👁 ค้นพบหุ้นชนะตลาดเหมือนกับนักลงทุนมือโปรด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก AI มหกรรมลดราคา Cyber Monday จะหมดเขตเร็ว ๆ นี้!รับส่วนลด

ดราม่าตะวันตกแบนแรงงานจากซินเจียงส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าจากฝ้าย

เผยแพร่ 26/03/2564 17:58
CT
-
NKE
-
WB
-
ADDYY
-
HNNMY
-

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตระกูลจากฝ้ายกำลังมีราคาลดลงมากที่สุดในรอบเดือนนับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิดและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน การปรับตัวลดลงครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อแบรนด์สินค้าชื่อดังอย่างไนกี้ (NYSE:NKE) และเอชแอนด์เอ็ม (OTC:HNNMY) ที่ก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์กว่าปี 2021 จะเป็นปีที่มียอดจากการส่งออกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012

ราคาซื้อขายคอตตอนล่วงหน้าที่นิวยอร์กล่าสุดยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากต้นเดือนมาจนถึงปัจจุบันพบว่าราคาซื้อขายได้ปรับตัวลงมาแล้วทั้งสิ้น 12% นับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบหนึ่งปีนับตั้งแต่วิกฤตโควิดในเดือนมีนาคมปีที่แล้วที่ทำให้ราคาซื้อขายคอตตอนล่วงหน้าร่วงลงมา 17%Cotton Daily

จากการเปิดเผยข้อมูลของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่าการซื้อขายฝ้ายทั่วโลกในปีนี้จะมีปริมาณอยู่ที่ 44.5 ล้านมัดสำหรับปีการเพาะปลูกปี 2020/21 ซึ่งสูงกว่าระดับ 2019/20 เกือบ 8% และสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012/13

การส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการการโม่ฝ้ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาด ส่งผลให้การบริโภคทุกอย่างเพิ่มขึ้นตั้งแต่สิ่งทอไปจนถึงผลิตภัณฑ์อาบน้ำ อาหารสัตว์ ปุ๋ย พลาสติก กระดาษ และกระดาษแข็ง

ดราม่าแบนการซื้อสินค้าจากฝั่งตะวันตกทำให้ขาขึ้นของคอตตอนตลอด 10 เดือนต้องชะงัก

นับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2020 มาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ราคาซื้อขายคอตตอน (ฝ้าย) ล่วงหน้าได้ปรับตัวขึ้นมาตลอดอย่างไม่มีสะดุด คิดเป็นระยะทางขาขึ้นทั้งหมด 55% จากราคา 17 เซนต์ต่อปอนด์ขึ้นมาเป็น 57 เซนต์ต่อปอนด์

แต่ก็ดูเหมือนว่าประธานธิบดีโจ ไบเดนต้องการจะสานต่อสงครามการค้ากับจีน เมื่อเขาเริ่มเปิดฉากกล่าวหาจีนเกี่ยวกับการใช้แรงงานชาวอุยกูร์ที่อาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนในเขตซินเจียง แน่นอนว่าทางจีนย่อมไม่ยอมรับข้อกล่าวหานี้และนำไปสู่ดราม่าที่เเบรนด์ต่างๆออกมาคว่ำบาตร แสดงจุดยืน ประกาศเลิกใช้ผ้าฝ้ายจากซินเจียง

อันที่จริงก่อนหน้าที่ทรัมป์จะลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี เขาได้ประกาศขึ้นแบล็คลิสต์บริษัทผ้าฝ้ายจากจีนมากถึง 87% ที่มีฐานการผลิตอยู่ในมณฑลซินเจียง แต่แทนที่โจ ไบเดนจะกลับมาคุยประเด็นนี้ใหม่กับจีน เขาตัดสินใจดำเนินการกล่าวหาจีนต่อและเป็นสาเหตุของการเกิดดราม่าในประเทศจีนอยู่ ณ ขณะนี้ ส่งผลให้ราคาสินค้าคอตตอนล่วงหน้าปรับตัวลดลงเกือบ 3.5% ตลอดทั้งสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคมและอีก 8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของสหรัฐฯ ก็โดนลูกหลงจากดราม่านี้ไปด้วย

