💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

Janet Yellen ยืนยันค่าเงินสหรัฐไม่เฟ้อแน่ๆ เชื่อ FED คุมอยู่!

เผยแพร่ 15/03/2564 20:14

Janet Yellen ยืนยันค่าเงินสหรัฐไม่เฟ้อแน่ๆ และเชื่อว่าทาง FED ยังคุมได้อยู่ ! แต่นักลงทุนตลาด Bond กลับไม่ได้มองเช่นนั้น และยังคงเทขายพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง...

ในเมื่อสิ่งที่ FED ชี้กับตลาดกำลังไปคนละทิศคนละทาง นักลงทุนทั่วโลกควรเตรียมตัวเช่นไร ?

เมื่อวานนี้ทางเพจเพิ่งลงบทความไปว่า Michael Burry ได้ออกมาเตือนว่า "ฟองสบู่ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังจะแตกในไม่ช้านี้เนื่องจากค่าเงินเฟ้อที่รุนแรง"

นักลงทุนทั่วโลกก็เริ่มกังวลถึงเรื่องนี้กันขึ้นจริงๆ โดยเราสามารถสังเกตุเห็นได้ชัดจากสัญญาณในตลาดพันธบัตรสหรัฐที่ Bond Yield กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเหล่านักลงทุนกำลังเทขายพันธบัตรที่คิดว่ามีผลตอบแทนไม่คุ้มกับค่าเงินเฟ้อ

เพราะผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอย่างระยะ 10 ปีนั้นอยู่ที่เพียง 1.6% เท่านั้น เทียบกับค่าเงินเฟ้อที่ตลาด Bond มองว่าอาจจะสูงถึง 2% ถึง 3%

เมื่อคืนนี้ทาง Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้พยายามออกมาตอบโต้และพยายามยุติความวิตกกังวลของนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้งโดยการกล่าวว่า

"ถ้าถามว่าสหรัฐมีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อไหม? ฉันคิดว่าความเสี่ยงก็พอมีอยู่ แต่ยังน้อยมาก และหากเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นจริง ทางรัฐบาลก็จะสามารถหาทางควบคุมและเชื่อว่ายังเอาอยู่ได้" Janet Yellen กล่าวกับรายการ This Week

ทำไมนักลงทุนถึงกังวลเรื่องเงินเฟ้อสูง ?

เพราะมาตรการฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่ที่กำลังจะอัดฉีดเงินมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเข้ามาในระบบ เพิ่งได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐไปเมื่ออาทิตย์ก่อน

และถึงแม้สภาพเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว (ไตรมาสที่ 2 ปีนี้หลายฝ่ายมองว่าจะโตเกิน 10%) แต่ทาง FED ยังยืนยันที่จะพิมพ์เงินและคงดอกเบี้ยที่ 0% ต่อไป ซึ่งจะเป็นแรงพลักให้ค่าเงินยิ่งเฟ้อหนักขึ้นไปอีก

ทำไม Yellen ถึงมองว่าเงินจะไม่เฟ้อ ?

ทางรัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่าทางรัฐบาลและธนาคารกลางสหรัฐมีการจับตาดูสถานการณ์ค่าเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณใดที่บ่งบอกว่าค่าเงินกำลังจะเฟ้ออย่างรุนแรง

ทางสหรัฐเพิ่งรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นการวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคออกมาในอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็พบว่าดัชนี CPI ดีดตัวขึ้นเพียง 0.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมกราคม ไม่ได้สูงขึ้นอย่างที่ตลาดคาดไว้

(เป็นไปได้ว่าถึงแม้จะมีการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบอย่างมากมาย แต่ตราบใดที่คนยังไม่ได้นำเงินเหล่านี้ไปรุมแย่งซื้อสินค้าหรือสินทรัพย์ ก็จะยังไม่ทำให้เกิดค่าเงินเฟ้อรุนแรง ตอนนี้คนส่วนมากยังคงเพิ่มสัดส่วนในการออมเงินสูงขึ้นอยู่ด้วยซ้ำ)

แล้วทำไมนักลงทุนถึงยังเทขายพันธบัตรระยะยาวออกมาเพราะกลัวเงินเฟ้อ ถ้าทาง FED และรัฐบาลสหรัฐยืนยันเช่นนี้ ?

ต้องบอกว่าตอนนี้มุมมองของนักลงทุนในตลาด Bond ตอนนี้คงไม่เห็นด้วยกับข้อมูลของ FED การที่ 2 ฝ่ายนั้นเชื่อไม่ตรงกันทำให้มีฝ่ายใดฝ่ายนึงที่ต้องมองผิดไปแน่ๆ

ทาง FED เองเชื่อว่าค่าเงินจะไม่เฟ้อหนัก แต่นักลงทุนในตลาดพันธบัตรกลับคิดว่า FED อาจจะมองพลาดไป หรืออาจมีข้อมูลบางอย่างที่ FED พยายามจะปกปิดอยู่

เพราะหลังจากสหรัฐกลับมาเปิดประเทศแบบเต็มตัว หลายฝ่ายเชื่อว่าการจับจ่ายใช้สอยจะกลับมาสูงกว่าที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน และต้นทุนของสินค้าหลายอย่างก็อาจจะสูงขึ้นด้วยเพราะหลังภาวะไวรัสระบาด การย้ายฐานผลิตของสินค้าทั่วโลกอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

ถ้าทาง FED มองถูกจริง Bond Yield อาจจะกลับมาถูกซื้อกลับอีกครั้ง แต่ถ้าทางนักลงทุน Bond เป็นผู้มองถูก พันธบัตรระยะยาวก็จะยังโดนเทขายอย่างต่อเนื่อง และภาวะเงินเฟ้อจะเริ่มเข้ามากระทบตลาดหุ้นอีกต่อ

ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายมองได้ถูกหรือผิด แต่ความเสี่ยงนี้กำลังตกอยู่กับนักลงทุนทั่วโลก

สิ่งนึงที่นักลงทุนทั่วโลกควรจับตามองอย่างใกล้ชิด ตอนนี้คือ Bond Yield ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ #โดยเฉพาะนักลงทุนในกลุ่มหุ้น Tech หรือ Growth Stock

ถึงแม้คุณจะไม่เคยติดตามตัวเลขนี้เลยแต่เวลานี้คุณต้องเริ่มหันมาให้ความสนใจมันแล้ว ! เพราะตลาดพันธบัตรนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้นอยู่มากกว่า 4-5 เท่าทำให้

"คลื่นอะไรก็ตามที่กระเพื่อมเล็กน้อยในตลาดพันธบัตร จะส่งผลกระทบกลายมาเป็นคลื่นลูกใหญ่ในตลาดหุ้น และ Bond Market กำลังเป็นตลาดที่จะชี้นำทิศทางตลาดหุ้นในเวลานี้"

และถึงแม้ทาง FED จะยืนยันขนาดไหนว่าค่าเงินยังจะไม่เฟ้อ แต่ถ้าตลาด Bond ยังคงโดนเทขายต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วยังไงหุ้นกลุ่ม Growth และ Tech ก็จะหนีไม่รอดและยังจะโดนแรงกดดันอยู่ดี เพราะราคาตลาดเป็นผู้กำหนดทิศทางของเม็ดเงิน มากกว่าเพียงแค่คำพูดยืนยันของ FED และรัฐบาลสหรัฐ

ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย