ปัจจัยต่างประเทศ
- ดาวโจนส์ปิดลบ 3.09 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนโลยี ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่ม เทคโนโลยีที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่ประเทศยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 โดยปัจจับลบดังกล่าวได้บดบังแรงบวกจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,420.06 จุด ลดลง 3.09 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,889.14 จุด ลดลง 21.38 จุด หรือ -0.55% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,961.89 จุด ลดลง 265.81 จุด หรือ - 2.01%
- ก.ล.ต.สหรัฐเริ่มใช้มาตรการเปิดช่องถอดบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือก.ล.ต.สหรัฐ ได้เริ่มใช้มาตรการตามกฎหมายใหม่ที่อาจจะถอดหุ้นของบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว หากบริษัทเหล่านี้ไม่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานการตรวจสอบบัญชีของสหรัฐ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลง นามในกฎหมาย Holding Foreign Companies Accountable Act ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่พุ่งเป้าถอดหลักทรัพย์ของบริษัทต่างๆ ออกจากตลาด สหรัฐ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการตรวจสอบบัญชี Public Accounting Oversight Board (PCAOB) ของสหรัฐภายในระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ แม้ กฎหมายดังกล่าวมีการบังคับใช้กับบริษัทต่างชาติทั้งหมดที่จดทะเบียนในสหรัฐ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการพุ่งเป้าไปยังบริษัทของจีนโดยเฉพาะ ซึ่ง นับเป็นความพยายามอีกครั้งของอดีตปธน.ทรัมป์ที่จะเพิ่มความตึงเครียดกับจีน ก่อนที่เขาจะอําลาตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
- ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการเบื้องต้นสหรัฐขยับลงเล็กน้อย ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 59.1 ในเดือนมี.ค. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 59.5 ในเดือนก.พ. ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว โดยได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมในภาคบริการ ส่วนในแง่ของยอดการ ผลิตนั้นขยายตัวได้ไม่มากนักเพราะมีปัญหาด้านซัพพลาย
- สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ลดลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.1% ในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน พื้นฐาน ซึ่งเป็นคําสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.8% ในเดือน ก.พ. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน ม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
- เนเธอร์แลนด์ขยายเวลาล็อกดาวน์ หลังผู้ติดเชื้อโควิดยังเพิ่มต่อเนื่อง สํานักข่าวซินหัวรายงานว่า นายมาร์ค รุตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลจะขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันที่ 20 เม.ย. หลังจากที่ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ต้องรับการรักษาตัวใน โรงพยาบาลเพิ่มขึ้น นายรุตเตอกล่าวว่า “จํานวนผู้ติดเชื้อโควิต-19 ที่รักษาตัวอยู่ในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเสี่ยงจะเกิดการแพร่ ระบาดรอบ 3 จึงต้องขยายเวลาบังคับใช้มาตรการที่มีอยู่ต่อไป"
Source: VOATHAI, อินโฟเควสท์, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, ryt9, Bisnews