ความขัดแย้งนี้นำกระแสเชิงลบมาสู่แบรนด์เสื้อผ้าตะวันตกอย่างเช่นไนกี้ (NIKE) หรือเอชแอนด์เอ็ม (H&M) เมื่อวานนี้ทันที เมื่อทางแบรนด์ประกาศไม่สนับสนุนการใช้แรงงานชาวอุยกูร์ ดารานักแสดงชื่อดังของจีนหลายคน เช่น ตี๋ลี่เร่อปา หยางมี่ เติ้งหลุน หวังอี้ป๋อ ฯลฯ ก็ประกาศยุติการทำงานร่วมกับทางเเบรนด์ที่แสดงจุดยืนเลิกใช้ผ้าฝ้ายจากซินเจียง 

อย่างไรก็ตามแบรนด์ชื่อดังทั้งสองก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้แตกต่างกันออกไป ไนกี้โหมไฟดราม่าให้แรงขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขากล่าวแสดงความเป็นกังวลต่อการใช้แรงงานในซินเจียง ในขณะที่แบรนด์เอชแอนด์เอ็มพยายามเซฟตัวเองด้วยการกล่าวอย่างเป็นกลางว่าพวกเขาต้องการที่จะลงทุนทำธุรกิจในประเทศจีนในระยะยาวโดยไม่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับดราม่าทางการเมืองใดๆ ทั้งนั้น

นอกจากไนกี้และเอชแอนด์เอ็มแล้ว ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างเช่นแบรนด์อาดิดาส (OTC:ADDYY) ของเยอรมันและแบรนด์ทอมมี ฮิลฟิเกอร์ แฮชแทค #ISupportXJCotton (XJ = ซินเจียง) ได้รับความนิยมเป็นอย่างบนเว่ยป๋อ (Weibo) (NASDAQ:WB) พันทิพย์ของประเทศจีน ล่าสุดมีคนกดไลก์แฮชแทคนี้มากกว่า 2 ล้านคนแล้ว

แม้จะเผชิญกับดราม่า ขาขึ้นของคอตตอนก็ยังคงสดใสอยู่

แม้จะไม่มีใครรู้ว่าดราม่านี้จะกินระยะเวลานานเท่าไหร่ แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทสินค้าเกษตรแล้วพวกเขามองว่าดราม่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อวงการทั้งหมดขนาดนั้น ตราบใดที่ดราม่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่บราซิลซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตคอตตอนมากที่สุดในโลก ราคาคอตตอนในปีนี้ก็ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกจากกระแสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก

แจ็ค สโควิลล์ หัวนักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group ที่ชิคาโกวิเคราะห์ว่า 

“ความต้องการในตลาดส่งออกสินค้าจากฝ้ายยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าวิกฤตโควิดในตอนนี้จะยังไม่จบก็ตามเนื่องจาก USDA ได้ปรับลดความสามารถการผลิตของบราซิลเพราะพื้นที่เพาะปลูกในปีนี้ลดลง นอกจากนี้การฟื้นตัวในตลาดหุ้นสหรัฐก็มีส่วนที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน”

การวิเคราะห์ของแจ็คสอดคล้องกับรายงานจาก USDA ก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าผู้นำการส่งออกคอตตอนจะยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา 35% และบราซิล 22% ขณะเดียวกันการใช้โรงงานฝ้ายทั่วโลกในปี 2020/21 คาดว่าจะอยู่ที่ 117.5 ล้านเบลล์ซึ่งสูงกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปีของฤดูกาลส่งออกปี 2019/20 ที่ 14.5 เปอร์เซ็นต์

ในทางกลับกันการผลิตฝ้ายของโลกในปี 2020/21 ซึ่งนำโดยจีนและอินเดียคาดว่าจะอยู่ที่ 113.3 ล้านเบลล์ต่ำกว่าปี 2019/20 7% และเป็นการผลิตที่น้อยที่สุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามสินค้าคอตตอนคงคลังในปี 2020/21 คาดว่าจะลดลง จากการประเมินของ USDA ระบุว่าสต็อกฝ้ายของโลกในปี 2020/21 คาดว่าจะอยู่ที่ 94.6 ล้านก้อนซึ่งลดลง 4% เมื่อปริมาณของสต็อกฝ้ายลดลง ย่อมหมายความว่าราคาซื้อของสินค้าจากฝ้ายย่อมจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย