Fed Funds Target Range
Actual: 0.00-0.25% Previous: 0.00-0.25%
KTBGM: 0.00-0.25% Consensus: 0.00-0.25%
-
คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ ให้ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% โดยมองภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานสหรัฐฯดีขึ้น แต่ทว่าความเปราะบางของการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤติ ทั้งนี้ เฟดจะยังคงอัดฉีดสภาพคล่องในอัตราเดิมต่อ
-
เราคงมุมมองว่า FFTR จะอยู่ที่ระดับ 0.00-0.25% ไปอีก 2 ปี เป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ อาจทำให้ FOMC ส่งสัญญาณลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE Tapering) ในช่วงกลางปี 2022 ทำให้ตลาดการเงินผันผวนได้อีกครั้ง
-
Next FOMC Decision: April 29 2021 (1 AM BKK)
คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ ให้ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%
-
FOMC มองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทว่ายังคงเห็นความเปราะบางของการฟื้นตัวในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ สภาวะทางการเงินปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งช่วยหนุนการส่งผ่านสภาพคล่องไปยังภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่มีความต้องการสภาพคล่อง ได้เป็นอย่างดี
-
นอกจากนี้ FOMC จะคงปริมาณการซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน เป็นอย่างน้อย เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดการเงิน จนกว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมายในด้านความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและเป้าหมายด้านอัตราเงินเฟ้อที่ 2%
เราคงมองว่า ดอกเบี้ยเฟดจะคงที่ไปอีกอย่างน้อย 2 ปี แต่ต้องจับตาการประชุมเฟดกลางปี 2022 ที่เฟดอาจเริ่มส่งสัญญาณลดการอัดฉีดสภาพคล่องได้
-
เรามองว่า เฟดจะระมัดระวังการสื่อสารกับตลาดทั้งประเด็นการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง หลังบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยในส่วนของดอกเบี้ยนโยบาย เรามองว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับใกล้ 0% ไปอย่างน้อยจนถึงช่วงปลายปี 2023 สอดคล้องกับ ประมาณการ อัตราการว่างงานที่เข้าสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับปกติของตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เฟดอาจส่งสัญญาณปรับลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE Tapering) ได้ภายในกลางปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้แข็งแกร่งตามที่เฟดคาดการณ์ไว้
-
ระวัง! ความผันผวนของบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ อาจจะยังไม่จบ โดยตลาดจะรอการประกาศต่ออายุการปรับเกณฑ์คำนวณ Supplementary Leverage Ratio (SLR) ที่คาดว่าจะประกาศในสัปดาห์หน้าอย่างเร็วที่สุด เพราะการปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะจบลงในสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งหากไม่มีการต่ออายุการปรับเกณฑ์คำนวณ SLR อาจทำให้ แรงซื้อบอนด์และตราสาร MBS จาก สถาบันการเงินในสหรัฐฯ ลดลง กดดันให้ ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ อาจเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง และสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินได้ในระยะสั้น