🌎 มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับนักลงทุนกว่า 150K คนจาก 35 ประเทศ ที่เลือกหุ้นที่ชนะตลาดที่คัดสรรด้วยเทคโนโลยี AIปลดล็อกเลย

หุ้นกลุ่มพลังงานจะรักษาความเป็นผู้นำในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้หรือไม่

เผยแพร่ 25/03/2564 17:55
XLE
-
XLF
-
XLP
-
XLU
-

จากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของกองทุนหุ้น ETF ด้านพลังงานมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (23 มีนาคม) พบว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานยังคงเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าการฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดจนถึงปัจจุบันจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวแรงที่สุดในปี 2021 แต่ก็เริ่มมีสัญญาณแล้วว่าหุ้นกลุ่มอื่นที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังค่อยๆ ปรับตัวกลับขึ้นมาแล้วด้วยเช่นกัน 

อย่างไรก็ตามเมื่อนำกองทุนที่เป็นตัวชี้วัดของหุ้นแต่ละกลุ่มมาเปรียบเทียบกันจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีการฟื้นตัวมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ จากราคาปิดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาพบว่ากองทุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน (NYSE:XLE) ปรับตัวขึ้นมา 27.5% จากช่วงเริ่มต้นปี 2021 ถึงวันอังคาร ในขณะที่กองทุน SPDR ของหุ้นการเงิน (NYSE:XLF) ปรับตัวขึ้นมาได้เพียง 4.5% เท่านั้นเมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันUS Equity Sectors - ETF Performance Chart

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการกลับมาของหุ้นเทคโนโลยีเชื่อว่าคุณผู้อ่านคงจะเดาได้ไม่ยาก...ความเชื่อและความคาดหวังว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้กลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แล้วเศรษฐกิจขนาดเล็กหล่ะ มีส่วนช่วยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยหรือไม่?

ไมเคิล อาโรน หัวหน้านักวางกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน State Street Global Advisors กล่าวว่า:

“ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ตอนนี้เพราะอุปสงค์ที่มีมากกว่าอุปทาน เรายังต้องจับตาการเติบโตนี้ต่อไปจนกว่าจะได้เห็นวันที่ตลาดแสดงมูลค่าที่แท้จริงออกมา”

ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจระดับจุลภาคนั้นไม่มีความสอดคล้องกับตัวเลขในระดับมหภาค เราพบว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้หลักๆ อย่างดัชนีวัฎจักรทางธุรกิจ ADS โดยธนาคารกลางฟิลาเดเฟียที่สะท้อนให้เห็นถึงการส่งออกของอเมริกานั้นหดตัว แม้จะมีคนกล่าวว่านี่เป็นเพียงความผันผวนในระยะสั้นซึ่งไม่ได้กระทบกับภาพใหญ่อะไร แต่ตัวเลขล่าสุดที่ออกมาลดลงก็แสดงให้เห็นความคาดหวังที่มีต่อการฟื้นตัวลดลงด้วยADS Index

รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจรายเดือนอย่างดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากเฟดชิคาโก (CFNAI) ในเดือนกุมภาพันธ์ก็ปรับตัวลดลงเช่นกันและเป็นครั้งแรกที่ดัชนีฯ นี้ปรับตัวลดลงไปจนติดลบนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดChicago Fed National Acitivity Index

แม้ว่าข้อมูลทั้งสองตัวเลขจะชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจชั่วคราว นักวิเคราะห์บางส่วนที่เชื่อในพลังบวกก็มองว่าตราบใดที่สหรัฐอเมริกายังสามารถกระจายวัคซีนต้านโควิดได้อย่างต่อเนื่อง ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมานับจากนี้ก็จะเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 

เมื่อหันมาพิจารณากราฟยอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิดที่วัดถึงวันที่ 23 มีนาคมจะพบว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้วิ่งลงมาต่ำกว่าระดับผู้เสียชีวิตวันละ 1,000 คนต่อวันเป็นวันที่สองติดต่อกันแล้ว นับเป็นจุดต่ำสุดในรอบสี่เดือนของกราฟนี้เลยทีเดียวUS Covid-19 Deaths - Daily Change

ถึงดัชนี CFNAI จะปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้ แต่ข้อมูลคาดการณ์ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 ยังคงเป็นบวก ยกตัวอย่างเช่นการประเมินตัวเลข GDP โดย GDPnow model ของเฟดแอตแลนตาคาดการณ์ว่าตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ของการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.7% เทียบกับตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 ที่ปรับตัวขึ้นมา 4.1%

นอกจากนี้ผลประเมินดังกล่าวยังระบุด้วยว่าหุ้นในกลุ่มที่เคยฟื้นตัวตามหลังเพื่อนกลุ่มอื่นๆ อาจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาจนแซงหุ้นบางกลุ่มได้ ยกตัวอย่างเช่นหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งอ้างอิงจากกองทุน Utilities Select Sector SPDR (NYSE:XLU) และกลุ่มสินค้าจำเป็นโดยอ้างอิงจากกองทุน Consumer Staples Select Sector SPDR (NYSE:XLP) เป็นสองกลุ่มที่ถูกระบุว่ากลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นในเดือนนี้ หากเทียบเฉพาะเดือนนี้แล้วสองกลุ่มนี้ถือว่าทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มการเงินเสียอีกXLU Daily Chart

กลับมาสู่คำถามของบทความนี้ สรุปแล้วหุ้นกลุ่มพลังงานกำลังจะเสียความเป็นผู้นำให้หุ้นกลุ่มอื่นไปใช่หรือไม่? คำตอบข้อนี้คงไม่มีใครกล้าฟันธง แต่ถ้าข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์  หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคและสินค้าจำเป็นจะได้รับอานิสงส์มากกว่าหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย