Fed ไม่ต่อโครงการ SLRกระทบตลาดหุ้นโลกช่วงสั้น
2 ปัจจัยต่างประเทศสําคัญที่เกิดขึ้นในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คือ
-
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศสิ้นเดือนนี้ วันที่ 31 มี.ค. 64 จะไม่ต่ออายุ โครงการผ่อนคลายเงินทุนธนาคารพาณิชย์ คือ ยกเลิก “ยกเว้น" กฎกันเงินทุน ตามอัตราส่วน “Supplementary Leverage Ratio" (SLR) ทั้งนี้ เกณฑ์ SLR เป็น เกณฑ์ที่บังคับใช้กับสถาบันการเงินที่มีสินทรัพย์รวมตั้งแต่ 2.5 แสนล้านเหรียญ สหรัฐฯ ให้ดํารง SLR ขั้นต่ํา 3% และหากเป็นสถาบันการเงินที่มีความสําคัญต่อ ระบบการเงินโลก (G-SIBs) ต้องมี SLR ขั้นต่ํา 56 ผลที่เกิดขึ้น : คือ เห็นได้จากวันศุกร์ หุ้นธนาคาพาณิชย์(ธ.พ.ในสหรัฐ คือ JP Morgan, Bank of America, Citigroup ปรับตัวลงเฉลี่ย 16 ระหว่างวันปรับฐาน แรงราว 2-4% และปีตตลาด JP Morgan -1.6% และ Dollar Index แข็งค่า 0.2% และ 1.349%mtd ล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่ 92.1 จุด ทําให้เงินบาทแกว่งตัวอ่อนค่า ล่าสุด อยู่ที่ 30.9 บาท กดดันให้ Fund Flow ไหลเข้าไทยช่วงสั้น อย่างไรก็ตาม ASPS ประเมินว่าในระยะถัดไปจะส่งผลให้ Bond yield ระยะยาว ปรับตัวขึ้น รวมถึงพันธบัตรรัฐบาลไทย โดยทิศทาง Bond yield ที่ปรับตัวขึ้น (มูลค่าพันธบัตรลดลง) เป็นแรงกดดันมูลค่าพอร์ตลงทุนของธนาคารฯ ที่ลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชน ทั้งในส่วนที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบ กําไรขาดทุน (FWTPL) และวัดผ่านส่วนของผู้ถือหุ้น (OCI) โดยเฉพาะกลุ่ม ธ.พ. ขนาดใหญ่ ที่มีการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินด้วยการ ลงทุนในตราสารหนี้ อย่างไรก็ดีหากพิจารณารายการ FWTPL ของ KBANK (BK:KBANK), BBL และ SCB ปี 2563 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท, 1.1 หมื่นล้านบาท และ 7.66 พันล้านบาท พบว่าน้ําหนักหลักมาจากธุรกรรมด้านอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่า เงินลงทุน โดยในปี 2563 KBANK และ BBL มีรายการจากกําไร (ขาดทุน) จาก การ Trading ในตราสารหนี้ 59 ล้านบาทและ 109 ล้านบาท ตามลําดับ ซึ่งการ ลงทุนในตราสารหนี้ที่บันทึกผ่าน FWTPL ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนระยะสั้น แม้ อาจเห็นแรงกดดันรายไตรมาส แต่โดยปกติธนาคารมีการบริหารความเสี่ยงและ ภายหลัง Bond yield ปรับตัวจนถึงจุดที่สมดุลระหว่าง yield กับแนวโน้มอัตรา เงินเฟ้อ ทําให้ ธ.พ. บริหารจัดการในส่วนนี้คล่องตัวขึ้น
-
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ อาทิ ราคาน้ํามันดิบ, ยาง ฯลฯ เมื่อวันศุกร์ 19 มี.ค. 54 ปรับลงต่อเนื่องตลอดทั้งอาทิตย์ หลักๆ ถูกกดดันจาก 1.) Dollar Index ที่แข็งค่า 2.) การกลับมา Lockdown ในบางประเทศยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส ฯลฯ กลับมา Partial Lockdown ประเทศเป็นเวลา 1 เดือน แต่ยกเว้นราคาถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองที่กลับมาบวกแรง (ดังรูปด้านล่าง) เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) รายงานว่าจีนสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ถือ เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้น TNO(FVR37.0)
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities