบลงเร็วๆนี้ ทำให้ หุ้นในกลุ่มเทคฯ และหุ้นเติบโต ยังมีโอกาสเสี่ยงปรับฐานต่อ หากบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนไม่ควรกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นมากนัก เพราะ จากสถิติในอดีต พบว่า หุ้นสามารถให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นในอีก 12เดือนข้างหน้า ในช่วงที่ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและทยอยปรับตัวสูงขึ้น (Below Average & Rising Inflation) นอกจากนี้ เราเชื่อว่า การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อในครั้งนี้ จะไม่ได้สร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลาง โดยเฉพาะ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะรีบกลับมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่วัดจากการจ้างงาน ยังไม่ได้ฟื้นตัวแข็งแกร่งตามเป้าของเฟด

Figure4: ผลตอบแทนของตราสารทางเลือกและค่าเงินหลัก ในเดือนที่ผ่านมา

Figure4: ผลตอบแทนของตราสารทางเลือกและค่าเงินหลัก ในเดือนที่ผ่านมา

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน ที่เหมาะสมคือ รอจังหวะทยอยเพิ่มสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่พอร์ตการลงทุน (Buy on Dip ) โดยเรามองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง มีโอกาสที่จะหนุนให้ หุ้นสหรัฐฯ สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี โดยนักลงทุนอาจต้องเลือกเน้นหุ้นในกลุ่ม Cyclical Value มากกว่า หุ้นเติบโตหรือหุ้นเทคฯ ในระยะสั้น เพื่อหลบความเสี่ยงในกรณีที่ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดโซนเอเชียก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะเป็นมีสัดส่วนหุ้นในกลุ่ม Cyclical พอสมควรและภาพรวมเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น

ขณะเดียวกัน นักลงทุนอาจกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในกลยุทธ์ Global Macro trading ที่สามารถหาโอกาสการลงทุนได้จากสภาวะเศรษฐกิจหรือตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลง (Global Macro Trades)

Risk Factors to keep eyes on

ปัจจัยความเสี่ยงที่ควรติดตามในเดือนเมษายน ยังคงเป็นประเด็นเงินเฟ้อ ที่เราคาดว่าจะมีการเร่งตัวขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงไตรมาสที่ 2 จากแรงหนุนด้านราคาสินค้าพลังงานที่ปรับตัวสูงมากจากปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน การจับจ่ายใช้สอยภาคครัวเรือน โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐฯ ก็มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown จึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่า ตลาดการเงินจะตอบรับกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจริงอย่างไร เพราะหากบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตามเงินเฟ้อ ตลาดก็อาจเลือกเทขายสินทรัพย์เสี่ยง อย่าง หุ้นกลุ่มเทคฯ หรือ หุ้นเติบโต ต่อได้

นอกจากนี้ อีกปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะมองข้ามไม่ได้ คือ การระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ที่อาจกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก หากการใช้มาตรการ Lockdown เพิ่มเติมยังไม่สามารถคุมการระบาดได้ หรือ การแจกจ่ายวัคซีนยังไม่สามารถเร่งตัวขึ้นจากปัจจุบันได้



Figure5: มุมมองต่อการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ สำหรับระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี

Figure5: มุมมองต่อการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ สำหรับระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี



ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย