ปี 2021 ถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับหุ้นหลายตัวที่เคยเติบโตได้ดีมาตลอดในช่วงวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมา หนึ่งในหุ้นที่เป็นตัวอย่างได้ดีสำหรับเหตุการณ์นี้คือหุ้นของบริษัทผู้ให้บริการเซ็นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ “ด็อกคิวไซน์ (DocuSign)” (NASDAQ:DOCU). ตั้งแต่ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนกันยายน หุ้นด็อกคิวไซน์ก็วิ่งทรงตัวอยู่ในกรอบมาตลอด ในช่วงที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังรุนแรงอยู่ มาตรการคุมเข้มทางสังคมที่ห้ามผู้คนออกบ้านทำให้การเซ็นเอกสารผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เทรนด์การทำงานจากที่บ้าน (work from home) ในปี 2020 ทำให้หุ้นเทคโนโลยีกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของตลาดหุ้นวอลล์ สตรีท นอกจากด็อกคิวไซน์แล้วเชื่อว่านักลงทุนคงคุ้นชื่อหุ้นเทคโนโลยีตัวอื่นๆ ดีอย่างเช่นซูม (NASDAQ:ZM) เทสลา (NASDAQ:TSLA) และโมเดิร์นนา (NASDAQ:MRNA) ถึงปัจจุบันหุ้นด็อกคิวไซน์จะปรับตัวลงมาวิ่งต่ำกว่า $269 หรือคิดเป็นการวิ่งลงมา 20% จากจุดสูงสุดตลอดกาล แต่หุ้นด็อกคิวไซน์ก็ยังถือว่าขึ้นมาไกลจากระดับราคาเดิมในปี 2019 ถึง 192% ล่าสุดหุ้นด็อกคิวไซน์มีราคาปิดอยู่ที่ $213.34 ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 1%
แม้ว่าดูจากพฤติกรรมการวิ่งของราคาหุ้นด็อกคิวไซน์แล้วยังมีพื้นที่ให้ปรับตัวขึ้นได้อีกมาก แต่คำถามสำคัญก็คือบริษัทจะใช้กลยุทธ์ใดมารักษาอัตราการเติบโตของบริษัทหลังจากโลกกลับเข้าสู่สภาวะปกติและไม่มีใครพูดถึงโควิด-19 อีกแล้ว เหตุผลที่ผู้คนยอมจ่ายเงินประมาณ $10 ต่อเดือน (แพ็คเกจระดับบริษัทผู้ประกอบการ) ให้กับบริการด็อกคิวไซน์ก่อนหน้านี้เพราะพวกเขาไม่สามารถออกจากที่อยู่อาศัยไปทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้าโควิดหายไป จะยังเหลือผู้ใช้งานบริการของด็อกคิวไซน์อีกมากน้อยแค่ไหน?
ก้าวต่อไปของโลกการเซ็นเอกสาร
การเซ็นชื่อบนเอกสารในด็อกคิวไซน์นั้นถูกออกแบบมาให้เป็นสัญญาที่สามารถเซ็นครบจบแบบดิจิทัลได้ในที่เดียว เริ่มตั้งแต่การเซ็นลายเซ็นลงบนกระดาษ การรับรองความถูกต้องของสำเนา ไปจนถึงขั้นเสร็จสิ้นกระบวนการ ทั้งสองฝ่ายสามารถตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นได้เพื่อลดความเสี่ยงได้อีกด้วย
แดน สปริงเจอร์ CEO ของด็อกคิวไซน์กล่าวว่าแม้บริษัทจะยังอยู่ในช่วงเริ่มตั้งไข่ แต่พวกเราก็เห็นความเป็นไปได้ที่จะสามารถทำเงินได้มากถึง $50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
“วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ทำให้มนุษยชาติได้ตระหนักแล้วว่าเราสามารถทำงานหรือใช้ชีวิตที่ใดก็ได้บนโลก พิสูจน์ด้วยกำไรของธุรกิจเราที่เติบโตขึ้นเกือบ 50% คิดเป็นเงินเกือบ $1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เราเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้คือตัวชี้ชัดแล้วว่าการบรรลุข้อตกลงผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลนั้นคือเทรนด์ของอนาคต”
ด็อกคิวไซน์ตอกย้ำความสำเร็จนี้ด้วยรายงานผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ 407.96 ล้านเหรียญสหรัฐได้ด้วยผลกำไรรวม 410 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้่นจาก $258 ล้านเหรียญสหรัฐ การปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) ก็เพิ่มขึ้นจาก $0.12 เซนต์ เป็น $0.37 ในปีนี้ด็อกคิวไซน์ตั้งใจจะเพิ่มกำไรให้ได้จากพื้นที่นอกชายฝั่งอเมริกาที่ทำกำไรให้กับบริษัทได้เพียง 21% คิดเป็นเงินกำไร $89 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยสรุปแล้ว
แม้ว่าการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีจะเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปี 2021 และบริษัทด็อกคิวไซน์ยังมีโอกาสเติบโตได้ แต่ขาขึ้นของหุ้นบริษัทคงไม่อาจทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหมือนในปีที่แล้ว เพราะเมื่อผู้คนหันไปใช้ชีวิตตามปกติ ก็คงปฏิเสธได้ยากว่าการใช้บริการของด็อกคิวไซน์จะลดลง
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้นักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่ายังไม่ควรปรับตัวเลขคาดการณ์ราคาเป้าหมายของหุ้นขึ้นและคงเอาไว้ที่ $280 แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เชื่อในเทคโนโลยี หุ้นด็อกคิวไซน์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหุ้นที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต