ปัจจัยในประเทศ
- ท่าอากาศยานไทย จำกัด (BK:AOT) การก่อสร้างทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ ส่วนต่อขยายอาคาร East & West Expansion และ อาคารผู้โดยสารต้านทิศเหนือ (North Expansion) ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถของ สนามบินสุวรรณภูมิเป็น 120 ล้านคนปีวงเงินลงทุนประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่ง ทอท.มีความพร้อมในเรื่องเงินลงทุน นายศักติสยาม กล่าวว่า ในหลักการ ต้องเร่งขยาย สนามบินสุวรรณภูมีเนื่องจากขณะนี้มีการก่อสร้างรันเวย์เส้นที่ 3 ซึ่งจะทําให้ขตการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 80 ล้านคนปี ขณะที่อาคารผู้โดยสารหลักรวมกับอาคารเทียบ เครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) มีแค่ 60 ล้านคนปี หากขยายอาคารต้านตะวันออกและด้านตะวันตกที่รองรับได้ด้านละ 15 ล้านคนปีจะรวมเป็น 90 ล้านคนปี ซึ่งการให้บริการที่ผู้โดยสารได้รับความสะดวก จึงเห็นว่าควรสร้าง North Expansion รับอีก 30 ล้านคนปี เพิ่มการรองรับรวมสูงสุดไปอยู่ที่ 120 ล้านคนปี
- กนง.ในการประชุมวันที่ 24 มีนาคม 2554 มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยให้มีผลทันที และรักษาขีดความสามารถในการดําเนินนโยบายที่มี จํากัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่เผชิญกับความเสี่ยงด้านต่ําและความไม่ แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ําอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 64 และ 65 มาที่ 3.0% และ 4.7% ตามลําดับ โดยเป็นการขยายตัวต่ํากว่าประมาณการเติมจากการปรับลดคาดการณ์จํานวนนักท่องเที่ยวและผลกระทบจากการระบาดของ โควิต-19 ระลอกใหม่ แต่ได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่พื้นตัวเร็วตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า
- บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่าตามที่มีข่าวว่านายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ แสดงความสนใจซื้อหุ้นของ บมจ. เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (TUP) นั้น บริษัทชี้แจงว่านายสารัชถ์ ไม่มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนใน 7UP หรือบริษัทอื่นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค รวมทั้ง GULF ไม่มี ความประสงค์ที่จะเข้าไปลงทุนในบริษัทดังกล่าวเช่นกัน
- PTG เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯได้ประกาศความพร้อมในการทําธุรกิจกัญชา พร้อมเร่งศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่ใช้ใบกัญชาเป็นส่วนผสม เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ล่าสุดได้เปิดเมนูเครื่องดื่มและอาหารใหม่ที่มีส่วนผสมของใบกัญชาที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยและคอฟฟี่ เวิลด์ เฟสแรก จะเริ่มนําเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่ผสมใบกัญชาจําหน่ายในจังหวัดกรุงเทพฯก่อน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 6 สาขา ได้แก่ สาขาวิภาวดี ศาลอาญา, บางกะปิ3, หลวงแพ่ง, ถนนจันทน์ (จําหน่ายเฉพาะเมนูเครื่องดื่ม) และอาคาร CW ชั้น 2 (Restaurant) เมนูที่เครื่องดื่มผสมกัญชา ประกอบด้วย อเมริกัญโน่, กัญชาไทย และกัญโซตา เยลลี่ จําหน่ายในราคาแก้วละ 99-109 บาท เมนูอาหารผสมกัญชา ได้แก่ ข้าวกระเพราต่างๆ เบคอน-หมูย่าง-ไก่กรอบ ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่ 11g-179 บาท และยังมีเมนูทานเล่น เช่น กัญชาขุนแป้งทอด ราคา 59 บาท และ เมนูพิเศษ อย่าง เดี๋ยวเรือร่าเริง จําหน่ายสาขาแรกที่สถานีน้ํามัน PT หนองแขม ในวันที่ 1 เม.ย.64ร้าน คอฟฟี่ เวิลต์ 4 สาขา ได้แก่ สาขาสยามพารากอน, เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้นB และเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว โดยเมนูเครื่องดื่ม ประกอบด้วย อเมริกาโนวอนใบกัญชา, ชาใบกัญชา, โคสต์บริวใบกัญชา และโฮจิฉะคาราเมลลาเต้ ใบกัญชา ราคาเริ่มต้นที่ 119-179 บาท ส่วนเมนูอาหาร คือ อกไก่ศรัฟเฟิลใบกัญชา ชีสติป ราคา 199-219 บาท
- นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากที่ได้วัคซีนโควิด-19 จํานวน 800,000 โคสจากซิโนแวก ก็จะกระจายไปยังจังหวัดที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น ภูเก็ต เกาะส มุยมากเป็นพิเศษ เพื่อฟื้นลมหายใจธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนคําว่าเปิดประเทศจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นต้องดูที่ความเหมาะสมหลายปัจจัย เช่น จํานวนผู้ได้รับวัคซีน จํานวนผู้ป่วย และ ศักยภาพในการรักษา เป็นต้นสําหรับการเจรจาประเทศจับคู่ Travel Bubble นั้น นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เริ่มเจรจากับสถานทูตหลายประเทศ เมื่อดําเนินการจริงจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละประเทศ
- กรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก (VSPP) โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนําร่อง) ปี 2554 ปริมาณการรับซื้อ 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ (พืช พลังงาน ผสมน้ําเสีย/ของเสีย น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%) 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ โดยมีกําหนดการรับซื้อไฟฟ้า ดังนี้ ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่าย จําหน่ายจะแจ้งให้ผู้ผ่านการคัดเลือกทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) (ภายใน 7 วัน นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ) ในวันที่ 22 ก.ค.2564 จากนั้นจะลงนาม PPA (ภายใน 120 วัน นับจากประกาศชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก)ภายในวันที่ 12 พ.ย. 2554 โดยมีกําหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 12 พ.ย. 2557
Source: VOATHAI, อินโฟเควสท์, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, yt9, Bisnews
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th